ศาลล้มละลายกลางสั่งฟื้นฟู การบินไทย

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้การบินไทยฟื้นฟูกิจการ พร้อมแต่งตั้งคณะผู้ทำแผน


นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร กรรมการบริษัท และรักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ (14 ก.ย.) ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้การบินไทยดำเนินการฟื้นฟูกิจการและตั้งคณะผู้ทำแผนตามที่การบินไทยเสนอ ได้แก่ 1. พลอากาศเอกชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน 2. นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล 3. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค 4. นายบุญทักษ์ หวังเจริญ 5. นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์  6. นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร และ 7. บริษัท อีวาย คอร์ปอเรทแอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด

โดยหลังจากนี้คณะผู้ทำแผนจะดำเนินการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งจะใช้เวลาโดยเร็วที่สุด คาดว่าการบินไทยจะนำเสนอแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลได้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะจัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการของการบินไทยประมาณต้นปี 2564 ศาลจะมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนและแต่งตั้งผู้บริหารแผนภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 และการบินไทยจะดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการต่อไป


ส่วนเจ้าหนี้นั้น กรมบังคับคดีจะดำเนินการแจ้งเจ้าหนี้ทั้งหลายให้ทราบถึงคำสั่งศาล โดยเจ้าหนี้จะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ที่จะได้รับชำระหนี้คืน โดยการยื่นคำขอรับชำระหนี้มีกำหนดระยะเวลาตามกฎหมายภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่มีการประกาศคำสั่งตั้งผู้ทำแผนลงในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งขณะนี้ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนแล้ว เจ้าหนี้สามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้เลยทางออนไลน์จนถึง 1 เดือนนับแต่ที่คำสั่งศาลได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า การบินไทยร่วมกับกรมบังคับคดีได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหนี้ของการบินไทยยื่นคำขอรับชำระหนี้ โดยเจ้าหนี้สามารถลงทะเบียนเพื่อยื่นคำขอรับชำระหนี้ผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วยตนเองที่บ้านผ่านทางเว็บไซต์ http://www.led.go.th/tgreorg/index.asp หรือ QR Code หรือหากเจ้าหนี้ท่านใดไม่สะดวกยื่นคำขอรับชำระหนี้ผ่านระบบออนไลน์ด้วยตนเอง ก็สามารถนำเอกสารมายื่นขอรับชำระหนี้ที่จุดบริการที่หน่วยงานต่าง ๆ จะได้อำนวยความสะดวก 4 หน่วยงาน ได้แก่1. บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดีรังสิต อาคาร 1 ชั้น 1  2. กรมบังคับคดี ถนนบางขุนนนท์, สำนักงานบังคับคดีทั่วประเทศ, ศูนย์บังคับคดีล้มละลายส่วนหน้า (ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ อาคารเอ ชั้น 1)  3. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) (สำหรับหุ้นกู้) และ 4. ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนนครอินทร์ (สำหรับหุ้นกู้กลุ่มสหกรณ์)

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า จุดให้บริการรับคำขอรับชำระหนี้ที่สำนักงานใหญ่ของการบินไทยนั้น จะมีการจัดเจ้าหน้าที่และมีเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ช่วยอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหนี้ในทุกขั้นตอน โดยจะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2563 ณ โถงอาคาร 1 จนกระทั่งครบกำหนดระยะเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ต้นเดือนพฤศจิกายน ตามเวลาราชการ 08.30 – 16.30 น. เว้นวันหยุดเสาร์อาทิตย์และวันหยุดราชการ และหากเจ้าหนี้ท่านใดมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการยื่นขอรับชำระหนี้สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารประกอบและแนวทางการยื่นคำขอรับชำระหนี้ที่เว็บไซต์ของกรมบังคับคดี led.go.th เว็บไซต์ของการบินไทย www.thaiairways.com หรือโทรสอบถามได้ที่ 02 881 4999 (กรมบังคับคดี) หรือ 02 356 1111 กด 8 (Call Center ของการบินไทย)


สำหรับเจ้าหนี้ที่จะมีสิทธิ์ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีฟื้นฟูกิจการของการบินไทยนั้น จะต้องเป็นบุคคลที่มีสิทธิ์เรียกร้องในมูลหนี้ที่เป็นหนี้เงิน โดยหนี้ดังกล่าวจะต้องเกิดก่อนวันที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้การบินไทยฟื้นฟูกิจการ ไม่ว่าหนี้นั้นจะถึงกำหนดชำระแล้วหรือไม่ก็ตาม ซึ่งรวมถึงหนี้การค้า หนี้ค่าเช่า หนี้หุ้นกู้ เป็นต้น ซึ่งเจ้าหนี้จะต้องจัดเตรียมข้อมูลจำนวนหนี้ คิดคำนวณถึงวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผน และเอกสารแสดงตนดังต่อไปนี้ เอกสารแสดงตน กรณีที่เจ้าหนี้ประสงค์จะยื่นคำขอรับชำระหนี้ด้วยตนเอง ได้แก่ บัตรประชาชนไทย หรือหนังสือเดินทาง (กรณีชาวต่างชาติ) หรือเอกสารแสดงอำนาจของนิติบุคคล กรณีที่ยื่นคำขอรับชำระหนี้แทนผู้อื่น ได้แก่ หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ

เอกสารหลักฐานแสดงความเป็นหนี้ เช่น  กรณีหนี้ขอคืนค่าบัตรโดยสาร (Refund) ได้แก่ สำเนาบัตรโดยสาร สำเนาหลักฐานการจ่ายเงิน และสำเนาเอกสารยืนยันการขอรับเงินค่าบัตรโดยสารคืน (Refund) เป็นต้น  กรณีหนี้หุ้นกู้ ได้แก่ สำเนาใบหุ้นกู้ หรือขอหนังสือรับรองจากนายทะเบียน ในกรณีที่ไม่สามารถหาใบหุ้นกู้ได้ กรณีหนี้การค้า ได้แก่ สำเนาสัญญาหรือข้อตกลง สำเนาใบสั่งซื้อ (Purchase Order) สำเนาเอกสารหลักฐานการส่งสินค้าหรือให้บริการตามสัญญา และสำเนาใบแจ้งหนี้ (Invoice) เป็นต้น ในกรณีที่เอกสารดังกล่าวเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาต่างประเทศ เจ้าหนี้อาจจัดเตรียมคำแปลภาษาไทย โดยให้ผู้แปลลงชื่อรับรองคำแปลมาด้วยเพื่อประกอบการพิจารณาของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

นอกจากนี้ ในส่วนของเจ้าหนี้หุ้นกู้นั้น การบินไทยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เปิดเว็บไซต์ให้ผู้ถือหุ้นกู้ของการบินไทยสามารถตรวจสอบจำนวนหนี้หุ้นกู้ได้ที่ www.tgbondinfo.com

สำหรับลูกค้าที่ได้แสดงความประสงค์ขอคืนเงินค่าบัตรโดยสาร (Refund) ของการบินไทยนั้น ถือเป็นเจ้าหนี้ในหนี้เงินที่มีสิทธิ์ยื่นขอรับชำระหนี้ได้ อย่างไรก็ตาม คณะผู้ทำแผนจะจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการที่ครอบคลุมและรองรับสิทธิของลูกค้าที่ได้แสดงความประสงค์ขอคืนเงินค่าบัตรโดยสาร (Refund) ก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการไว้ ซึ่งการกำหนดสิทธิของลูกค้าไว้ในแผนตามที่คณะผู้ทำแผนของการบินไทยจะจัดทำเป็นกรณีที่กฎหมายยกเว้นให้เจ้าหนี้ที่ได้รับการระบุไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการ โดยลูกค้าที่ขอคืนค่าบัตรโดยสาร (Refund) จะได้รับชำระหนี้ตามข้อกำหนดของแผนฟื้นฟูกิจการโดยไม่ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ก็ได้

นอกจากนี้ การบินไทยมีนโยบายดูแลลูกค้าในระหว่างที่ไม่สามารถคืนเงิน (refund) ได้ชั่วคราว โดยลูกค้าท่านที่ขอคืนค่าบัตรโดยสารแล้ว แต่ยังให้ความไว้วางใจและประสงค์กลับมาเป็นลูกค้าของการบินไทย ก็สามารถขอเปลี่ยนหนี้ค่าบัตรโดยสารเป็น Travel Voucher ได้ ซึ่งจะมีอายุถึง 31 ธันวาคม 2565 ลูกค้าสามารถนำ Travel Voucher มาใช้แทนเงินสดในการออกบัตรโดยสารของการบินไทยหรือไทยสมายล์ได้ ตามแผนการบินของบริษัททั้งสอง ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อการบินไทยทาง Call Center โทร 02 356 1111  หรือ อีเมลไปยัง contact@service.thaiairways.com หรือ ติดต่อสำนักงานบัตรโดยสารการบินไทย สำนักงานใหญ่และสำนักงานหลานหลวง ระหว่างวันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00  – 17.00 น. หากลูกค้าออกบัตรโดยสารที่สำนักงานต่างประเทศ ก็สามารถติดต่อสำนักงานที่ออกบัตรโดยสารได้โดยตรงเช่นกัน แต่หากลูกค้าประสงค์จะขอรับเป็นเงินคืน (Refund) ก็จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งมีข้อจำกัดด้านเวลาและกระบวนการ ทำให้การบินไทยยังไม่สามารถคืนเงินให้แก่ลูกค้าได้โดยเร็ว

