จับตา 5 ไฮไลท์สำคัญ ใน 10 ขั้นตอน แผนฟื้นฟูฯ การบินไทย

กรุงเทพฯ 20 พ.ค.-จับตา 5 ประเด็นสำคัญ ชี้วัดผลสำเร็จแผนฟื้นฟูการบินไทย ฉบับเทียบเคียงแผนฟื้นฟูเจแปนแอร์ไลน์ ได้ผู้บริหารแผนดี การเจรจาเจ้าหนี้ต่างชาติ สังคมต้องให้โอกาสเมื่อต้องใส่สภาพคล่อง โมเดลธุรกิจหลังการฟื้นฟูมีการตลาดนำ และการจัดการงานขายและต้นทุนเหมาะสม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากคณะรัฐมนตรีผ่านความเห็นชอบให้ บมจ.การบินไทย ดำเนินการฟื้นฟูกิจการ ผ่าน พ.ร.บ.ล้มละลาย เมื่อวานที่ผ่านมา หลังจากนั้นนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนแนวทาง 10 ขั้นตอน ที่จะดำเนินการฟื้นฟูกิจการการบินไทยอีกครั้งและในสัปดาห์หน้าเตรียมที่จะเสนอ 15 รายชื่อ ผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ารับหน้าที่ผู้บริหารแผนฟื้นฟูให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานได้เปิดเผยข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจการบินต่อแนวทางการฟื้นฟูกิจการของการบินไทยตามที่กระทรวงคมนาคมระบุว่า จะใช้แนวทางในการฟื้นฟูกิจการของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ (JAL) ที่ดำเนินการฟื้นฟูกิจการปี 2553 เป็นต้นแบบ เนื่องจากJAL ใช้ระยะเวลาเพียง 14 เดือนก็สามารถออกจากการฟื้นฟูได้ และเป็นสายการบินที่กลับมาทำกำไรอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยข้อมูลกับสำนักข่าวไทยว่า หากจะใช้ JAL เป็นต้นแบบฟื้นฟูการบินไทย  ก็จะมีประเด็นสำคัญ 5 ข้อ ที่เป็นไฮไลท์สำคัญบ่งชี้ถึงความสำเร็จในการดำเนินการฟูื้นฟู


ประเด็นแรก การฟื้นฟูการบินไทยนั้น จำเป็นต้องได้ผู้บริหารแผนที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่นักการเงิน หรือนักจัดการหลักทรัพย์เท่านั้น  แต่หมายรวมถึงการต้องมีผู้เชี่ยวชาญธุรกิจการบินเข้ามาอยู่ในผู้บริหารแผนฟื้นฟูด้วย เนื่องจากในอนาคตเมื่อสถานการณ์การระบาดโควิด-19 คลี่คลาย แม้จะอยู่ในช่วงของการฟื้นฟูกิจการ แต่การบินไทยต้องกลับมาทำการบิน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ เพื่อกำหนดความเหมาะสมของการกำหนดเส้นทางบิน จำนวนฝูงบิน และการขาย ตามสภาพที่สามารถดำเนินการได้ในกรอบของแผนฟื้นฟูด้วย

ประเด็นที่ 2 เป็นเรื่องของการเจรจากับเจ้าหนี้  โดยเฉพาะในส่วนของเจ้าหนี้ต่างชาติ หลังจากนายศักดิ์สยาม ระบุว่ามูลหนี้ประมาณ 147,000 ล้านบาท สิ้นปี 2562 การบินไทยมีสัดส่วนประมาณ 35 % ไม่รวมสัดส่วนของสถาบันการเงินต่างชาติอีก 10% ที่ถือเป็นเจ้าหนี้ต่างชาติ หรือหมายถึงปัจจุบันการบินไทยมีเจ้าหนี้ต่างชาติ รวม 45% 

