“ธีรัจชัย” ชี้ เงื่อนไข พ.ร.ก.เอื้อกลุ่มทุนใหญ่ ไม่ใช่ SMEs

รัฐสภา 30 พ.ค.-  “ธีรัจชัย” ตั้งข้อสังเกต เงื่อนไข พ.ร.ก.ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 พ.ศ. 2563  เอื้อกลุ่มทุนรายใหญ่ ไม่ได้ช่วยเหลือ SMEs อย่างแท้จริง ขณะที่ “จุติ-ผู้ว่าฯ ธปท.” แจง รัฐบาลไม่ได้มุ่งอุ้มกลุ่มทุนรายใหญ่ การันตีเข้าถึง SMEs  ซอฟท์โลน  ขู่เอาผิดสถาบันการเงิน หากเอื้อกลุ่มทุน


นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปราย ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (30 พ.ค.) ซึ่งเป็นการประชุมวันที่ 4 ถึง พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 พ.ศ. 2563 วงเงินไม่เกิน 500,000 ล้านบาท โดยตั้งข้อสังเกตว่า  เงื่อนไขใน พ.ร.ก.ดังกล่าว สามารถเบี่ยงเบนไปเอื้อกลุ่มทุนขนาดใหญ่ได้

นายธีรัจชัย กล่าวว่า  การกำหนดเงื่อนไขให้ธนาคารแห่งประเทศไทยปล่อยกู้สถาบันทางการเงินในอัตราดอกเบี้ย 0.01  และให้สถาบันการเงินปล่อยกู้กับผู้ประกอบการในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 โดยยกเว้นดอกเบี้ย 6 เดือน และให้เฉพาะผู้ประกอบการที่มีสินเชื่อกับธนาคารแต่ละแห่งไม่เกิน 500 ล้านบาท ทำให้กลุ่ม SMEs   ได้รับประโยชน์หรือเข้าถึงน้อยมาก  


“ผู้ได้รับประโยชน์ตัวจริงคือกลุ่มทุนขนาดใหญ่ เพราะบริษัทไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่สามารถกู้ได้ทั้งหมด หากมีหนี้สินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาทต่อสถาบันการเงิน 1 แห่ง  ธนาคารพาณิชย์สามารถปล่อยกู้ได้ตามอำเภอใจ เอื้อต่อกลุ่มทุนขนาดใหญ่ได้ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นการสมคบระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่หรือไม่ เหตุใดจึงไม่เปิดโอกาสให้กลุ่มที่เป็น SMEs   จริงๆ” นายธีรัจชัย กล่าว

นายธีรัจชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ การกำหนดเงื่อนไขให้กู้เฉพาะผู้ประกอบการที่มีสินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์เท่านั้น กรณีที่ไม่มีเงินกู้ ไม่มีหลักประกัน และกรณีเป็นหนี้เสีย ไม่เข้าข่ายได้รับสินเชื่อ  SMEs  ทั้งหมด 3 ล้านราย มีสินเชื่อกับธนาคารรัฐและธนาคารพาณิชย์เพียง 1.9 ล้านราย แต่อีก 1.1 ล้านราย ไม่มีสินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์ และยังให้ใช้หลักเกณฑ์ว่า ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน จึงทำให้เหลือ SMEs   เพียงไม่กี่รายที่มีโอกาสได้รับสินเชื่อ ยิ่งถ้าเป็นหนี้เสีย ก็จะถูกตัดออกจากระบบตั้งแต่แรก  เพราะฉะนั้นจึงมีเพียงกลุ่มทุนขนาดใหญ่และกลุ่มผู้ประกอบการสินเชื่อชั้นดีเท่านั้น ที่ได้รับการช่วยเหลือ  

นายธีรัจชัย กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้ยืนยันได้ชัดเจนว่า พ.ร.ก.ฉบับนี้ไม่ได้ช่วยเหลือกลุ่ม SMEs อย่างแท้จริง  แต่เหมือนรัฐบาลจะรู้ว่า จะมีการอภิปรายเรื่องนี้ วันที่ 26 พ.ค. คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเพิ่มช่วยเหลือ SMES   จัดสรรวงเงินเพิ่มเติม 10,000 ล้านล้านบาท ให้กรณีที่ไม่มีสินเชื่อกับธนาคาร ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และมีหนี้เสีย สามารถกู้ได้ แต่ก็ยังคงเงื่อนไขเดิมไว้ ซึ่งก็เอื้อกลุ่มทุนใหญ่อยู่ดี ทำให้ผู้ประกอบการ SMEs  3 ล้านราย เสี่ยงล้มไม่ต่ำกว่า 2 ล้านราย คนตกงานไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน มีผลกระทบเป็นลูกโซ่ จากรัฐบาลที่ยึดถือเพียงมาตรการสาธารณสุข แต่ลืมมาตรการทางเศรษฐกิจ เกิดการยึดทรัพย์โดยธนาคาร ทำให้นายทุนรายใหญ่มาช้อนซื้อสินทรัพย์ดีๆ ในราคาถูก สร้างความเหลื่อมล้ำให้เกิดเพิ่มขึ้นไปอีก ส่งผลกระทบให้กลุ่มทุนมีขนาดใหญ่ขึ้น กำหนดราคาสินค้า ผูกขาดตลาดในอนาคต ทำให้คนรวยไม่กี่ตระกูลของประเทศกำหนดอะไรก็ได้ 


