เร่งล่ามือฆ่าม่ายสาว-ญาติดับ 2 ศพ หมกสวนลำไยเชียงใหม่

ภูมิภาค 26 พ.ค. – คดีม่ายสาวฐานะดีและญาติถูกฆาตกรรม 2 ศพ ตำรวจเก็บหลักฐานสำคัญเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา ระดมกำลังไล่ล่าตัวมาดำเนินคดี ส่วนปมสังหารชัดเจนว่ามาจากเรื่องชู้สาว


เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบบ้านพักในหมู่ 6 บ้านท่าข้าม ต.สบเปิง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.กมลทิพย์ สบกระสิบ อายุ 41 ปี ม่ายสาวฐานะดี ที่ถูกคนร้ายบุกมายิงเสียชีวิตพร้อมกับนายเจริญ มะณี อายุ 51 ปี เครือญาติ และห่อศพด้วยถุงดำและลากไปทิ้งที่สวนลำไยหลังบ้าน สภาพศพเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 2 วัน


ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบหัวกระสุนปืนตกอยู่บริเวณแปลงปลูกไม้ประดับที่ระเบียงหน้าบ้าน และบริเวณประตูบ้านมีรอยกระสุนปืนถาก อีกทั้งยังพบเศษกระดูกของนายเจริญ รวมทั้งกระจกหน้าต่างในบ้านมีรอยเลือดกระเด็นติด จึงรวบรวมเก็บไว้เป็นพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับ

เจ้าหน้าที่ได้หลักฐานสำคัญจากบ้านผู้ต้องสงสัยใน ต.แม่หอพระ ทั้งโทรศัพท์มือถือและกระดาษเขียนข้อความว่า “เจ็บใจมามากละกับผู้หญิงคนนี้ สอนลูกหลานว่าอย่าเล่นกับความรัก ส่วนเงินสดถอนออกมาหมดแล้ว 37,500 บาท และขอแบ่งทรัพย์สินให้กับลูก” 


นอกจากนี้ยังมีข้อความระบุไว้ว่า “ถ้าผมไม่ตาย ผมคงโดนอุ้มไปตายที่อื่น และหากตายให้เอาศพไว้ 1- 2 วันพอ” ลงชื่อ “นายไข่” หลักฐานดังกล่าวถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ขมวดปมสังหารได้ว่ามาจากเรื่องชู้สาว ขณะนี้ชุดสืบสวนได้เร่งตามหารถเก๋ง BMW สีขาว ไม่ทราบทะเบียน ซึ่งนายไข่ใช้ขับหลบหนี เบื้องต้นพบว่าเป็นรถของบริษัทที่นายไข่ทำงาน พร้อมสนธิกำลังปูพรมไล่ล่าผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ

ผู้ต้องสงสัยติดพันผู้ตาย 1 ปี ออกอุบายลวงฆ่า 2 ศพ

ข้อมูลจากการประชุมชุดสืบสวนฯ ซึ่งได้เชิญญาติของผู้ตายมาให้ปากคำ พบว่า น.ส.กมลทิพย์ ได้เลิกรากับสามีได้ประมาณ 20 ปี อยู่บ้านเพียงลำพัง ส่วนนายไข่ อายุ 43 ปี มาติดพันผู้ตายมานานเกือบ 1 ปี ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าวันที่ 23 พฤษภาคม “นายไข่” นำผลไม้มาให้แม่ผู้ตายเพื่อแก้บน  แต่ขณะนั้นผู้ตายไม่ยอมพูดด้วย ทำให้ “นายไข่” กลับไป และย้อนกลับมาใหม่อีกในช่วงเย็น อ้างว่าจะมาตัดหญ้าให้ แต่ผู้ตายไม่ยอม จากนั้นเวลาประมาณ 20.00 น. ผู้ตายกับ “นายไข่” มีปากเสียงกันเล็กน้อย  แม่ของผู้ตายได้ยินแต่ไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วย จึงเดินกลับบ้านที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 30 เมตร ทำให้ไม่แน่ชัดว่ามีการลงมือฆาตกรรมเมื่อใด