โดยประเด็นสำคัญของการเจรจานั้น ต้องพิจารณารายละเอียดว่าเจ้าหนี้ต่างชาติเหล่านี้เป็นเจ้าหนี้เงินกู้ หุ้นกู้ หรือเจ้าหนี้การค้า ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันหรือไม่ หากกระทรวงการคลังค้ำประกันเจ้าหนี้ก็มีสิทธิ์ที่จะขอให้กระทรวงการคลังในฐานะผู้ค้ำประกันเข้ามารับภาระ โดยไม่รับเงื่อนไขการเจรจาขอขยายระยะเวลาการชำระหนี้ หรือผ่อนผันนอกเหนือจากสัญญาเดิม  และหากกระทรวงการคลังต้องเข้าไปรับภาระตรงนี้จริง ๆ ก็จะกลายเป็นภาระต่องบประมาณ โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นข้อพิพาทที่อาจจะมีการฟ้องร้องได้ในศาลต่างประเทศ


ประเด็นที่ 3 เป็นเรื่องของการใส่สภาพคล่องเข้าไปเพิ่มเติมแก่การบินไทย  ทั้งนี้ หากมีการเทียบเคียงแนวปฏิบัติกับสายการบิน JAL  ซึ่งขณะนั้นแม้จะมีคนญี่ปุ่นแสดงความไม่เห็นด้วยไม่น้อยกับการเติมสภาพคล่องเข้าไปใน JAL แต่สุดท้ายรัฐบาลญี่ปุ่นขณะนั้น  ก็มีการใส่สภาพคล่องให้ JAL กว่า 690,000 ล้านบาท เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นกับ JAL ก่อนเข้าแผนฟื้นฟู พบว่า JAL มีภาระหนี้สูงกว่า 800,000 ล้านบาท  ซึ่งสุดท้ายประชาชนชาวญี่ปุ่นขณะนั้นก็ยอมรับเป็นข้อยุติในสังคมที่จะให้โอกาส JAL ดำเนินการฟื้นฟู  เช่นเดียวกับปัจจุบันที่สังคมไทยต้องให้โอกาสการบินไทยในกานฟื้นฟูเพื่อก้าวเดินต่อ และจำเป็นต้องใส่สภาพคล่องเข้าไป จะมากหรือน้อยเพียงใดขึ้นกับผู้บริหารแผนฯ คงจะต้องพิจารณาวงเงินที่เหมาะสม ซึ่งก็อาจมีกระแสทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเกิดขึ้นในสังคม

ประเด็นที่ 4 เป็นเรื่องของโมเดลธุรกิจ หลังการฟื้นฟูกิจการเมื่อเทียบเคียงกับ JAL หลังดำเนินการฟื้นฟูและสามารถกลับมาทำกำไรนั้น  ได้มีการปรับโมเดลทางด้านการตลาดที่ชัดเจน  โดยเฉพาะการพุ่งเป้าไปหาลูกค้าที่เป็นคนละกลุ่มกับสายการบิน Low cost Airline หรือสายการบินต้นทุนต่ำ โดยนำเสนอข้อมูลการตลาดให้ลูกค้าเห็นชัดเจนถึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้ในการเลือกใช้บริการสายการบิน แบบ full service ประโยชน์ของการอัพเกรดการเดินทาง จนถึงการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ 

รวมถึงกำหนดยุทธศาสตร์ด้านงานขายที่สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ตามเป้าหมายการตลาด  การขยายสัดส่วนการขายผ่านระบบออนไลน์ให้มากที่สุด เพื่อหลีกหนีจากระบบการขายตั๋วผ่านเอเจนฯ ทำให้การบินไทยมีปัญหาด้านการแข่งขันการขายนำไปสู่ภาวะการขาดทุนในอดีต