เจ้าหนี้ที่ไม่จำเป็นต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้หรือดำเนินการทางกฎหมายใดๆ ในส่วนของลูกค้าผู้ถือบัตรโดยสารของการบินไทย ที่ยังไม่ได้เดินทาง และยังไม่ได้ดำเนินการขอคืนค่าบัตรโดยสาร (Unused Ticket) นั้นไม่จำเป็นต้องยื่นขอรับชำระหนี้ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ ลูกค้ายังคงมีสิทธิใช้บัตรโดยสารของการบินไทยได้เมื่อการบินไทยกลับมาประกอบธุรกิจได้ตามปกติและให้บริการด้านการบินได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยไม่ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้หรือดำเนินการทางกฎหมายใดๆ และลูกค้าสามารถเก็บบัตรโดยสารไว้ใช้เดินทางกับการบินไทยหรือไทยสมายล์ หรือจะแลกเป็น Travel Voucher ก็ได้ โดยลูกค้าสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ของการบินไทย thaiairways.com

สำหรับสมาชิกโปรแกรมสะสมไมล์ Royal Orchid Plus (ROP) นั้น เนื่องจากไม่ใช่เจ้าหนี้ในหนี้เงิน จึงไม่ต้องยื่นขอรับชำระหนี้ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ โดยสมาชิก ROP จะยังคงได้รับสิทธิประโยชน์จากสถานภาพสมาชิกและสถานภาพความเป็นสมาชิกจะยังคงอยู่ และการบินไทยจะขยายอายุไมล์สะสมที่จะหมดอายุลงในปีนี้ออกไปจนถึงเดือนธันวาคม 2564

ทั้งนี้ ในขั้นตอนต่อไป การบินไทยจะแจ้งให้เจ้าหนี้ได้รับทราบถึงความคืบหน้าของการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการและมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อไป การบินไทยมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะดูแลเจ้าหนี้ทั้งหลายภายใต้กระบวนการฟื้นฟูกิจการ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถกลับมาให้บริการด้านการบินอย่างเต็มรูปแบบได้โดยเร็ว รวมทั้งสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจการบินได้อย่างเข้มแข็งในฐานะสายการบินแห่งชาติต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด

29 ก.ค.- โฆษกทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด ยังนัดหมายพบปะกันไม่ได้ แต่พยายามอยู่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทย พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และฝ่ายกัมพูชา พล.อ.โปว เฮง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 และ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายยังนัดหมายพบปะไม่ได้ เลื่อนไป ยังไม่มีระบุเวลา (เดิมเวลา 10.00 น.) แต่ยังพยายามอยู่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร​” ไม่แปลกใจ กัมพูชาไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “แพทองธาร​” ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษของ “กัมพูชา” หลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ชี้ต้องฟ้อง ปท. ที่เข้ามาเป็นพยานด้วย บอก​ จะถาม “ภูมิธรรม” ให้ ต้องออกแถลงการณ์โต้หรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม​ กล่าวถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลง​หยุดยิง ว่า​ เมื่อสักครู่​ ได้อัปเดตกับทางทีมงาน​ มีการพูดคุยกันว่า​ ถ้าเป็นแบบนี้​ ก็ต้องมีการแจ้งให้ประเทศที่เข้ามาเป็นพยานได้ทราบด้วย​ ว่า​ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น​ แต่ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว​ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องมีการออกแถลงการณ์อีกครั้งหรือไม่​ หลังจากกัมพูชาไม่หยุดยิง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวอันนั้นจะสอบถามนายภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​.-315 -สำนักข่าวไทย

กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล

29 ก.ค.- กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชน หลังกัมพูชาจงใจละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทำลายความเชื่อมั่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดทางสู่สันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุกองทัพไทย ได้รับการยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ จงใจละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายความเชื่อมั่น ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพไทย ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน “เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด…โลกต้องได้รับรู้ว่า กัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นฝ่ายที่ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใด ๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก” การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่องให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ […]

ทบ. ประณาม “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

29 ก.ค.- ทบ. ประณาม “กัมพูชา”ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่ไทยยึดมั่นพันธกรณีฯ อย่างเคร่งครัด แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเองตอบโต้อย่างเหมาะสม ขยับเวลาถกผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่เป็น 10 โมงเช้า วันที่ 29 กค.68 เวลา 7.30 น. พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชาว่าตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งความสงบ ลดความตึงเครียด และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น กองทัพบกขอเรียนว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยได้ทำการหยุดยิง บริเวณพื้นที่แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา ด้วยความตั้งใจจริง และยึดมั่นต่อพันธกรณีที่ได้ตกลงร่วมกันของรัฐบาลทั้งสองประเทศ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเมื่อถึง กำหนดเวลาดังกล่าว ฝ่ายไทยยังคงตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอยู่หลายจุด ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ เจตนาทำลายระบบความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน กองทัพบกจึงขอประณามต่อการกระทำดังกล่าว ฝ่ายไทยจำเป็นจะต้องใช้มาตราการโต้กลับอย่างเหมาะสม ภายใต้สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง ยืนยันฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังทหารเพื่อรุกราน แต่เพื่อป้องกันการรุกล้ำและรักษาอธิปไตยของชาติ ภายใต้กฎกติกาสากล พลตรีวินธัย ยังระบุว่า เบื้องต้น การพบปะผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่ มีการขยับเวลา […]