ทำเนียบรัฐบาล 15 พ.ค.-ที่ประชุมศบค.ย้ำห้างสรรพสินค้าต้องมีมาตรการป้องกันแพร่เชื้อโควิด เห็นชอบใช้สถานศึกษาเลือกตั้งเขต 4 ลำปาง แต่ยังไม่หารือเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ให้ที่ปรึกษากม.ไปศึกษาก่อน ขอประชาชนร่วมมือก้าวต่อระยะ 3-4
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 : ศบค.) กล่าวว่า การผ่อนปรนระยะที่ 2 จะเริ่มในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ โดยมีรายละเอียดความชัดเจนวิธีการปฏิบัติที่จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ส่วนข้อกังวลว่าการผ่อนปรนระยะที่ 2 คือการเปิดห้างสรรพสินค้าจะทำให้ประชาชนไปจำนวนมาก จะมีมาตรการอย่างไร ห้างสรรพสินค้าต้องมีแอปพลิเคชันให้ประชาชนที่เข้าใช้บริการเช็คอิน เช็คเอ้าท์ เพื่อเก็บข้อมูล หากมีพื้นที่เสี่ยง และให้รับทราบความหนาแน่นของผู้เข้าใช้บริการ ซึ่งแต่ละห้างร้านจะเป็นผู้กำหนดจำนวนผู้ใช้บริการเองตามความเหมาะสม และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง(ศปม.)จะเข้าตรวจสอบ พร้อมขอให้ประชาชนร่วมกันตรวจสอบว่ามาตรการต่าง ๆ ที่ผ่อนคลายเป็นอย่างไร หลังผ่อนปรนระยะแรกและเข้าสู่ระยะที่ 2 หากมีช่องว่างขอให้ประชาชนแนะนำ
โฆษกศบค. กล่าวถึงข้อเสนอให้ยกเลิกการเว้นระยะห่างนั่งเว้นที่ภายในขนส่งสาธารณะ หลังประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ส่งผลการใช้บริการมีความหนาแน่น แต่มาประชาสัมพันธ์เรื่องการใส่หน้ากากอนามัย ว่า การเว้นระยะห่างและการใส่หน้ากากอนามัยถือว่ามีความสำคัญ อยู่ใน 5 มาตรการหลักของศบค. คือ ล้างมือ ใส่หน้ากาก เว้นระยะ ทำความสะอาด อย่าแออัด โดยผู้ประกอบการต้องนำไปใช้ ซึ่งศบค.เป็นผู้ออกหลักการ แต่คงไม่ลงรายละเอียดมากจนทำให้เกิดความอึดอัด
“ส่วนภาพที่ปรากฎบนรถไฟฟ้าได้มีการจัดระเบียบ แต่เมื่อเข้าไปในขบวนยังมีความหนาแน่น ต้องคิดวิธีการอีกหลายชั้น เพื่อให้ปลอดภัย ปลอดโรค ผู้ใช้บริการสวมหน้ากาก ไม่พูดคุยกันเมื่ออยู่ในขบวนรถ โอกาสแพร่กระจายเชื้อจะน้อยลง โดยผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการต้องร่วมมือกัน ถ้าเรายอมเข้าสู่มาตรการผ่อนปรน นั่นคือความเสี่ยง ทุกคนที่ออกจากบ้านต้องยอมรับว่ามีความเสี่ยง ถ้าไม่อยากมีความเสี่ยงต้องอยู่ที่บ้าน แต่ถ้าจำเป็นต้องออกจากบ้านมาประกอบกิจการ ต้องปกป้องกันตนเอง ปกป้องคนอื่นจากความเสี่ยงด้วย ต้องขอความร่วมมือ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
โฆษกศบค.กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.หารือเรื่องการเตรียมการเลือกตั้งส.ส.เขต 4 จ.ลำปางแทนตำแหน่งที่ว่าง โดยเห็นชอบหลักการให้ใช้สถานศึกษาเป็นหน่วยเลือกตั้ง ให้จัดกิจกรรมที่รวมพลได้ และให้ขอผ่อนผันการนับคะแนนหลังปิดหีบเลือกตั้ง ซึ่งอาจเกิดเวลาเคอร์ฟิว ส่วนการเดินทางข้ามจังหวัดเพื่อไปใช้สิทธิเลือกตั้งสามารถทำได้ เพราะตามกฎหมายถือเป็นหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมศบค.ยังไม่หารือเรื่องการยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อกลับไปใช้กฎหมายปกติ เพียงแต่มอบให้คณะที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายไปศึกษาและให้นำมาเสนอศบค.อีกครั้ง
“เราเจอกับโรคนี้มาไม่กี่เดือนเอง เราต้องคิดทุกอย่างในช่วงเวลาสั้น ๆ ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่คนคิดอย่างเดียว ทุกท่านในฐานะที่เป็นประชาชนต้องร่วมมือกันและทำให้สำเร็จ ขอความร่วมมือทุกกิจการ กิจกรรม คาดหวังอย่างเดียวว่าเราต้องเดินไปข้างหน้า ตัวเลขต้องดี จะได้กลับไประยะ 3 ระยะ 4 เพื่อให้สถานการณ์กลับไปเป็นปกติ แต่ต้องเป็นปกติแบบชีวิตวิถีใหม่ ต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ เพราะยังไม่มีวัคซีน ยังไม่มียารักษา นั่นคือสิ่งที่ต้องปรับตัว ปรับใจ เมื่อดูแลสุขภาพได้ เศรษฐกิจเราจะดี เราจะเป็นชาติต้น ๆ ของโรคหรือเปล่าอยู่ที่จังหวะ นี่คือสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงที่ต้องไม่กระพริบตา เพื่อให้มีเศรษฐกิจที่ดีที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
