คุมตัวพ่อฆ่าปาดคอลูกชายยัดกระสอบทำแผนฯ ซ้ำอีกรอบ

สงขลา 24 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาฆาตกรรมลูกชายแท้ๆ ยัดกระสอบฝังดิน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างละเอียดอีกครั้งในวันนี้ ก่อนที่พรุ่งนี้จะนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังครั้งแรก


ความคืบหน้าคดีที่นายอรุณ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอนายชาญชัย อายุ 21 ปี ลูกชายแท้ๆ ก่อนยัดศพใส่กระสอบปุ๋ยขุดหลุมฝังดินบนเนินเขาป่าสวนยาง หมู่ 9 ต.นาหม่อม อ.นาหม่อม  จ.สงขลา ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาออกจากห้องขัง สภ.นาหม่อม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างละเอียดซ้ำอีกครั้ง หลังจากเมื่อวานทำแผนฯ ไปแล้ว 1 ครั้ง พร้อมกับให้จุดธูปขอขมาที่จุดเกิดเหตุ


สำหรับการทำแผนฯ วันนี้ เริ่มตั้งแต่ทั้งสองคนขี่รถออกจากบ้านไปกรีดยาง รวมถึงไปตรวจสอบจุดที่ทั้งคู่ทะเลาะกัน ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่าผู้ตายชักมีดออกมาทำท่าจะแทง แต่ได้แย่งมีดมาได้ ก่อนปาดคอ ยัดศพใส่กระสอบลากลงไปขุดหลุมฝังชายป่า ก่อนนำจอบและมีดไปทิ้ง 

ตลอดการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ (24 พ.ค.) นายอรุณมีสีหน้าที่เรียบเฉย และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี จากนั้นตำรวจได้นำตัวกลับมาคุมขังไว้ที่ สภ.นาหม่อม ก่อนที่จะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลจัหวัดสงขลาฝากขังเป็นครั้งแรก และคาดว่าจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ โดยได้จัดกำลังดูแลตลอด 24 ชั่วโมงเนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาอาจทำร้ายตัวเองหนีความผิด


ส่วนความคืบหน้าในการหาหลักฐานประกอบสำนวนคดี เจ้าหน้าที่ EOD พร้อมชุดสืบสวนฯ ได้จัดกำลังออกค้นหามีดที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ โดยใช้เครื่องสแกนโลหะตรวจพื้นที่จุดที่ผู้ต้องหาอ้างว่าทิ้งมีด รวมถึงการค้นหาด้วยมือเปล่า แต่ใช้เวลา 3 ชั่วโมงยังไม่พบของกลาง ซึ่งผู้ต้องหาอาจบอกไม่ตรงจุด และต้องไปสอบปากคำอีกครั้ง

เร่งสืบสวนให้ชัดปมวางแผนฆ่า จบปัญหาสัมพันธ์พ่อ-ลูก

สำหรับการสอบปากคำพยานแวดล้อม ทั้งภรรยาผู้เสียชีวิต ภรรยาผู้ต้องหา และน้องชายผู้เสียชีวิต ให้การตรงกันว่า สาเหตุมาจากการที่นายอรุณแอบไปมีสัมพันธ์กับลูกสะใภ้ ซึ่งเป็นภรรยาของลูกชาย ทั้งที่ฝ่ายหญิงไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวด้วย ผู้เสียชีวิตจับได้จนกลายเป็นที่มาของการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างพ่อกับลูกบ่อยครั้ง กระทั่งเกิดเหตุฆาตกรรมในคืนวันที่ 30 เมษายน ก่อนที่จะมีผู้ไปพบศพอยู่ในกระสอบปุ๋ย เมื่อในวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตำรวจขยายผลบุกจับกุมผู้ต้องหาขณะไปกบดานที่บ้านพักของภรรยาคนปัจจุบันที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เมื่อเย็นวานนี้ (23 พ.ค.) 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ปมสังหารที่ชัดเจนของผู้ต้องหาต้องสืบสวนอย่างละเอียด เพราะผู้ต้องหาอ้างว่าต้องฆ่าเพราะลูกชายติดยาและเคยพยายามทำร้ายมาหลายครั้ง แต่ในทางสืบสวนต้องดำเนินการให้ชัดเจนว่ามีการวางแผนก่อเหตุเพื่อจบปัญหาระหว่างพ่อลูกหรือไม่ เนื่องจากหากมีการวางแผนจะต้องถูกดำเนินคดีฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีโทษสถานเดียว คือ ประหารชีวิต

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหากับผู้ต้องหา 2 กระทง คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายอรุณเคยถูกจับและต้องโทษมาแล้ว 2 ครั้งในคดียาเสพติดและพยายามฆ่า. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด