สศอ. เผยกำลังการผลิตถดถอย อยู่ที่ 51.87% ตกต่ำสุดนับจากน้ำท่วมปี’54

กรุงเทพฯ 27 พ.ค. – สศอ.เผยกำลังการผลิตถอยหลังลงคลอง อยู่ที่ 51.87% ตกต่ำสุดนับจากน้ำท่วมปี’54


นายอิทธิชัย ยศศรี รองผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(เอ็มพีไอ) เดือน เม.ย.2563 อยู่ที่ระดับ 79.04 หดตัว 17.21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 95.47 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกและไทยหยุดชะงัก ต่อเนื่องมายังการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม(ไม่รวมทอง ยุทโธปกรณ์ และอากาศยาน) หดตัว เพราะโรงงานอุตสาหกรรมบางส่วนมีการหยุดการผลิตชั่วคราว เช่น กำลังการผลิตรถยนต์อยู่ที่ 12.64% เป็นต้น ทำให้ภาพรวมอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 51.87% ต่ำสุดในรอบ 8 ปี 5 เดือนนับจากวิกฤตน้ำท่วมใหญ่เดือนพ.ย.2554 เทียบกับเดือนก่อนหน้า 67.78%

โดยเบื้องต้นประเมินแนวโน้มเอ็มพีไอไตรมาส 2/2563 จะลดลงกว่าปัจจุบัน เนื่องจากมีบางอุตสาหกรรมหยุดการผลิตชั่วคราว เช่น รถยนต์ เห็นได้จากไตรมาสแรกของปีนี้ (ม.ค.-มี.ค.2563) หดตัว 6.36% และ 4 เดือนหดตัว 8.8% ขณะที่เอ็มพีไอในระยะข้างหน้าจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยสำคัญ คือ รัฐจะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อีกเมื่อไหร่และมากแค่ไหน แม้ขณะนี้จะเริ่มมีการผ่อนคลายบ้างแล้วแต่สถานการณ์ต่างๆ ยังไม่กลับมาเต็มที่ 100% จึงยังไม่มีความชัดเจนว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมก่อนที่จะเกิดโรคระบาดเมื่อไหร่ หลังจากนั้นจึงค่อยมาพูดถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจ จากที่ผ่านมากิจกรรมเศรษฐกิจถูกปิดทั้งหมด ช่องทางการจำหน่ายถูกปิด การบริโภคไม่เกิด


นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมโรคระบาดของประเทศต่างๆ ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งประเทศ หากประเทศที่เป็นตลาดส่งออกของไทยยังไม่สามารถควบคุมโรคระบาดได้ จะเป็นตัวแปรชี้วัดการผลิตภาคอุตสาหกรรมไทยต่อไป

ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การจับจ่ายใช้สอยจะกลับมาสู่ภาวะปกติก่อนเกิดโควิด-19 ได้หรือไม่/เมื่อไหร่ หากประเทศไทยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ต่างๆ หมดแล้ว ประชาชนกลับมาทำงานได้จะสามารถมีรายได้และเงินออมกลับมาเหมือนก่อนที่จะเกิดวิกฤตโควิด-19 หรือไม่ แม้รัฐบาลจะมีเงินเยียวยาช่วยเหลือค่าครองชีพให้ในระดับหนึ่ง แต่ก็จำเป็นต้องนำเงินออมที่มีอยู่มาใช้ทั้งหมดหรือบางคนอาจติดลบไปแล้ว ดังนั้นรายได้ที่กลับมาเข้าสู่ภาวะปกตินั้นจะสามารถชดเชยเงินออมที่ใช้ไปในช่วงล็อกดาวน์แค่ไหน ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าการจับจ่ายใช้สอยและเศรษฐกิจไม่น่าจะกลับมาเป็นปกติได้เร็วไปกว่าเดือนก.ย.2563 เป็นปัจจัยชี้วัดการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

“ภาพรวมอุตสาหกรรมจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับมาตรการล็อกดาวน์ต่างๆ ของรัฐบาลจะผ่อนคลายมากแค่ไหน เพราะการล็อกดาวน์ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจผ่อนคลายถูกปิดลง หากระดับการผ่อนคลายมากพอที่จะทำให้การบริโภคกลับมาขยายตัวได้เต็มที่ ประกอบกับภาวะการส่งออกของภาคอุตสาหกรรมไทยจะกลับมาได้เร็วแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ของต่างประเทศเป็นหลัก”


ทั้งนี้ สศอ.ยังคงติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 มาตรการควบคุมสถานการณ์ และมาตรการเยียวยาบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด รวมถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย เพราะมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอสำหรับการเพาะปลูกและเติบโตของพืช สร้างความเสียหายต่อผลผลิตต่อไร่ลดลง ส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงอุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบเกษตรได้

นายอิทธิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สศอ.ยังมีความเป็นห่วงผู้ประกอบการผลิตภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากยังไม่สามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ ซึ่งต้องยอมรับว่าอาจยากกว่าการควบคุมโรคระบาด โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ สศอ. มีความเป็นห่วงว่ายังเกิดปัญหาสภาพคล่อง ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนของธุรกิจได้

อย่างไรก็ตาม จากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์บางส่วน ทำให้การขนส่งสินค้าทั้งในและระหว่างประเทศสามารถกลับมาส่งสินค้าได้ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น บางอุตสาหกรรมจึงมีการขยายตัว เช่น อาหารขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.5% เป็นการกลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ 9 เดือน โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปและอาหารสัตว์ที่ได้รับคำสั่งซื้อจากประเทศจีนและสหรัฐ เป็นต้น . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ก.อุตฯ เตรียมส่งตรวจเหล็กตึก สตง. เพิ่ม 21 เม.ย.

ก.อุตสาหกรรม กางผลตรวจเหล็กตึก สตง.ถล่ม รอบแรก ก่อนส่งตรวจเพิ่มอีก 40 ท่อน 21 เม.ย. ย้ำผิดคือผิด! ผู้ผลิต-จนท.มีเอี่ยว เตรียมปิดเทอม

พายุฝนพัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี ทับโรงครัววัดพังราบ

พายุฝนลมกระโชกแรง ซัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี วัดนางเหลียว ล้มทับโรงครัวพังเสียหาย ชาวบ้านในงานศพตื่นตระหนก วิ่งหนีกระเจิง

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง.ถล่ม เข้าสู่วันที่ 24 เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง