คุก 6 ปี 24 เดือน 2 อดีต ผช.เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯคดีเงินทอนวัด

กทม.19 พ.ค.- ศาลอาญาคดีทุจริตฯคุก 6 ปี 24 เดือนและปรับ อดีต ผช.เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ฟอกเงินการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม เมตตาเคยเป็นภิกษุไม่เคยกระทำผิดมาก่อนให้รอลงอาญา 1 ปี


ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ อ่านคำพิพากษาคดีพนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พระเมธีสุทธิกรหรือพระราชอุปเสณาภรณ์หรือพระมหาสังคมหรือสังคมญาณวฑฒโนหรือนายสังคม สังฆะพัฒน์อดีต  ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ,พระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือพระมหาเทิดหรือเทอดญาณวชิโรหรือนายเทอด วงศ์ชะอุ่ม อดีตเจ้าคุณเทอด ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ นายทวิช สังข์อยู่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับบริษัท ดีดีทวีคูณ ที่รับผลิตสื่อให้วัดสระเกศฯ


โจทก์ฟ้องระบุว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1และ 2 เป็นพระสงฆ์จำเลยที่ 1 มีสมณศักดิ์ชื่อพระเมธีสุทธิกร จำเลยที่ 2 มีสมณศักดิ์ชื่อพระวิจิตรธรรมาภรณ์ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ มีหน้าที่ช่วยเหลือเจ้าอาวาสดูแลบำรุงรักษาวัดและจัดกิจการศาสนสมบัติของวัดตลอดจนปกครองและสอดส่องให้บรรพชิตและคฤหัสถ์ที่อยู่หรือพักอาศัยในวัดให้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยกฎข้อบังคับระเบียบหรือคำสั่งของมหาเถรสมาคมซึ่งตำแหน่งของจำเลยที่ 1,2 เป็นตำแหน่งในการปกครองคณะสงฆ์จึงมีสถานะเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาและพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505มาตรา 45 

จำเลยทั้ง 2 มีอำนาจร่วมกันลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเบิกถอนเงินจากบัญชีธนาคารกรุงไทยชื่อบัญชีวัดสระเกศฯตามเงื่อนไขการเปิดบัญชีอันเป็นบัญชีเงินฝากของวัดสระเกศฯ เมื่อ 20 มี.ค.2558 จำเลยที่ 1,2 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายและจำเลยที่ 3 ได้บังอาจร่วมกันกระทำการฟอกเงินโดยจำเลยที่ 1-2ได้ทำหนังสือมอบอำนาจให้จำเลยที่ 3 ทำการเบิกถอนเงินงบประมาณสนับสนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาจากบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาวรจักร บัญชีออมทรัพย์จำนวน 7 เเสนบาทซึ่งเป็นเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำซึ่งเป็นความผิดมูลฐานไปใช้จ่ายเป็นประโยชน์ส่วนตนของจำเลยทั้ง 3 โดยจำเลยทั้งสามทราบอยู่แล้วว่าเงินจํานวนดังกล่าวเป็นเงิงบประมาณแผ่นดินที่อนุมัติเพื่อนำไปใช้สนับสนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาและเป็นเงินหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดที่ได้มาจากการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญาหรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่นอันเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542มาตรา 3(5) จำเลยทั้งสามจึงไม่สามารถร่วมกันนำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้หรือโอนไปใช้เพื่อกิจการอื่นนอกเหนือจากการนำไปใช้เพื่อกิจการสนับสนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาได้อันเป็นการร่วมกันโอนรับโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานเพื่อชุกช่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้นหรือกระทำด้วยประการใด ๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มาการโอนการได้สิทธิใด ๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดการได้มาครอบครองหรือใช้ทรัพย์สินโดยรู้ในขณะที่ได้มาครอบครองหรือใช้ทรัพย์สินว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดซึ่งการกระทำของจำเลยทั้ง3ดังกล่าวเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงินและฐานร่วมกันฟอกเงินเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่วัดสระเกศราชวรมหาวิหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติองค์กรหรือบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องและเนื่องจากจำเลยที่ 1และ2 เป็นเจ้าพนักงานตามกฏหมายกระทำความผิดฐานฟอกเงินจึงต้องระวางโทษหนักขึ้นเป็นสองเท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตามกฎหมายด้วย  เมื่อวันที่ 6 เม.ย.2558 จำเลยทั้ง 3 ได้บังอาจร่วมกันทำการฟอกเงินโดยจำเลยที่ 1,2 ทำหนังสือมอบอำนาจให้จำเลยที่ 3 ทำการเบิกถอนเงินงบประมาณสนับสนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาจากบัญชีธนาคารกรุงไทยสาขาวรจักรจำนวน 3ล้านบาทซึ่งเป็นเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำซึ่งเป็นความผิดมูลฐานไปใช้จ่ายเป็นประโยชน์ส่วนตนของจำเลยทั้ง3โดยที่จำเลยทั้งสามทราบดีอยู่แล้วว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินงบประมาณแผ่นดินที่อนุมัติเพื่อนำไปใช้สนับสนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาและเป็นเงินหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดที่ได้มาจากการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การกระทำของจำเลยทั้งสามดังกล่าวเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงินและฐานร่วมกันฟอกเงิน เเละเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.โดยทั้งสามอย่างได้บังอาจร่วมกันทำการฟอกเงินโดยถอนเงินงบประมาณสนับสนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาจากบัญชีธนาคารกรุงไทยสาขาวรจักรจำนวน 3.4ล้านบาท ,เมื่อวันที่ 6 ส.ค.อีก 1เเสนบาท ,เมื่อวันที่ 11 ก.ย.อีก 3 ล้านบาท ,เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.อีก 4ล้านบาท

ในชั้นสอบสวนเเละชั้นพิจารณา จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ขณะที่ระหว่างพิจารณา อดีตพระมหาสังคมหรือสังคม ญาณวฑฒโน จำเลยที่ 1 และ อดีตพระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือเจ้าคุณเทอด จำเลยที่ 2 อดีต ผช.เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ เพิ่งได้ประกันตัววันที่ 15 ส.ค.62 หลังจากมีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกันตัว โดยอดีตพระทั้งสองได้ประกันตัวคนละ 2 ล้านบาท ซึ่งศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยที่ 1-2 เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล พร้อมกับให้มารายงานตัวต่อศาลชั้นต้นทุก 1 เดือนจนกว่าคดีจะมีคำพิพากษาด้วย ส่วน นายทวิช สังข์อยู่ ฆราวาส ซึ่งเกี่ยวข้องกับ บริษัท ดีดีทวีคูณ ผู้ผลิตสื่อให้วัดสระเกศฯ จำเลยที่ 3 ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาจึงถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ


ศาลพิจารณาพยานหลักฐานเเล้ว พิพากษาว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5(3), 60ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83จำเลยที่ 1,2 เป็นเจ้าพนักงานกระทำความผิดฐานฟอกเงินต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของความผิดนั้นตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ.2542 มาตรา 90 วรรคหนึ่งการกระทำของจำเลยที่ 1,2เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกจำเลยที่ 1,2คนกระทงละ 2 ปีและปรับคนละกระทงละ 42,000บาทรวม 6 กระทงทางนำสืบของจำเลยที่ 1,2เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้คนละกระทงละหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา78 คงจำคุกคนละกระทงละ 1ปี 4 เดือน เดือนและปรับคนละกระทงละ 28,000บาทรวม 6 กระทงเป็นจำคุกคนละ 6ปี 24 เดือนและปรับคนละ 168,000บาทจำเลยที่ 1,2 เป็นพระภิกษุผู้ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในพระธรรมวินัยเมื่อไม่ปรากฏว่าเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนโทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนดคนละ 1 ปีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56(ที่แก้ไขใหม่) ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29,30(ที่แก้ไขใหม่) ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ต่อจากโทษจำเลยที่ 4ในคดีหมายเลขดำที่อท 197/ 2561ของศาลนี้นั้นเนื่องจากคดีนี้ศาลรอการลงโทษให้จำเลยที่ 2 จึงไม่อาจนับโทษต่อได้ให้ยกคำขอในส่วนนี้และยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 3 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” พร้อมครอบครัวถึงศาลฎีกาฯ ฟังคำสั่งคดีชั้น 14

9 ก.ย.- “ทักษิณ” พร้อมครอบครัว นั่งรถหรู ทะเบียน 195 ถึงอาคารศาลฎีกาฯ ฟังคำสั่งคดีชั้น 14 ขณะที่มวลชนตะโกนเสียงดัง “ทักษิณ สู้ๆ” เวลา 09.25 น. ขบวนรถยนต์ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงยังอาคารศาลฎีกาฯ โดยเข้าทางประตูด้านหลังฝั่งริมคลองหลอด เพื่อมาตามนัดหมายของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีไต่สวนการบังคับโทษจำคุกของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายทักษิณได้นั่งรถยนต์เบนซ์ สีดำ-เงิน ทะเบียน พร 195 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถคันเดียวกันกับที่ไปรับนายทักษิณที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อวานนี้ ต่อมารถคันดังกล่าวได้จอดเทียบที่บริเวณประตูทางเข้าศาล โดยนายทักษิณได้ลงมาจากรถ สวมเสื้อสูท เนคไทสีเหลือง เดินทางมาพร้อมกับลูกสาวทั้งสองคน ได้แก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ โดยมีนายวิญญัติ ชาติมนตรี และทีมทนายความ ยืนรอให้การต้อนรับ เมื่อมาถึง นายทักษิณและลูกสาวได้หันมายิ้มทักทายสื่อมวลชน ก่อนเดินเข้าไปในศาล ระหว่างนั้นกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงที่ปักหลักอยู่บริเวณด้านนอกอาคารศาลฎีกาได้ตะโกนส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจนายทักษิณว่า “ทักษิณสู้ […]

โผ ครม.อนุทิน ใกล้ลงตัว “บิ๊กเล็ก” ผงาด รมว.กลาโหม

กทม. 9 ก.ย.- “บิ๊กเล็ก” ผงาด รมว.กลาโหม ไม่เปลี่ยนม้ากลางศึกยุคสงคราม ตบรางวัล “ศักดิ์ดา” นั่ง มท.3 โผ ครม.อนุทิน ใกล้ลงตัว ผู้สื่อข่าวรายงานรายชื่อคณะรัฐมนตรี รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ว่า กลางดึกวันที่ 8 ก.ย. เข้า 9 ก.ย. เริ่มสะเด็ดน้ำใกล้คลอด สำหรับรายชื่อที่ยังไม่ลงตัว ล่าสุด กระทรวงกลาโหมที่มีข่าวว่าจะเป็นสัดส่วนคนนอก ยืนยันแล้วว่า คือ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือ บิ๊กเล็ก จะขยับจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นโควตาคนนอกของพรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่โควตาของพรรครวมไทยสร้างชาติ เหมือนอดีต ขณะเดียวกัน ที่มีรายงานข่าวว่าในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม มีชื่อ พลเอกณัฐ อินทรเจริญ ในสัดส่วนโควตาพรรคพลังประชารัฐ โผล่าสุดไม่ปรากฏชื่อดังกล่าว ขณะที่อีกชื่อที่จับตา คือ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ โควตา กลุ่มเพื่อไทยเดิม นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือ […]

อุตุฯ เตือนภาคตะวันออกฝนตกหนักมากบางพื้นที่-กทม.ฟ้าคะนอง 80%

กรุงเทพฯ 9 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก บริเวณ จ.ระยอง จันทบุรี ตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 80% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังหรือน้ำรอการระบาย โดยเฉพาะในเขตชุมชนเมือง เช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือ ในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล […]

“ทักษิณ” สีหน้ายิ้มแย้ม เครื่องบินส่วนตัวแลนดิ้งดอนเมือง

ดอนเมือง 8 ก.ย.-เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” แลนดิ้งเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ โดย “ทักษิณ” มีใบหน้ายิ้มแย้ม ขณะมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร 8 ก.ย.68 บริเวณทางเข้าออกลานจอดเครื่องบินส่วนบุคคล ท่าอากาศยานดอนเมือง พบสื่อมวลชนเดินทางมาติดตามบรรยากาศเดินทางกลับของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังได้รับแจ้งข้อมูลเรดาร์เครื่องบินส่วนตัวรุ่น Bombardier Global 7500 ออกเดินทางจากสนามบินเซเลตาร์ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 14.54 น. ที่ผ่านมา เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ ลงจอดบริเวณสนามบินส่วนตัว ประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศฝนตกหนัก ขณะที่นายทักษิณ เดินออกมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า ก่อนจะขึ้นรถเบนซ์แล่นออกจากสนามบินไป พร้อมกับรถยนต์และรถตู้อีกคัน ทั้งนี้ มีรายงานว่า เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ มีผู้โดยสารเดินทางมา 6 คน โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณ ซึ่งเป็นภรรยาของนายสมชาย ร่วมเดินทางมาด้วย พร้อมกับผู้ติดตาม.-สำนักข่าวไทย