มีนบุรี 30 พ.ย. – นายวิชัย โภชนกิจ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภคตลาดสายเนตร เขตคันนายาว พบว่า แนวโน้มราคาสินค้าอาหารสดโดยรวมเริ่มลดลง เนื่องจากสภาพอากาศดีขึ้นโดยเฉพาะราคาของเนื้อหมู ซึ่งขณะนี้ราคาจำหน่ายปรับลดลงมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 130 บาท สอดคล้องกับราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มกิโลกรัมละ 60 บาท และมีโอกาสที่จะปรับลดลงอีก โดยได้กำชับให้เขียงหมูปรับลดราคาลงใกล้เคียงกับราคาต้นทุน ขณะที่ผักใบ เช่น กะหล่ำปลี และถั่วฝักยาว ราคาเริ่มปรับลดลงตามสภาพอากาศที่ดีขึ้น
ส่วนราคาผักบุ้งและตำลึงราคาอาจจะปรับสูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็น ทำให้ผลผลิตออกน้อย แต่เชื่อว่าไม่กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนในปัจจุบัน เนื่องจากแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรทั้งข้าวและมันสำปะหลังเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะราคามันสำปะหลัง ซึ่งขณะนี้ราคาขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 2 บาทต่อกิโลกรัม และสอดคล้องกับราคาส่งออกแป้งมันที่ปัจจุบันปรับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 335 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่งผลให้กำลังซื้อภาคเกษตรดีขึ้น
นอกจากนี้ ภาครัฐได้มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำส่งผลให้ประชาชนมีกำลังซื้อ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงปลายปีมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการร้านค้าโดยเฉพาะร้านข้าวแกงไม่ควรฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาตามค่าแรง เพราะใช้แรงงานไม่มาก ประกอบกับ ค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับขึ้น 5-10 บาทรอบนี้มีผลต่อต้นทุนราคาสินค้าโดยรวมไม่ถึงร้อยละ 0.1 ซึ่งกลุ่มที่อาจจะได้รับผลกระทบบ้าง คือ กลุ่มโรงงาน เช่น โรงงานหมูและโรงงานไก่ที่มีแรงงานจำนวนมาก ขณะเดียวกันการปรับขึ้นค่าแรงจะส่งผลให้แรงงานมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นและผู้ประกอบการมียอดขายดีขึ้น ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยถูกลง ดังนั้น ผู้ประกอบการควรตรึงราคาไว้ในระดับเดิม .-สำนักข่าวไทย