“พ.ร.ก.ฉบับนี้ จึงไม่สามารถช่วยเหลือ SMEs  ได้ มีแต่ซ้ำเติมให้หายไป จึงขอให้รัฐบาลทบทวน ใส่ใจประชาชน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการทำลาย SMEs และทำร้ายประชาชนไม่น้อยกว่า 29 ล้านคน จึงขอให้รัฐบาลทบทวนเรื่องเหล่านี้” นายธีรัจชัย กล่าว

จากนั้น นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชี้แจงว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติมาตรการต่างๆ โดยรอบคอบ  ไม่ได้ออกกฎหมายเพื่อกลุ่มทุน แต่มีหัวใจเพื่อดูแลคนตัวเล็ก ข้อมูลที่อภิปรายเป็นประโยชน์ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลพิจารณารายละเอียดรอบคอบ ขอประชาชนวางใจ  ยืนยันว่ารัฐบาลตั้งใจลดเหลื่อมล้ำ ให้เงินถึงประชาชนและ SMEs    ระดับล่างมากที่สุด แม้ดูตามหลักเกณฑ์แปลไปได้ว่าเอื้อกลุ่มทุน แต่คณะรัฐมนตรียืนยันว่า เรื่องต้องไม่เกิดขึ้น รัฐบาลไม่ละเลย

ด้าน นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  ยืนยันว่า ธปท.ได้ทำหนังสือเวียนไปยังสถาบันการเงินทุกสถาบัน ให้ทุกสถาบันการเงินให้ความสำคัญกับ SMEs  ที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงเงินทุน  และไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจากสถาบันการเงินใดก่อนเป็นลำดับแรก และต้องไม่ให้สินเชื่อเพิ่มเติมแก่ธุรกิจขนาดใหญ่ ที่มีศักยภาพเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากหลายช่องทางอยู่แล้ว เพื่อช่วยเหลือ SMEs ก่อนตามเจตนารมย์ของพระราชกำหนดฉบับนี้ โดยกำชับให้ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งปฏิบัติตามพระราชกำหนด 

ส่วนที่มีข้อกังวลว่าจะมีผู้ประกอบการรายใหญ่ได้รับประโยชน์ โดยการรับสินเชื่อจากสถาบันการเงินไปปล่อยกู้ต่อในอัตราดอกเบี้ยสูง เพื่อกินดอกเบี้ยส่วนต่างนั้น ผู้ว่าฯ ธปท. ชี้แจงว่า หากพบกรณีดังกล่าว สามารถรายงานมายัง ธปท.เพื่อติดตามตรวจสอบ และลงโทษสถาบันการเงินนั้นๆ และเรียกคืนซอฟท์โลนฐานละเมิดเจตนารมณ์พระราชกำหนดฉบับนี้  .- สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายฆ่าหญิงสาวยัดกระเป๋าเดินทางถ่วงน้ำ

ชลบุรี 3 ก.ย. – คดีสังหารโหดหญิงปริศนายัดกระเป๋าเดินทาง โยนทิ้งอ่างเก็บน้ำ จ.ชลบุรี ตำรวจเร่งหาเบาะแสล่าตัวคนร้าย พบลายนิ้วมือแฝงบนดัมเบลที่ใช้ถ่วงน้ำหนักกระเป๋า ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำกระเป๋าเดินทางสีดำขนาดใหญ่ ซึ่งมีโซ่เหล็ก และกุญแจล็อกแน่นหนา ขึ้นมาตรวจสอบ หลังจากพบลอยอยู่ในอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ จากการตรวจสอบภายในกระเป๋า พบศพหญิงสาว อายุประมาณ 30 ปี ไม่ทราบสัญชาติ เปลือยท่อนบน นุ่งกางเกงขา 3 ส่วน สีครีม นอนขดตัวอยู่ในกระเป๋า พบร่องรอยเขียวช้ำบริเวณลำคอ กลางหน้าอก และดั้งจมูก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลว่า ผู้ตายเป็นใคร มาจากไหน ส่วนบริเวณช่องใส่ของด้านหน้ากระเป๋า พบแผ่นดัมเบล 9 แผ่น (ขนาดน้ำหนัก 5 กก. จำนวน 1 แผ่น / 2.5 […]

แห่แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” ปมยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา

3 ก.ย. – แห่แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” ปมยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา ชี้ผิดมาตรา 112 และมาตรา 157 สะพัด! ตีกลับ พ.ร.ฎ.ยุบสภา เหตุไม่เป็นไปตามระเบียบ-กฤษฎีกาแย้งไร้อำนาจ ด้าน “อนุทิน” บอกยังเป็นแค่ข่าว รอรัฐบาลแจงดีกว่า นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และนายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เอาผิดนายภูมิธรรม เวชยชัย ในความผิดมาตรา 112 พร้อมเผยว่า การพยายามยื่นทูลเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภา ถือเป็นการกระทำที่มิบังควร เนื่องจากไม่มีอำนาจหน้าที่หรือสิทธิที่สามารถทำได้ นายไทกร ระบุว่า ได้รับข้อมูลว่านายภูมิธรรม นำเรื่องพระราชกฤษฎีกายุบสภาไปส่งยังสำนักพระราชวังแล้ว หนังสือฉบับนั้นได้ถูกส่งกลับมาที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่พรรคเพื่อไทยและนายภูมิธรรมยังไม่ยอมที่จะเคารพต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่รู้ว่าตนเองไม่มีสิทธิในการที่จะใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญเพื่อที่จะยุบสภา กลับมีความพยายามที่จะเรียกประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะใหญ่ โดยมีการทาบทามให้ ดร.วิษณุ เครืองาม และคณะ มาทำหน้าที่ เพื่อที่จะตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาขึ้นอีกฉบับใหม่ในวันพรุ่งนี้ เพื่อที่จะนำส่งสำนักพระราชวังอีกครั้ง ถือว่าการกระทำที่ไม่บังควร “ศุภชัย” […]

วิป 2 ฝ่ายโยน “วันนอร์” เคาะวันโหวตนายกฯ

รัฐสภาพ 3 ก.ย.- ไร้ข้อสรุป วิป 2 ฝ่ายโยน “วันนอร์” เคาะวันโหวตเลือกนายกฯ เหตุ “ภูมิธรรม” ยื่นยุบสภา ต้องไม่ก้าวล่วงพระราชอำนาจ ปัดยื้อเวลา อ้างเดินตามกระบวนการข้อกฎหมาย ยันไทยต้องมี “นายกฯ” แบบสง่างาม-ไร้ครหา นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมวิป 2 ฝ่ายว่า หากมีมติวันนี้ก่อนเวลา 16.30 น. จะสามารถเสนอให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุระเบียบวาระโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ภายในวันที่ 5 กันยายนนี้ แต่เนื่องจากฝ่ายรัฐบาลเดิม ชี้แจงว่า ขณะนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นเสนอพระราชกฤษฎีกาทูลเกล้าฯ เพื่อยุบสภา และอยู่ในกระบวนการ แต่เพื่อไม่ให้เป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจ ตนจึงขอที่ประชุมว่า อำนาจในการบรรจุระเบียบวาระเป็นของประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยในวันนี้นายวันมูหะมัดนอร์ จะลงจากการทำหน้าที่บนบัลลังก์ในเวลา 16.30 น. โดยตนได้หารือกับประธานสภาฯ ให้ลงจากการทำหน้าที่บนบัลลังก์ก่อน เพื่อที่จะได้เดินทางมาหารือกับวิป 2 […]

“ภท.” เปิดประวัติ-ผลงาน “อนุทิน” แคนดิเดตนายกฯ คนที่ 32

กทม. 3 ก.ย.- “พรรคภูมิใจไทย” โพสต์ประวัติ-ผลงาน “อนุทิน ชาญวีรกูล” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แถลงจัดตั้งรัฐบาลเสร็จเรียบร้อย ที่รัฐสภา โดยมีพรรคประชาชนประกาศสนับสนุน พร้อมรายชื่อ สส. 146 คน ร่วมสนับสนุนให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ล่าสุด เพจพรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์ภาพและประวัตินายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ทันที โดยระบุว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 การศึกษา2527 : โรงเรียนอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ2528 : Worcester Academy, Massachusetts U.S.A.2532 : B.S. in Industrial Engineering, Hofstra […]