นายกฯ แถลงผลเดินสายพบภาคเอกชน รับฟังปัญหาผลกระทบโควิด

กทม. 26 พ.ค. – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แจงผลเดินสายพบปะภาคเอกชน รับฟังปัญหาผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ขอบคุณที่เป็นส่วนสำคัญของทีมประเทศไทย พร้อมกำหนดนโยบายโควตางบจัดซื้อจัดจ้าง ต้องซื้อสินค้าบริการจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมกระจายตามท้องถิ่น


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงถึงการเดินสายพบภาคเอกชนหลังหารือกับสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า วิกฤติโควิด-19 ที่เรากำลังเผชิญอยู่นี้ ได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ไม่เพียงเป็นวิกฤติด้านสาธารณสุข แต่ยังเป็นวิกฤติที่รุนแรงมากที่ส่งผลกระทบต่อการทำมาหากินของประชาชนในด้านสาธารณสุข ประเทศไทยประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง โดยควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดได้ดีและรวดเร็ว หากเปรียบเทียบกับอีกหลายประเทศในโลก ผมรู้สึกทึ่งกับบุคลากรทางด้านสาธารณสุข ทั้งแพทย์ พยาบาล พนักงานส่วนงานต่างๆ ในสถานพยาบาล อสม.ทั่วประเทศ รวมถึงบุคลากรในภาคส่วนอื่นๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้อง แม้กระทั่งพนักงานทำความสะอาดในสถานที่ต่างๆ ทุกท่านล้วนเป็นบุคคลสำคัญ ตลอดจนการให้ความร่วมมือ และการมีวินัยของคนไทยทุกคน ทั้งการหมั่นล้างมืออยู่เสมอ และการใส่หน้ากาก โดยไม่ต้องมีกฎหมายบังคับเหมือนในบางประเทศ แต่คนไทยทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน จนเราประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ นี่เป็นสิ่งที่พวกเราควรภูมิใจในความสำเร็จของประเทศไทยของเรา

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งวิกฤติที่อยู่ตรงหน้าเราตอนนี้ นั่นคือวิกฤติเรื่องการขาดรายได้ หาเลี้ยงปากท้องของพี่น้องประชาชน ดังนั้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยจัดการกับวิกฤติเรื่องปากท้อง ผมได้เดินทางไปพบกับสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ ด้วยตัวของผมเอง ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เน้นสมาคมที่เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดเล็ก และคนทำมาหากินทั่วประเทศ เป็นสมาคมที่ผมอาจจะไม่มีโอกาสได้พบปะมาก่อน แต่ผมรู้ว่าเป็นภาคธุรกิจที่เจ็บปวดมากที่สุดจากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น


การที่ผมไปพบสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ ด้วยตัวเอง โดยขอให้ทุกท่านเล่าความเดือดร้อน รวมทั้งแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่างๆ ให้ผมทราบ เพราะผมต้องการรับฟังโดยตรง เพื่อเข้าใจความเดือดร้อนที่แท้จริงที่เกิดขึ้น เป้าหมายของผมคือ หาวิธีแก้ปัญหาตรงหน้า ที่จะสามารถทำได้ทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในระยะสั้นก่อน ซึ่งผมก็ได้รับข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์อย่างมากจากสมาคมต่างๆ

การไปพบสมาคมภาคธุรกิจยังทำให้ผมได้รับกำลังใจกลับมาด้วย เมื่อผมได้เห็นว่า มีผู้มีความรู้ความสามารถมากมาย ที่เชี่ยวชาญและรู้ชัดว่าต้องทำอย่างไรกับภาคธุรกิจของตัวเอง และสิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้น คือ เขาเหล่านั้นมีความรักความห่วงใยประเทศ เขาไม่เพียง “ขอ” ความช่วยเหลือให้กับภาคธุรกิจของตัวเอง แต่เขายังได้นำเสนอสิ่งที่จะดีสำหรับประเทศชาติด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า วันนี้ผมขอรายงานผลที่ได้จากการไปพบปะหารือกับสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ มีหลายอย่างที่ผมได้สั่งการให้เกิดขึ้นแล้ว และอีกหลายอย่างที่ผมตัดสินใจแล้วว่า จะผลักดันให้เกิดขึ้น


อย่างแรก ผมได้สั่งการในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป จะเป็นนโยบายกำหนดโควตาของงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างที่ตั้งไว้แล้ว ต้องไปซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม รวมไปถึงผู้ประกอบการเล็กๆ ในท้องถิ่นต่างๆ ทั้งนี้พิจารณาให้อยู่ในกรอบของข้อกฎหมาย นั่นหมายความว่าเงินจะถูกกระจายออกไปเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจรากหญ้า ผู้ประกอบการขนาดเล็ก และกลุ่ม SME ทั่วประเทศ โดยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ผ่านมาตรฐานรับรองตามกฎหมาย โดยจะต้องจัดทำบัญชีผลิตภัณฑ์ขึ้นทะเบียนให้ทราบล่วงหน้า เพื่อพิจารณา อย่างเช่น การขึ้นบัญชีนวัตกรรมที่ดำเนินการมาแล้ว และเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่สั่งการนี้เกิดขึ้นจริง ผมจะติดตามเรื่องนี้ด้วยตัวเอง โดยได้สั่งการให้หน่วยงานภาครัฐทำรายงานให้ผมรับทราบตอนสิ้นปี นอกจากนั้น อยากขอความร่วมมือจากบริษัทขนาดใหญ่ต่างๆ หากต้องซื้อของ หรือใช้บริการอะไร ขอให้ช่วยกันสั่งซื้อของและใช้บริการจากผู้ประกอบการ SME ในประเทศของเรา เนื่องจากกลุ่ม SME ได้สร้างงานสร้างอาชีพให้กับพี่น้องมากกว่า 14 ล้านคนทั่วประเทศ และเป็นฟันเฟืองที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย

ประการที่ 2 ผลจากการหารือกับสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ผมได้รับทราบว่า สถานที่ค้าขายต่างๆ รวมทั้งศูนย์การค้า ห้างร้าน ต่างต้องการให้รีบเปิดสถานที่ค้าขายโดยเร็วที่สุด เพื่อกลับมาทำมาหากินกันได้อีกครั้ง โดยตัวแทนของภาคธุรกิจได้เล่าถึงวิธีการ และความพร้อมในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ที่ห้างร้านต่างๆ ได้เตรียมการกันไว้อย่างเข้มงวด ทำให้ผมสบายใจในระดับหนึ่ง และทำให้ผมได้สั่งการ เริ่มเปิดห้างร้านต่างๆ ได้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขอขอบคุณสำหรับการลงทุนและความเข้มงวด ที่ทุกคนพยายามช่วยกันดูแลรักษาสุขอนามัยให้ได้อย่างเหมาะสม

ประการที่ 3 ในส่วนของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งได้บอกชัดเจนว่าต้องการให้นักท่องเที่ยวกลับมาโดยเร็ว ประเด็นนี้ผมอยากบอกกับทุกคนว่าผมรับทราบ และเข้าใจความต้องการของท่าน ซึ่งผมจะดำเนินการตามที่ท่านเสนอ เมื่อผมเห็นว่าความเสี่ยงของการแพร่ระบาดโควิด ลดลงไปอยู่ในระดับที่เราจะยอมรับความเสี่ยงนั้นได้ เพราะสิ่งที่เราต้องระมัดระวังอย่างมากคือ ถ้าเราเปิดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยได้เร็วเกินไป หากนำเชื้อโควิดเข้ามาด้วย ทุกอย่างที่เราทำมาได้ดีทั้งหมดจะเสียเปล่า แล้วเราจะต้องกลับไปเริ่มต้นกันใหม่ ปิดทุกอย่างอีกครั้ง ซึ่งนั่นจะเป็นหายนะอย่างแท้จริงสำหรับทุกคนในประเทศ นี่จึงเป็นช่วงเวลาที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หาจุดสมดุลของการดูแลเรื่องสาธารณสุข และการช่วยเหลือเรื่องการทำมาหากินของประชาชน ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่า ผมนึกถึงพี่น้องนับล้านๆ คนที่ต้องพึ่งพาหารายได้จากธุรกิจท่องเที่ยว อยู่ตลอด

ประการที่ 4 ผมได้สั่งการและสนับสนุนให้หน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐพิจารณาการใช้งบประมาณที่มีอยู่แล้วสำหรับการจัดประชุมสัมมนา ขอให้ออกไปใช้สถานที่ หรือโรงแรมในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ผมหวังว่านี่จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยได้กำชับด้วยว่า ขอให้เลือกใช้โรงแรมที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย

ประการที่ 5 จากการหารือกับสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ ทำให้ได้รับทราบว่ามีแรงงานในบางภาคธุรกิจและในบางพื้นที่ ซึ่งนายจ้างจำเป็นต้องปิดกิจการชั่วคราว แต่แรงงานกลับไม่ได้รับเงินชดเชยประกันสังคม อาจจะด้วยปัญหาความไม่ชัดเจนในวิธีการพิจารณาและวิธีปฏิบัติ เมื่อทราบข้อเท็จจริง และพิจารณาเหตุผลต่างๆ แล้ว ผมเห็นด้วยว่าเป็นประเด็นที่ต้องรีบแก้ไข ผมจึงได้สั่งการ และขณะนี้ได้ดำเนินการให้มีความชัดเจนแล้ว ผู้ปฏิบัติสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง และแรงงานก็ได้รับเงินชดเชยจากประกันสังคม

ประการที่ 6 ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือกับสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ผมได้รับทราบถึงสิ่งที่เกษตรกรกังวลใจมากที่สุด มากกว่าโควิด นั่นคือ ปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำ จึงได้สั่งการไปแล้วว่าให้หาวิธีการรับมือกับสถานการณ์น้ำในช่วงนี้ก่อนโดยทันที อะไรที่ทำแล้วจะช่วยได้บ้าง ก็ขอให้ทำไปก่อน ซึ่งผมขอแจ้งให้ทราบว่า จากข้อมูลและข้อเสนอแนะที่มีประโยชน์จากสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ขณะนี้ตัวแทนชาวนาและเกษตรกรกำลังจัดทำแผนปฏิบัติที่ตรงจุด ซึ่งจะนำเสนอให้ผมพิจารณาเร็วๆ นี้ และผมจะมารายงานให้ทุกท่านทราบในโอกาสต่อไป

ประการที่ 7 จากที่ได้ไปพบและหารือกับสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ซึ่งได้นำเสนอข้อมูลและข้อเสนอแนะที่สำคัญให้ทราบ เพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหาในระยะยาวของภาคการประมง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อกฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของการประกอบอาชีพ ซึ่งผมเห็นด้วยในหลายเรื่อง แต่ด้วยมีความซับซ้อนอยู่หลายประเด็น ผมจึงสั่งการให้ตั้งทีมทำงานขึ้นมา เพื่อช่วยกันคิดวิธีแก้ปัญหา แล้วรายงานให้ผมทราบโดยตรง สิ่งสำคัญที่สุด คือ ผมจะเชิญตัวแทนจากสมาคมประมง ทั้งประมงพาณิชย์ และประมงพื้นบ้าน เข้ามานั่งเป็นทีมทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของภาครัฐด้วย เพื่อให้เราได้ยินเสียงจากคนที่ทำมาหากินอยู่ในอาชีพจริงๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทำให้เราหาวิธีแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง ตรงจุด และรวดเร็ว

นี่เป็นส่วนหนึ่ง บางเรื่องที่ได้สั่งการไปแล้ว และเริ่มเกิดการปฏิบัติแล้วในระดับนโยบายและสั่งการแก้ไขปัญหา หาวิธีการที่เหมาะสมโดยยึดกฎหมายเป็นหลัก ทั้งกฎหมายสากล และกฎหมายในประเทศ

สุดท้ายนี้ การเดินทางไปพบปะสมาคมภาคธุรกิจต่างๆ ทำให้ได้พบกับบุคคลที่น่าประทับใจหลายท่าน ขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างมากที่เป็นส่วนสำคัญของทีมประเทศไทยของเรา สิ่งที่อยากจะขอบคุณเป็นพิเศษคือ การที่ท่านทั้งหลายไม่เพียงมีความห่วงใยในภาคธุรกิจของตัวเอง แต่ทุกท่านยังมีความห่วงใยต่อประเทศด้วย นี่คือหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของคนไทย และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยของเราให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเข้มแข็งต่อไป. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]