กรุงเทพฯ 30 พ.ค.- ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรหลายประเภท
เดือนมิ.ย.ขยับดีขึ้นหลังทั่วโลกคลายล็อกดาวน์
แต่ข้าวราคามีแนวโน้มต่ำลงหลังเวียดนาม-อินเดียเริ่มกลับมาส่งออกมากขึ้น
นายสมเกียรติ กิมาวหา
รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า
ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือนมิถุนายนว่า มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น
เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในหลายประเทศเริ่มคลี่คลาย
โดยคาดการณ์ราคาสินค้าทคี่จะปรับขึ้น
ได้แก่เป็นดังนี้ ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว คาดราคาอยู่ที่ 16,084-16,159 บาท/ตัน
เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.68- 1.15 เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย
ขณะที่ความต้องการซื้อจากประเทศจีนยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาอยู่ที่ 10.59-10.90 เซนต์/ปอนด์ (7.46-7.68
บาท/กก.) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 2.00-5.00 เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลดีต่อราคาเอทานอล
และลดแรงกระตุ้นสำหรับโรงงานของบราซิลในการนำอ้อยไปผลิตน้ำตาล
ขณะที่ความต้องการใช้น้ำตาลในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น
ยางพาราแผ่นดิบ
ชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 35.25–35.50 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.54 – 1.50
,ปาล์มน้ำมัน
ราคา 2.69-2.74 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.37 – 2.24 ตามความต้องการใช้น้ำมันไบโอดีเซล
รวมถึงน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคเพิ่มขึ้น, สุกร
ราคาอยู่ที่ 67.69 – 68.58 บาท/กก.
เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 1.17–2.50
, กุ้งขาวแวนนาไม ขนาด
70 ตัว/กก. ราคาอยู่ที่ 136.00 – 138.00 บาท/กก.
เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนร้อยละ 0.00 – 1.47
ด้านสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง
ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาอยู่ที่
9,325-9,389 บาท/ตัน
ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.67-1.34 และข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 14,634-14,660
บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 1.15-1.33 เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่
ได้แก่ เวียดนาม และอินเดีย เริ่มมีการส่งออกข้าวมากขึ้น
ทำให้ผู้ประกอบการค้าข้าวรอดูสถานการณ์ราคาและมีแนวโน้มเสนอราคารับซื้อลดลง
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้น ไม่เกิน 14.5% ราคาอยู่ที่
7.52-7.56 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.50-1.00
เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูฝน (เก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป)
ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น
ประกอบกับเข้าสู่ช่วงฤดูฝนทำให้คุณภาพข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลดลง และมันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 1.62-1.67 บาท/กก.
ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.60 – 3.57
เนื่องจากคุณภาพมันสำปะหลังที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวได้มี เชื้อแป้งต่ำ
เป็นผลจากปัญหาภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ส่งผลทำให้ราคาให้ปรับตัวลดลง –สำนักข่าวไทย