ศบค. เผยผู้ป่วยใหม่ 2 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย

ทำเนียบฯ  25 พ.ค.- ศบค. เผยผู้ป่วยใหม่ 2 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ระบุหากประชาชนกังวลเกี่ยวโยงกับผู้ป่วยก่อนหน้า สามารถตรวจหาเชื้อได้ ขอความร่วมมือการ์ดอย่าตก เพื่อรองรับมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 3 ต่อไป


นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้ (25 พ.ค.) ไทยมีรายงานผู้ป่วยใหม่ 2 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 3,042 ราย รักษาหาย 2,928 ราย รักษาอยู่ 57 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 57 ราย โดยผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็น หญิงไทย อายุ 68 ปี มีโรคประจำตัวคือเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพรเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ต่อมาผู้ป่วยมีอาการไข้หอบเหนื่อยและย้ายเข้าไอซียูและห้องแยกความดันลบพร้อมส่งตรวจเชื้อพบป่วยโควิด-19 จากนั้น อาการแย่ลง ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจและเสียชีวิตในวันที่ 24 พฤษภาคม ด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน

โฆษก ศบค. กล่าวว่า ส่วนผู้ป่วยใหม่ 2 ราย รายแรกเป็นหญิงอายุ 46 ปี สัญชาติจีน เป็นภรรยาของผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าคือชายสัญชาติอิตาลี ที่ได้เข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม พร้อมครอบครัว รวม 5 คน เพื่อพาลูกมาเรียนว่ายน้ำ ต่อมาวันที่ 30 มีนาคม ย้ายมาพักที่ตำบลเชิงทะเล เนื่องจากกลับประเทศไม่ได้ และตรวจพบเชื้อ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม โดยไม่มีอาการ  อีกรายเป็นหญิงไทย อายุ 55 ปี อาชีพพนักงานนวด เดินทางกลับจากประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม และเข้าพักในสถานที่ที่รัฐจัดให้ที่จังหวัดชลบุรี และตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 24 มีนาคม โดยไม่มีอาการ


นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวถึง กรณีของผู้ป่วยชายไทยอายุ 72 ปีที่ตรวจพบก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีประชาชนกังวลและสอบถามเข้ามาหลังจากผู้ป่วย ไปใช้บริการที่ร้านอาหารแล้วร้านตัดผมย่านประชาชื่น โดยย้อนระยะเวลาในช่วงต่าง ๆ ของชายคนดังกล่าว ก่อนการตรวจพบเชื้อระหว่างวันที่ 30 เมษายนถึง 18 พฤษภาคม พบว่า วันที่ 30 เมษายน ได้เดินทางไปรับยาเคมีบำบัดที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งและ 7 พฤษภาคม ไปทำ bone scan ที่โรงพยาบาลรัฐแห่งที่สอง  จากนั้นวันที่ 12 และ 14 พฤษภาคม เดินทางไปทำธุระที่โรงพยาบาลทั้งสองแห่ง และวันที่ 15 พฤษภาคมไปตลาดแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี  วันที่ 16 พฤษภาคมไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งที่หนึ่งในช่วงเช้า และวันที่ 17 พฤษภาคม เริ่มมีอาการหนาวสั่น อ่อนเพลีย แล้ววันที่ 18 พฤษภาคม เข้าตรวจรับยาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง จากนั้นรับประทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่งและไปตัดผมย่านประชาชื่นและ ในช่วงกลางคืนเริ่มมีอาการไข้ หนาวสั่น ไอ เรียกรถพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนมารับที่บ้าน จากนั้นย้ายไปรับการรักษาที่ศูนย์การแพทย์จักรีนฤบดินทร์ 

โฆษก ศบค. กล่าวว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่ร้านตัดผมที่ผู้ป่วยไปใช้บริการพบว่าปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐกำหนด  โดยมีการคัดกรองลูกค้าก่อนเข้าร้านและพนักงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัย และ Face shield ตลอดเวลาที่ให้บริการรวมถึงมีการจัดเก้าอี้ด้วยการเว้นระยะห่าง และไม่มีลูกค้านั่งรอรับบริการภายในร้าน เช่นเดียวกับร้านอาหารที่ผู้ป่วยไปรับประทานมีการจัดโต๊ะโดยเว้นระยะห่างมากกว่า 1 เมตรและมีจุดให้บริการล้างมือสำหรับลูกค้าและทำความสะอาดภายในร้านก่อนและหลังให้บริการและพนักงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัย

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โลก พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 5,498,577 ราย เสียชีวิต 346,688 ราย สหรัฐอเมริกาพบติดเชื้อมากที่สุด  1,686,436 ราย  ขณะที่ไทยอยู่ที่อันดับที่ 76 ของโลก โดยประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศพบว่าที่เกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อจากผับย่านอิแทวอน สูงถึง 225 รายจากผู้ติดเชื้ออายุ 29 ปีเพียงรายเดียว โดยมีค่าระบาดอยู่ที่ 1.3 คือผู้ป่วยหนึ่งคนสามารถติดเชื้อให้กับผู้อื่นได้มากกว่าหนึ่งราย โดยพบว่าเป็นการระบาดในตอนที่สองและตอนที่สามแล้ว ทำให้ทางการเตรียมออกมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้นในการบังคับใส่หน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะ


นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าเด็กอนุบาลติดเชื้อโควิด-19 หนึ่งราย จากโรงเรียนสอนศิลปะ ก่อนวันที่เกาหลีใต้จะเริ่มเปิดโรงเรียนของรัฐในกรุงโซล ทำให้ทางการต้องสั่งปิดโรงเรียนเอกชนหลายแห่งในทางใต้ของกรุงโซล และกำลังพิจารณาว่าจะเลื่อนการเปิดโรงเรียนทั่วประเทศหรือไม่

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวถึงการใช้งานแพลตฟอร์มไทยชนะ ผ่าน www.ไทยชนะ.com ว่า การใช้งานเมื่อวานนี้(24 พ.ค.) เวลา 21.00 น. พบว่ามีร้านค้าลงทะเบียน 106,235 ร้าน  มีผู้ใช้งาน 11,757,624 คน มีผู้เช็กอิน 27,101,565 คนและเช็กเอาท์ 19,204,736 คน และมีการประเมินร้านค้า 10,867,125 คน พร้อมกันนี้ ขอให้ระมัดระวังเว็บไซต์ ไทยชนะของปลอม ที่หลอกให้โหลดแอพเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคล ขณะที่เว็บไซต์ไทยชนะของจริง ชื่อเว็บ www.ไทยชนะ.com และ www.thaichana.com โดยสามารถใช้งานผ่านเว็บโดยไม่ต้องโหลดแอพใดๆ 

โฆษก ศบค. กล่าวถึงผู้ฝ่าฝืนการประกาศเคอร์ฟิว โดยออกนอกเคหสถาน 254 รายและชุมนุมมั่วสุม 5 ราย โดยสาเหตุการชุมนุมมั่วสุมสองอันดับแรกคือ ลักลอบเล่นการพนัน ร้อยละ 80 และเสพยาเสพติด ร้อยละ 20 

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวในช่วงตอบคำถาม โดยชี้แจงเพิ่มเติมว่า หากประชาชนมีข้อสงสัยจะเป็นกลุ่มเสี่ยง หรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งเป็นชายไทย อายุ 74 ปี ในรายยืนยันก่อนหน้านี้ ซึ่งได้ใช้บริการร้านตัดผมย่านประชาชื่นและโรงพยาบาลนั้น ในส่วนของรายชื่อโรงพยาบาล มีการเปิดเผยในสื่อฯโซเชียลแล้ว ว่าเป็นโรงพยาบาลของรัฐที่มีชื่อเสียงและสังกัดกองทัพบก แต่หากประชาชนมีข้อสงสัยและกังวลจะมีความเกี่ยวโยงกับผู้ป่วยรายดังกล่าว สามารถขอรับการตรวจได้ทันที ซึ่งรัฐบาลต้องการให้กลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจให้มากที่สุดอยู่แล้ว 

ส่วนกรณีที่มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเดินทางจากกรุงเทพมหานคร และเสียชีวิตระหว่างกักตัวเองในบ้านพักนั้น นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้ชุดข้อมูลต่าง ๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการสืบสวนโรค ซึ่งต้องรอผลยืนยันว่าผู้เสียชีวิตป่วยเป็นโรคโควิด-19 หรือไม่ เพื่อให้มั่นใจในการปฏิบัติมาตรการต่อไป และหากญาติหรือบุคคลใกล้ชิดสงสัยจะเป็นกลุ่มเสี่ยง สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับการตรวจหาเชื้อได้ จะได้เป็นการป้องกันระดับหนึ่ง

โฆษก ศบค. กล่าวฝากในช่วงท้ายว่า ในช่วงสัปดาห์นี้จะเข้าสู่การเตรียมความพร้อม รองรับการประกาศผ่อนคลายมาตรการ ระยะที่ 3 ต่อไป ซึ่งผลของการปฏิบัติตัวในช่วงนี้ จะชี้วัดว่าสถานการณ์จะผ่านไปได้ดีหรือไม่ ดังนั้นขอให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันหลัก 5 ข้ออย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นสิ่งที่ป้องกันได้ดีที่สุด และขอให้การ์ดอย่าตก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย