กรมบัญชีกลาง แจงสิทธิบำเหน็จบำนาญ กรณีติดคุกหรือล้มละลาย

กรุงเทพฯ 14 พ.ค. – กรมบัญชีกลาง ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิบำเหน็จบำนาญ กรณีติดคุกหรือล้มละลาย  


นางสาววิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์เกี่ยวกับบำเหน็จบำนาญ กรณีถูกศาลสั่งจำคุกหรือล้มละลาย ว่าจะยังคงได้รับบำนาญต่อไปหรือไม่ นั้น กรมบัญชีกลาง ขอชี้แจงว่า ผู้รับบำนาญที่ถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ในหรือหลังวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2551 จะยังคงได้รับบำนาญต่อไปได้ ด้วยเหตุผล ดังนี้ 

เดิม พระราชบัญญัติบําเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2494 มาตรา 52 บัญญัติไว้ว่า ผู้รับบำนาญที่กระทำความผิดถึงต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาโทษจำคุก เว้นแต่ความผิดในลักษณะลหุโทษ หรือความผิดอันได้กระทำโดยประมาท และผู้รับบำนาญที่เป็นบุคคลล้มละลายทุจริต จะหมดสิทธิรับบำนาญตั้งแต่วันมีคำพิพากษาถึงที่สุด แต่ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 กระทรวงการคลังได้ตราพระราชบัญญัติบําเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 25) พ.ศ. 2551 และให้ยกเลิกมาตรา 52 โดยมีเหตุผลสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 


1) บำนาญ เป็นเงินที่ตอบแทนความชอบที่ได้รับราชการมา ความชอบดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผู้รับบำนาญได้สั่งสมมาตลอดชีวิตการรับราชการ แม้ผู้รับบำนาญจะได้กระทำผิดกฎหมายจนต้องได้รับโทษถึงจำคุกหรือเป็นบุคคลล้มละลายทุจริตในภายหลัง ก็ไม่ได้กระทบต่อความดีความชอบที่ผู้รับบำนาญได้กระทำไว้ในอดีต การนำเอาความผิดที่ได้กระทำในวันนี้ ไปลบล้างความชอบที่ได้กระทำลงไปแล้วจึงไม่ถูกต้อง ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการรับบำเหน็จ ซึ่งเป็นเงินที่จ่ายเพื่อตอบแทนความชอบที่ได้รับราชการมาเช่นกัน เมื่อผู้รับบำเหน็จได้รับโทษจำคุกหรือเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต ก็มิได้มีการเรียกเงินบำเหน็จที่ได้รับไปแล้วคืนแต่ประการใด 

2) ผู้รับบำนาญ มีเงินบำนาญที่ได้รับจากรัฐบาลทุกเดือนเป็นรายได้เพียงประการเดียว การที่ผู้รับบำนาญถูกงดบำนาญเพราะเหตุถูกจำคุก ภายหลังเมื่อผู้รับบำนาญพ้นโทษก็จะกลายเป็นบุคคลผู้ไม่มีรายได้ ซึ่งรัฐบาลก็ต้องจัดสรรงบประมาณในการสงเคราะห์ดูแลเช่นเดิม 

3) ผู้รับบำนาญที่เสียสิทธิในการได้รับบำนาญเมื่อถึงแก่ความตาย  ทายาทจะไม่มีสิทธิในการขอรับบำเหน็จตกทอด ทั้งที่ทายาทมิได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดด้วย


ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง  02-270-6400 ในวัน เวลาราชการ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