ภูเก็ต 21 พ.ค.- ผบช.ภาค 8 ระบุ 3 ตำรวจไปจับกุมการซื้อขายลูกหอยแครงที่สุราษฎร์ฯ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ป้องปรามการทำผิดกฎหมาย แต่เพื่อความชัดเจนได้ตั้งชุดสอบข้อเท็จจริงกรณีเรียกรับเงินด้วยหรือไม่ ยันหากผิดดำเนินการเฉียบขาด พร้อมสั่งให้ทั้ง 3 นาย เข้า ศปก.ภ.8 แล้ว
พล.ต.ท.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ให้สัมภาษณ์วันนี้ (21 พ.ค.) ในโอกาสมาบันทึกเทปรายการที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ภูเก็ต (สังกัด ปชส.เขต 5 สุราษฎร์ธานี) เปิดเผยกรณีชาวบ้านที่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ล้อมรถยนต์ตำรวจ 3 นาย ที่จับกุมพ่อค้ารับซื้อลูกหอยแครงจากชาวประมงพื้นบ้าน และมีการกล่าวอ้างว่าตำรวจเรียกเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดีว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 3 นาย มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 8 (ศปก.ภ.8) จ.ภูเก็ต แล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้ามีความผิดเป็นไปตามที่มีการกล่าวอ้างก็จะดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางวินัย
“การลงพื้นที่ของตำรวจทั้ง 3 นาย เป็นการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดีทั่วไป ส่วนกรณีไปจับชาวประมงนั้น เป็นเรื่องของการเข้มงวดกวดขันตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่อนุญาตให้ประชาชนไปจับหอยแครงได้ในระยะ 1,000 เมตรห่างจากฝั่ง โดยใช้มือหรือตะแกรงจับ แต่ถ้าใช้คราดเป็นเรื่องของเรือประมงถือว่าเป็นความผิด และเป็นความเดือดร้อนของประชาชนที่มีอาชีพเก็บลูกหอย แล้วก็เป็นการลดโอกาสของคนกลางที่จะมากว้านซื้อลูกหอยเพื่อที่จะไปขายให้กับผู้เลี้ยงหอยแครง”
พล.ต.ท.จิรวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ตำรวจทั้ง 3 นาย จะมีความผิดเกี่ยวเนื่องกับเรื่องอะไรบ้างนั้น ตามที่มีการกล่าวอ้างกัน ทั้งเรื่องการเข้าไปเกี่ยวพันกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ กรณีการเรียกรับเงิน ก็จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย