กรุงเทพฯ 23 พ.ค.-“วิษณุ” ยอมรับศบค.เสนอลดเคอร์ฟิว โยนสมช. เคาะเที่ยงคืนถึงตีสี่หรือไม่ อังคารนี้ครม.ถกต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 : ผอ.ศบค.) มอบหมายให้พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ในฐานะคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) พิจารณาความเป็นไปได้ที่จะลดเวลาเคอร์ฟิวจาก 24.00-04.00 น.ว่า มีการนำเสนอขึ้นมาในที่ประชุมแต่ยังไม่ใช่มติ
ส่วนจะเชื่อมโยงหลังการผ่อนคลายในระยะที่ 3 ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นไปได้ แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.การรบรริหารรราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปหรือไม่ เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าไม่ใช้ต่อ เรื่องเคอร์ฟิวไม่ต้องพูดถึง แต่หากประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อ การนำเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้าไม่จำเป็นว่า เมื่อประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว จะต้องบังคับใช้มาตรการทุกอย่าง ทั้งนี้ การประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นไปตามมาตรา 5 แต่ผลของการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะเป็นไปตามมาตรา 9 ซึ่งมีอยู่ 7-8 ข้อ ดังนั้นจะเลือกใช้เป็นบางข้อก็ได้
“เหมือนที่ผ่านมา เราประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตามมาตรา 5 และประกาศใช้มาตรา 9 เกือบทุกข้อ ซึ่งข้อแรกคือเรื่องเคอร์ฟิว ดังนั้น ถ้าต่อไปเราประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินอาจจะเลือกบังคับใช้ตามมาตรา 9 เพียงบางข้อก็ได้ เช่น เคอร์ฟิวไม่มีก็ได้หรือจะลดเวลาเคอร์ฟิวให้สั้นลงก็ได้ หรือเวลานี้ห้ามชุมนุม ต่อไปอาจจะไม่ห้ามก็ได้ ซึ่งนี่คือตัวอย่าง ที่ยกให้ฟังเพื่อให้เห็นว่า การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กับการบังคับใช้มาตรการใดบ้างเป็นคนละส่วนกัน แต่ถ้าไม่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็ใช้ข้อไหนไม่ได้เลย” นายวิษณุ กล่าว
สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความพอใจในภาพรวมแล้วบอกต่อที่ประชุม ศบค.อย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า สถิติดูดีขึ้น ถ้าดูตัวเลขของสถิติแต่ทางการแพทย์ยืนยันว่า ที่สถิติดีขึ้นนั้นเป็นผลจากการควบคุม แต่ถ้าเราไม่ควบคุม สถิติก็อาจจะแย่ลงก็ได้ ดังนั้นขอให้ตรึงไว้สักระยะหนึ่ง แล้วค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลงตามลำดับ
นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนเรื่องโรงเรียนที่ประกาศปิดโรงเรียนและให้เรียนออนไลน์ และเลื่อนเปิดภาคเรียนนั้น เป็นคนละเรื่องกับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นมติครม. ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ซึ่งเรื่องการเปิดเรียน นายกรัฐมนตรีย้ำในที่ประชุมศบค.ขอให้ใช้คำว่าระบบเรียนทางไกล ไม่ควรใช้คำว่าเรียนออนไลน์ เพราะการเรียนทางไกล อาจจะใช้ระบบทางโทรศัพท์ และยังสามารถเรียนผ่านโทรทัศน์หรือดาวเทียม มีหลายวิธี
“เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ที่สอนทางไกลกันมาอยู่แล้วตั้งแต่ยังไม่มีโควิด-19 เป็นการเรียนทางไกลโดยซื้อตำรามาอ่านเรียนเองที่บ้าน นายกรัฐมนตรีย้ำว่าไม่ได้แปลว่าจะต้องทำตลอดไปและม่ได้แปลว่าจะต้องทำทุกวิชา และไม่ได้แปลว่าจะต้องทำกับเด็กทุกคน ระดับอนุบาลอาจจะอย่างหนึ่ง ระดับประถมอีกอย่างหนึ่ง และอาจจะเลือกเรียนเป็นบางวิชา เพื่อลดความเสี่ยง ลดความแออัด เพื่อให้เหลือน้อยชั่วโมง ซึ่งตอนนี้โรงเรียนที่ขอเปิดก่อน อาทิ โรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนจุฬาภรณ์ที่จะขอเปิดก่อนในเดือนมิถุนายนนี้ หรือถ้าโรงเรียนไหนเตรียมความพร้อมอย่างเป็นระบบ โดยผ่านการประเมินจากกระทรวงสาธารณสุข” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวว่า วันอังคารที่ 26 พฤษภาคมนี้ เลขาธิการสมช.จะรายงานในนามศบค. เพื่อขอต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินและต่อหรือไม่ต่อเคอร์ฟิวเท่านั้น ส่วนมาตรการผ่อนคลายอื่น ๆ ไม่เคยเข้าครม. จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ซึ่งเป็นไปตามอำนาจของผอ.ศบค. ดังนั้น สมช. จะประชุมคณะย่อยในวันที่ 27 พฤษภาคมก่อนเสนอเข้าที่ประชุมศบค. ชุดใหญ่ในวันที่ 29 พฤษภาคม เพื่อจะมีผลในวันอาทิตย์หรือวันจันทร์ถัดไป” นายวิษณุ กล่าว.-สำนักข่าวไทย