กรุงเทพฯ 19 พ.ค.-ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อัดรัฐเลือกซื้ออาวุธมากกว่าช่วยประชาชน เตือนคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำลายเศรษฐกิจไทย หวั่นนักลงทุนไม่เชื่อมั่นในสภาพเศรษฐกิจไทย
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า อยากขอเตือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ยังไม่ยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยอ้างว่าหวั่นคุมการระบาดไม่อยู่นั้น เป็นผลร้ายมากกว่าผลดี เพราะส่งผลกระทบภาคเศรษฐกิจทั้งประเทศ ทั้งการค้า การลงทุน และความเชื่อมั่นของนักลงทุน เพราะต่างชาติไม่มีความเชื่อมั่นในสภาพเศรษฐกิจไทย
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การที่รัฐบาลออก พ.ร.ก.กู้เงิน จำนวน 1.9 ล้านล้านบาทเพื่อแก้ไขปัญหาประเทศ ทั้งการเยียวยาประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจ ถึงวันนี้ไม่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลจะมีแผนงานในการใช้เงินกู้อย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ทั้งการใช้เงินเพื่อฟื้นฟูกิจการเอสเอ็มอี การสร้างงาน สร้างอาชีพให้ประชาชน รัฐบาลยังไม่มีแผนงานใด ๆ ออกมาเลย ในส่วนนี้พรรคฝ่ายค้านคงต้องมีการสอบถามถึงความชัดเจนว่าจะมีการใช้เงินกู้อย่างไรในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
นายประเสริฐ กล่าวด้วยว่า สำหรับการเยียวยาประชาชน และเยียวยาภาคการเกษตร พบว่ายังมีปัญหา จากการลงพื้นที่ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรว่ายังไม่ได้รับการเยียวยา เพราะหลังจากลงทะเบียนแล้วระบบฐานข้อมูลแจ้งว่าไม่ได้เป็นเกษตรกร เรื่องนี้รัฐบาลต้องแก้ปัญหาโดยด่วน เพราะเกษตรกรเดือดร้อนมาก ถ้ารัฐบาลต้องการช่วยเหลือประชาชนจริง ควรให้ทุกครัวเรือนทั้ง 3.9 ล้านครัวเรือนที่ลงทะเบียนเกษตรกรไว้ที่รอคอยด้วยความหวังว่าจะได้รับเงินทั้งหมด และจำนวนเงินที่ควรต้องเพิ่มจาก 15,000 บาท เป็น 35,000 บาท ทุกครัวเรือน
“การช่วยเหลือเกษตรกร รัฐบาลต้องทำให้เหมือนการซื้ออาวุธที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาก ทั้งที่รัฐบาลควรที่จะนำงบประมาณที่จะไปซื้ออาวุธ อาทิ เรือดำน้ำ รถถัง เฮลิคอปเตอร์ นำมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนก่อน ในสถานการณ์ปัจจุบัน อาวุธยังไม่ใช่สิ่งจำเป็น สภาฯ เปิดเมื่อไหร่ ผมจะนำกรณีการจัดซื้ออาวุธของกองทัพไปหารือในคณะกรรมาธิการการทหารอย่างแน่นอน เพราะกองทัพไม่เคยยกเลิกการจัดซื้ออาวุธตามที่มีข่าวแต่อย่างใด เพียงแต่ชะลอไว้เท่านั้น” นายประเสริฐ กล่าว.-สำนักข่าวไทย