และสุดท้ายคือความร่วมมือจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะในองค์กรการบินไทยเอง หากเทียบเคียงกับ JAL ซึ่งขณะนั้นมีการปรับลดพนักงานลงจาก 38,000 คน เหลือ 20,000 คน ขณะที่การบินไทยปัจจุบันมีพนักงานกว่า 21,000 คน และชัดเจนว่าในอนาคตมีความจำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานลงเช่นเดียวกัน  เพื่อให้องค์กรเดินหน้าต่อไปได้  ซึ่งความร่วมมือในการปรับโครงสร้างองค์กรนี้ พนักงานก็ต้องมีความเข้าใจ  รวมถึงในอนาคตการปรับวัฒนธรรมขององค์กรให้พนักงานที่ทำงานในบริษัทคำนึงถึงการดูแลต้นทุนให้แก่องค์กรไม่มีค่าใช้จ่าย สิทธิ์-สวัสดิการที่ฟุ้งเฟ้อไม่เหมาะสม ขณะที่ผู้บริหารก็ต้องยอมเสียสละให้ตนเองมีรายได้เหมาะสม โดยช่วงฟื้นฟูกิจการของ JAL นั้น CEO ปรับลดเงินเดือนของตนเองลงเหลือเพียงเดือนละไม่เกิน 30,000 บาทเท่านั้น 

ทั้งนี้ การดำเนินการฟื้นฟูกิจการของ JAL ใช้เวลา 14 เดือน และปี 2555 JAL กลับมามีกำไรจากการดำเนินงานกว่า 200,000 ล้านบาท กลับเข้ามาอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ได้ในปีนั้น  ขณะที่สถานการณ์โควิด -19 ปัจจุบัน ช่วง 3 เดือนแรกของปี 2563 JAL ประสบปัญหาเช่นเดียวกับสายการบินอื่นทั่วโลก ขาดทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท หลังจากมีกำไรกว่า 36,000 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

โดยแหล่งข่าวระบุว่าสำหรับการฟื้นฟูธุรกิจของการบินไทยท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 จะไม่ใช่เรื่องง่าย  และจะสามารถประสบผลสำเร็จหรือไม่ ต้องอยู่ในแผนฟื้นฟูฯ นานแค่ไหน จะขึ้นอยู่กับปัจจัยทั้ง 5 ข้อนี้เป็นหลัก .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

รัฐมนตรีส่ง จนท.ทยอยขนของออกจากทำเนียบ

ทำเนียบ 6 ก.ย. – รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิม ส่งเจ้าหน้าที่ทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล​ หลัง​สภาฯ โหวตเลือก “อนุทิน​” นั่งนายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มมีการทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล หลังสภาฯ มีมติโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ บรรดารัฐมนตรีและทีมงานของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ส่งทีมงานทยอยเก็บของ ก่อนเวลาประมาณ​ 10.00 น.​ พบรถบรรทุก​ 6 ล้อ​ คลุมผ้าใบทึบ ออกจากบริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า​ รวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่มาล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศใหม่ ทั้งตึกไทยคู่ฟ้า และตึกบัญชาการ 1 และมีการขนภาพวาดติดฝาผนังออกจากห้องทำงานของนางสาวหทัย ทิวไผ่งาม​ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ แม้ว่าจะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์​ มีการแจ้งเตรียมขนของของรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิมออก ทั้งวันเสาร์และอาทิตย์.-314-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สุดชิล ใส่เสื้อฮาวาย เข้าพรรคประชุมแกนนำ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” ว่าที่นายกฯ สุดชิล ใส่เสื้อฮาวายลายใบไม้ เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ประชุมแกนนำในวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อฮาวายลายใบไม้ เมื่อมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ แต่นายอนุทิน ขอตัวขึ้นไปประชุมก่อน และระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าว ขณะที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมความพร้อมในการจัดงานพิธีสำคัญ ภายหลังมีแกนนำพรรค และว่าที่รัฐมนตรีตามโผ ครม.อนุทิน 1 เช่น นายภราดร ปริศนานันทกุล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ส่งช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี รวมไปถึงต้นกล้วยไม้สีขาวก้านยาว ในกระถางพลาสติกสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่ ประมาณ 1 คนโอบ ติดนามบัตรมีชื่อของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด.-314-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย