เขยโหดชักปืนยิงพ่อตา-ญาติดับ 2 ศพ ฉุนไม่ยอมให้คืนดีภรรยา

ลพบุรี 2 มิ.ย. – ลูกเขยโหด ตามง้อภรรยากลับบ้าน ถูกพ่อตาและญาติขัดขวาง ฉุนชักปืนยิงพ่อตาและญาติภรรยาเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 2 ราย


เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดเหตุสลด เมื่อลูกเขยโหดก่อเหตุจะมาของ้อคืนดีกับภรรยา แต่พ่อตาและญาติขัดขวาง นำอาวุธปืนบุกมายิงพ่อตาและญาติภรรยา เสียชีวิต 2 ศพ และบาดเจ็บ 2 ราย

ตำรวจ สภ.เพนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เป็นลานอเนกประสงค์ของหมู่บ้าน พบรอยเลือด ปืนและกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 14 นัด นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน ญาตินำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้าแล้ว

สอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายเฉลิมพล สวัสดิ์สลุง อายุ 43 ปี เดินทางมาที่บ้านของนายทองดี อุตบุญ อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นพ่อตา เพื่อขอคืนดีกับ น.ส.ศิริพร อุตบุญ อายุ 32 ปี ภรรยา หลังจากมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน แต่นายเฉลิมพลมีท่าทีเมาสุรา คุยกับพ่อตาและญาติเพื่อจะขอให้ภรรยากลับไปที่บ้านตนเอง แต่พ่อตาและญาติไม่ยอมให้คืนดี ทำให้นายเฉลิมพลไม่พอใจ ขับรถยนต์ออกไป


ต่อมาในช่วงค่ำ นายเฉลิมพลขับรถยนต์กระบะคันเดิมมาจอดที่ลานอเนกประสงค์ของหมู่บ้าน ก่อนเดินเข้าไปหาพ่อตาสาดกระสุนจำนวน 6 นัด นายพวงมณี พรมมา อายุ 65 ปี ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ ถูกยิง 1 นัด กระสุนแฉลบบริเวณหน้าอกเฉียดตาย ได้เข้าแย่งปืน กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับนายเฉลิมพล ศีรษะนายเฉลิมพลกระแทกกับพื้นแตกได้รับบาดเจ็บ ชาวบ้านช่วยกันจับตัวเอาไว้ได้

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้นายทองดี พ่อตา ซึ่งถูกยิงเข้าบริเวณสะบักขวา แขนขวา และเอว จำนวน 3 นัด และนายสามารถ บัววาด อายุ 60 ปี ญาติภรรยา  ถูกคมกระสุนยิงเข้าที่ท้อง 2 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา  ส่วนนายพวงมณีถูกยิงกระสุนแฉลบเฉียดหน้าอก ได้รับบาดเจ็บไม่มาก แพทย์ให้กลับบ้านได้ ส่วนนายเฉลิมพล เขยปืนโหด แพทย์ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลบ้านหมี่

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายเฉลิมพลไว้เพื่อดำเนินคดี ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต เพื่อพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย