สมุทรปราการ 15 พ.ค.-“ปวีณา” พาแม่เด็กหญิง 14 ปี แจ้งความ หลังลูกสาวเข้าไปโพสต์หาคนดูแลในเว็บแล้วถูกชายขอเอกสารไปตรวจ พร้อมชวนวิดีโอคอลแบบโป๊เปลือย ก่อนนำไปแบล็กเมล์ขอหลับนอน
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พาแม่ของเด็กหญิงวัย 14 ปี เข้าพบพันตำรวจเอกเติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อแจ้งความเอาผิดกับนายนที สุดสวาท อายุ 39 ปี พนักงานขับรถ ที่ล่อลวงเด็กหญิงวัย 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ให้แชตวีดีโอคอลแบบโชว์เรือนร่าง แล้วอัดคลิปไว้แบล็คเมล์ขอหลับนอนกับเด็กนักเรียนหญิง
นางปวีณา เปิดเผยว่า จากข้อมูลเบื้องต้นเด็กนักเรียนหญิงคนนี้ เรียนดี และฉลาดมากที่ไหวตัวทันในช่วงแรก เริ่มจากนักเรียนหญิงไปโพสต์ข้อความหาคนเลี้ยงดูในเว็บไซต์ หาคู่หาคนเลี้ยงดู เพื่อหวังเงินมาช่วยทางครอบครัวจ่ายค่าเทอม ด้วยความที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนนายนที ผู้ต้องหา ติดต่อมาทางไลน์ เสนอให้เงิน แต่ต้องขอเอกสารส่วนตัว เช่น สมุดบัญชีธนาคาร บัตรประชาชน โดยอ้างว่าจะเก็บไว้เป็นข้อมูลในการหาคนมาดูแลหรือเลี้ยงดู และบอกว่าจะโอนเงินให้หลังนักเรียนหญิงคุยวีดีโอคอลโชว์เรือนร่างให้ดู ด้วยความต้องการเงินและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กจึงยอมทำตาม แต่หลังจากวีดีโอคอลเสร็จทางผู้ต้องหากลับไม่โอนเงินให้ตามสัญญา หลังจากนั้นผู้ต้องหากลับพยายามชักชวนน้องออกไปพบข้างนอก แต่น้องเริ่มเห็นท่าไม่ดี จึงไม่ยอมออกไปตามนัด ทำให้ผู้ต้องหาไม่พอใจ แล้วส่งรูปโป๊เปลือยของนักเรียนหญิงมาให้เด็กดู แล้วอ้างว่ามีคนนำรูปโป๊ของนักเรียนหญิงมาโพสต์ในเฟชบุ๊กส่วนตัวของน้อง แต่น้องมั่นใจว่าเป็นฝีมือของผู้ต้องหา เพราะหลังจากนั้นผู้ต้องหายังส่งรูปหญิงสาวโป๊เปลือยอีกหลายคน มาขู่ว่าหากไม่ออกไปพบจะต้องเจอแบบผู้หญิงคนอื่น และจะทำทุกวิถีทางให้น้องเดือดร้อน และจะบอกเรื่องราวให้ผู้ปกครองทราบ และบอกให้ทางโรงเรียนของน้องทราบด้วย หลังจากถูกรังความอยู่ระยะหนึ่งกระทั่งทนไม่ไหว จึงได้เข้าขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณาฯ และประสานตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ จนติดตามผู้ก่อเหตุได้ในพื้นที่ กทม. ขณะที่กำลังทำงานอยู่ตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ขณะที่ผู้ต้องหา ยังไม่ยอมเปิดเผยสาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนขยายผลว่ามีใครร่วมขบวนการหรือผลิตสื่อลามกส่งขายให้ใครหรือไม่ เพราะน่าเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง
เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวง ประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น มีโทษจำคุก 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากมีการส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น มีโทษจำคุกไม่กิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดฉันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำ การนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ ไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.-สำนักข่าวไทย