กรมอนามัย 22 พ.ค.ค.-กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงข้อกังวลต่อร่างประกาศกระทรวง เรื่องหลักเกณฑ์ มาตรการควบคุม การประกอบกิจการให้บริการจัดส่งอาหาร ยืนยันต้องผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากหลายส่วน เพื่อความเหมาะสมและไม่ส่งผลกระทบกับการประกอบอาชีพของผู้จัดส่งอาหาร (Driver)
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวประเด็นการจัดทำร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ มาตรการควบคุม การประกอบกิจการให้บริการจัดส่งอาหาร โดยในข่าวได้มีการยกตัวอย่างข้อปฏิบัติย่อยบ่างส่วน เช่น ผู้จัดส่งอาหารจะต้องเลือกอาหารที่มาจากร้านที่ได้ขึ้นทะเบียนได้รับการรับรองจากหน่วยงานราชการ เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือจากร้านอาหารที่สามารถระบุแหล่งที่มาของวัตถุดิบได้ หรือข้อที่กำหนดให้ผู้ให้บริการจัดส่งอาหาร จะ ต้องเลือกให้บริการ แต่แหล่งอาหารที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับอาหาร ถูกสุขลักษณะ ป้องกันการปนเปื้อน
หรือตัวอย่างข้อที่ให้ผู้ให้บริการจัดส่งออกอาหารต้องมีระบบคัดกรองผู้ส่งอาหาร ตรวจสอบประวัติ ตรวจสุขภาพอย่างละเอียดว่า ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง ไม่เป็นพาหะนำโรค เป็นต้น โดยกังวลว่าข้อกำหนดในร่างประกาศกระทรวงอาจส่งผลต่อผู้ประกอบธุรกิจการส่งสินค้าหรืออาหาร และกระทบกับการประกอบอาชีพของผู้จัดส่งอาหาร (Driver) ได้นั้น
กรมอนามัย ขอชี้แจงว่า ในขณะนี้เป็นเพียงขั้นตอนด้านวิชาการในการหาข้อมูล รับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาเป็นคำแนะนำผู้ประกอบกิจการ คุ้มครองสุขภาพของผู้รับบริการ (ผู้บริโภค) จากการใช้บริการของผู้ประกอบกิจการจัดส่งอาหาร ขณะเดียวกันก็เป็นการป้องกันและลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายและลดโอกาสการรับสัมผัสของเชื้อโรคในระหว่างการจัดส่งอาหาร
ซึ่งร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าวอยู่ในระหว่างกระบวนการ รับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ประกอบกิจการ เจ้าหน้าที่ในระดับศูนย์อนามัย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสมของหลักเกณฑ์
หรือมาตรการด้านวิชาการที่ปรากฏ
อีกทั้งได้มีการเชิญผู้ประกอบกิจการ (platform) ทุกหน่วยงาน มาร่วมปรึกษาหารือและให้ข้อเสนอแนะเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบกับการประกอบอาชีพของผู้จัดส่งอาหาร (Driver) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ ส่วนในการออกเป็นประกาศยังต้องผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองตามกระบวนการต่อไป.-สำนักข่าวไทย