ศบค.พอใจภาพรวมติดเชื้อทั่วประเทศลดลง

ทำเนียบฯ 10 พ.ย.-ศบค. เผยตัวเลขโควิดในไทย 6,978 ราย เสียชีวิต 62 ราย ชี้แนวโน้มติดเชื้อทั่วประเทศลดลง แต่ยังพบคลัสเตอร์โรงงาน-สถานประกอบการ-งานบวช-งานกฐิน –งานศพ   

พญ.สุมณี วัชรสินธุ์  ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. และผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยง และพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค  แถลงว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19ในประเทศรายใหม่ 6,978 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยรายใหม่ 6,387 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 237 ราย เรือนจำ/ที่ต้องขัง 346 ราย เดินทางจากต่างประเทศ 8 ราย รักษาหายป่วย 7,697 ราย หายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1, 873,184 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี2564 จำนวน 1,989,473ราย ผู้ป่วยรักษาตัว 96,463 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 41,559 ราย รพ. สนามและอื่นๆ 54,904 ราย อาการหนัก 1,877 รายใส่เครื่องช่วยหายใจ 423 ราย  ผู้เสียชีวิต 62 คน เสียชีวิตสะสม ตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 19,826 คน


       ส่วนตัวเลขการฉีดวัคซีนสะสมระหว่างวันที่ 28 ก.พ. – 9 พ.ย.2564 มีผู้รับวัคซีนเข็ม 1 วันนี้ 239,164 ราย ฉีดสะสม 44,355,673 รายและเข็ม 2 วันนี้ 520,475 รายฉีดสะสม 34,760,830ราย  เข็ม 3 วันนี้ 32,616 ราย ฉีดสะสม 2,644,559 รายรวม ทั้งหมด 81,761,062 โดส

ส่วนยอดตรวจ ATK วันที่ 10 พ.ย. 64 จำนวน 44,490 คน พบผลบวก 2,052 คน รวมยอดตรวจสะสมตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.- 10 พ.ย.64 จำนวน 3,795,672 คน ผลเป็นบวก 223,760 คน


     สำหรับผู้เสียชีวิต 62 คน เป็นชาย 29 คนเป็นหญิง 33 คน เป็นชาวไทย 58 รายและเมียนมา 4 ราย ค่ากลางอายุผู้เสียชีวิต 73 ปี อายุผู้เสียชีวิตระหว่าง 9-102 ปี ค่ากลางระหว่างการทราบผลติดเชื้อจนเสียชีวิต 11 วัน นานสุด 39 วัน พบอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป 45 ราย คิดเป็น 73% อายุน้อยกว่า 60 ปีมีโรคเรื้อรัง 11 ราย คิดเป็น 18% และเป็นผู้เสียชีวิตที่ไม่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 4 ราย คิดเป็น 6% และมีผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก 2 ราย อายุ 9 ปีที่จังหวัดสงขลา และอายุ 13 ปีที่จังหวัดตากไม่ได้รับการฉีดวัคซีน พบปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อในพื้นที่ 62 ราย, ติดจากคนรู้จัก 30 ราย, ติดจากครอบครัว 2 ราย และอาศัยในพื้นที่เสี่ยง 30 ราย แบ่งเป็น กรุงเทพมหานคร 5 ราย, ปริมณฑล 3 ราย, ภาคเหนือ 6 ราย, ภาคใต้ 23 ราย, ภาคอีสาน 9 ราย และภาคตะวันออก 16 ราย

ส่วน 10 อันดับแรก ของจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 10 พ.ย.2564 ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร 864 ราย สงขลา 479 ราย เชียงไหม่ 380 ราย ปัตตานี 356 ราย สมุทรปราการ 233 ราย นครศรีธรรมราช 224 ราย ชลบุรี 203 ราย ยะลา 202 ราย นราธิวาส 192 ราย และสุราษฎร์ธานี 183 ราย