เช้าวันที่ 24 พฤษภาคม แม่ผู้ตายได้ไปหาที่บ้าน แต่บ้านถูกปิดเงียบ จึงคิดว่าออกไปข้างนอก และเมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) ลูกชายของผู้ตายมาหาที่บ้านเพราะติดต่อไม่ได้ จึงระดมกำลังกันตามหาและพบว่าเสียชีวิตที่สวนหลังบ้าน

สำหรับนายเจริญ ผู้เสียชีวิตอีกราย เป็นเครือญาติของ น.ส.กมลทิพย์ และมักมาช่วยทำงานที่บ้าน จึงอาจทำให้คนร้ายเข้าใจผิดและหึงหวง ก่อนออกอุบายลวงมาฆ่าอีกศพ ด้วยการไลน์เรียกให้มาหาที่บ้าน ก่อนยิงทั้งคู่เสียชีวิต 

ลุงของ น.ส.กมลทิพย์ ให้ข้อมูลว่า ผู้ตายเป็นคนดีและหน้าตาดี แต่เลิกกับสามีได้ประมาณ 20 ปี ที่ผ่านมามักจะช่วยเหลืองานหมู่บ้านมาโดยตลอด ยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่เคยเกิดเหตุในหมู่บ้าน แต่ที่ผ่านมาไม่เคยพบเห็นหรือรู้จัก “นายไข่”  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

เตรียมขอศาลอนุมัติหมายจับคนร้ายฆ่าเศรษฐินีและชายวัย 50 ปี

มือฆ่าเผา 2 ศพรับสารภาพ จ่อรื้อคดียัดท่อสายตำรวจ

ส่วนความคืบหน้าที่ จ.สงขลา ในคดีคนร้ายทั้งยิงทั้งทุบตีชาย 2 คนจนเสียชีวิต ก่อนนำศพไปเผาที่ข้างบ่อขยะเทศบาลนครหาดใหญ่ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ ล่าสุดศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับนายวิรัตน์ แก้วทองพันธ์ อายุ 36 ปี หรือ “แวว” ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ, อาวุธปืนและเครื่องกระสุน และลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ นายวิรัตน์ ถูกคุมตัวอยู่ที่ สภ.หาดใหญ่ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ในฐานะผู้ต้องสงสัยและถูกสอบปากคำอย่างเข้มข้น กระทั่งรับสารภาพว่าก่อเหตุเพียงลำพังจากจำนวนผู้ต้องสงสัยในคดี 3 คน

ทั้งนี้ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่เตรียมรื้อคดีเก่าที่นายวิรัตน์เคยตกเป็นผู้ต้องหาอุ้มฆ่ายัดท่อนายภีรนัฐ ชุมทอง อายุ 22 ปี สายลับของตำรวจปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ เมื่อปี 2560 แต่สู้คดีจนหลุด ซึ่งมีสาเหตุมาจากเรื่องยาเสพติดเช่นกัน เพื่อตรวจสอบดูว่ามีข้อบกพร่องจุดใดทำให้หลุด และกลับมาก่อเหตุซ้ำ

เร่งหาหลักฐานรถกระบะที่คาดว่าจะใช้ขนศพไปทิ้ง

ด้านเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 เข้าตรวจสอบเก็บรถกระบะโตโยต้า รีโว่ สีดำ ทะเบียน ขว 900 สงขลา ซึ่งเป็นรถกระบะของนายวิรัตน์ และคาดว่าเป็นรถที่ใช้ขนศพทั้งสองออกจากบ้านพักไปเผาอำพรางคดี พบกระบะท้ายรวมถึงห้องโดยสารเต็มไปด้วยดินโคลนที่คล้ายกับจุดพบศพ

นอกจากนี้ยังตรวจสอบเก็บลายนิ้วมือแฝงที่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีม่วง ทะเบียน กลต 347 ปัตตานี ที่จอดอยู่ในคอกวัวข้างบ้านนายวิรัตน์ เป็นรถของ “นายบ่าว” ผู้ต้องสงสัยอีกคนที่ตำรวจนำตัวมาสอบสวน แต่ยังให้การปฏิเสธ. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]

“สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ

3 ก.ค. – “สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งใหม่ จำนวน 14 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ .-สำนักข่าวไทย