       ทั้งนี้ยังพบคลัสเตอร์ จากโรงงานและสถานประกอบการ กรุงเทพฯ 78 ราย เพชรบุรี 42 ราย ปราจีนบุรี  21 ราย ราชบุรี 18 ราย  เชียงใหม่ 8 ราย สระแก้ว 3 ราย และ สุราษฎร์ธานี 3 ราย  รวมถึงยังพบคลัสเตอร์ในตลาด ที่กรุงเทพฯ 310 ราย เชียงใหม่ 53 รายชลบุรี 29 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 13 ราย จสระแก้ว 11 ราย กาญจนบุรี 5 ราย นอกจากนี้ยังพบคลัสเตอร์ ตลาดที่จังหวัดอื่นๆ เช่น จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดสุรินทร์จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดขอนแก่น


พญ.สุมณี กล่าวยังกล่าวถึงส่วนคลัสเตอร์พิธีกรรมทางศาสนา จากงานบวชและงานทอดกฐิน วันเดียวกันนี้รายงาน 2 จังหวัด คือ จังหวัดยโสธร 4 รายและจังหวัดร้อยเอ็ด 2 ราย และยังพบในคลัสเตอร์งานศพ จังหวัดพะเยา 35 รายจังหวัดสระแก้ว 6 ราย จังหวัดเชียงใหม่ 5 รายจังหวัดขอนแก่น 3 ราย และจังหวัดสุราษฎร์ธานี 2 ราย

     ทั้งนี้ แคมป์คนงานก่อสร้างยังพบการติดเชื้อ เชียงใหม่ 12 ราย สุราษฎร์ธานี 8 ราย ลำพูน 6 ราย อุทัยธานี 5 ราย ประจวบคีรีขันธ์และกาญจนบุรี  ส่วนคลัสเตอร์ระบาดในเรือนจำ พบที่จังหวัดนครราชสีมามากที่สุด  161 ราย กรุงเทพฯ 92 ราย รวมถึงจังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดสุพรรณบุรี

พญ.สุมณี กล่าวว่า ภาพรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศลดลงอย่างชัดเจน ทิศทางผู้ติดเชื้อในภาคกลางส่วนใหญ่ลดลง มีการเฝ้าระวังผู้ป่วยหลักหน่วยและหลัก 10 ใน 2 จังหวัด คือ สิงห์บุรีและชัยนาท ภาคตะวันออกจังหวัดส่วนใหญ่ลดลง แต่มีที่จังหวัดปราจีนบุรีและสระแก้วที่ยังทรงๆอยู่  ภาคตะวันตก ต้องเฝ้าระวังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งผู้ป่วยยังไม่ลดลงอย่างชัดเจน   ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย จังหวัดที่ทรงๆอยู่มีที่สุราษฎร์ธานี, พัทลุง ด้านจังหวัดนครศรีธรรมราช ยอดผู้ติดเชื้อลดลงจากจุดสูงสุด แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังกันต่อไป

ด้าน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเฝ้าระวังจับตาที่จังหวัดสงขลา, ปัตตานี ซึ่งตัวเลขยังคงที่และไม่ลดลงมาก ภาคใต้ฝั่งอันดามัน จังหวัดมีแนวโน้มลดลงชัดเจนอยู่ที่จังหวัดระนองและภูเก็ต โดยจังหวัดตรัง, สตูล, พังงา, กระบี่ มีแนวโน้มทรงๆ และมีการรายงานทิศทางแนวโน้มผู้ป่วยหลักสิบ ภาคเหนือตอนบน พบผู้ติดเชื้อยังไม่ลดลงชัดเจนที่จังหวัดเชียงใหม่, ลำพูน, แม่ฮ่องสอน และเชียงราย ภาคเหนือตอนล่าง ยังต้องเฝ้าระวังที่จังหวัด พิษณุโลก ภาคอีสานทั้งตอนบนและตอนล่างส่วนใหญ่มีทิศทางผู้ป่วยที่ลดลง-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มน้ำท่วมหลายพื้นที่ ส่งสัญญาณรับมือฤดูน้ำหลาก

เชียงราย 27 มิ.ย. – ชาวบ้านอย่างน้อย 4,000 ครอบครัวใน 5 อำเภอของเชียงราย เดือดร้อนหนักจากน้ำท่วม หลังฝนตกทั้งคืน โดยเฉพาะ อ.พญาเม็งราย วัดปริมาณฝนได้กว่า 300 มิลลิเมตร น้ำท่วมสูงเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ล่าสุดแม้ระดับน้ำที่ท่วมหลายจุดเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เตรียมรับมือฤดูน้ำหลากในปีนี้.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ คุยตรง “มาครง” หวังฝรั่งเศสประสานเอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” หารือ “ปธน.มาครง” ทางโทรศัพท์ กระชับความสัมพันธ์ ยันให้ความสำคัญกับบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนรับมืออาชญากรรมข้ามชาติ-ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ย้ำ ไทยหนุนกลไกล JBC ทำงานเดินหน้าด้วยดี หวัง ฝรั่งเศส ประสานความร่วมมือ เอื้อเจรจาทวิภาคีไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 16.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง (H.E. Mr. Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยนายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีมาครง แสดงความยินดีที่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีรับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ยืนยันความตั้งใจที่จะยกระดับความสัมพันธ์ไทย–ฝรั่งเศส สู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์โดยเร็ว พร้อมแสดงความยินดีหากประธานาธิบดีมาครง จะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในห้วงที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดขององค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (Organisation Internationale de la Francophonie : OIF) ที่กัมพูชาในปีหน้า ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เชิญนายกรัฐมนตรีเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ รวมถึงเชิญเข้าร่วมการประชุม Paris Peace Forum ที่ฝรั่งเศส เช่นกัน […]

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

“ภูมิธรรม” เผยวงถก สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกัมพูชา

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” เผยที่ประชุม สมช. ยังคุมเข้มมาตรการชายแดนกับกัมพูชา แต่ไม่เพิ่มมาตรการ เชื่อสถานการณ์จะดีขึ้น ความรุนแรงเป็นสิ่งสุดท้ายในการแก้ปัญหา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่าวันนี้มีการพิจารณาทบทวนมาตรการต่างๆ ในการดูแลพื้นที่ชายแดนมั้งหมด ยังยืนยันปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา ยังใช้มาตรการเดิมเพราะเป็นมาตรการที่ยังใช้ได้ และยืนยันจะใช้สันติวิธีและพยายามหลีกเลี่ยงผลกระทบ ไม่ให้ประชาชนสองฝ่ายได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ยังมีมาตรการสนับสนุนเจรจาของทั้งสองฝ่าย ส่วนการปิดด่านผ่านแดง ยังอยู่ใน ขั้นที่หนึ่งและสอง คือการจำกัดเวลาเข้าออก และการอนุญาตตัวบุคคล สิ่งที่กัมพูชาประกาศมาตรการใดๆ ออกมา โดยเฉพาะเรื่องการปิดด่านต่างๆ ถือเป็นเหตุและผลของกัมพูชา แต่ของไทยยังยืนยันในความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา ส่วนมากมาตรการ seal stop safe อยากให้กลับไปทบทวน ว่า สิ่งที่ดำเนินการไป 3-4 เดือน ให้เร่งดำเนินการประเมินผล ว่ายังต้องคงมาตรการตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า อยู่หรือไม่เพราะขณะนี้ชายแดน ส่วนที่เป็นปัญหาอยู่เดิมเริ่มลดน้อยลง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เข้าไปลึกกว่านั้น ก็ต้องดูว่าจะจัดการอย่างไร โดยมอบหมายให้คณะเล็กไปพิจารณาดำเนินการ ส่วนที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เสนอให้ยกเลิกการจัดกิจกรรม ครบรอบจากสถาปนาความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้เสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม […]