เปิด 2 แนวทางแก้ปัญหาการบินไทย

กรุงเทพฯ 13 พ.ค.- การฟื้นฟูกิจการของการบินไทย ในฐานะที่ปัจจุบันเป็นทั้งรัฐวิสาหกิจ และสายการบินแห่งชาติ ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาหลายวันแล้ว สุดท้ายก้าวต่อไปของการฟื้นฟูกิจการของการบินไทยจะเป็นอย่างไร โดยมี 2 แนวทางออก ขณะที่นายกรัฐมนตรี ระบุอยู่ระหว่างตัดสินใจแนวทางฟื้นฟู และยังไม่ถึงขั้นเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย

นายกฯ ระบุกำลังตัดสินใจแผนฟื้นฟูการบินไทย



พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าแผนการฟื้นฟู บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งต้องดูในเรื่องของแผนฟื้นฟูบริษัทด้วย ส่วนกรณีที่มีการเสนอยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอฟื้นฟูกิจการ อยู่ในเรื่องของขั้นตอนทางกฎหมายว่าจะทำอย่างไร วิธีการที่จะเข้าไปแก้ไข ก็ต้องหาวิธี ถ้าหาวิธีอื่นได้ก็ดี แต่ถ้าไม่มี ก็ต้องกลับเข้าไปสู่ขั้นตอนของกฎหมาย

เมื่อถามว่า แสดงว่ายังไม่ถึงขั้นเด็ดขาดที่จะใช้วิธีการดังกล่าวใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น อยู่ระหว่างกำลังตัดสินใจกันอยู่


2 แนวทางแก้ปัญหาการบินไทยยังไม่ตกผลึก


จากการระบาดของโควิด-19 และการจำกัดการเดินทางป้องกันการระบาด ทำให้อุตสาหกรรมการบินได้รับผลกระทบหนักทั่วโลก และเป็นตัวเร่งให้สถานะของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สายการบินแห่งชาติของไทย ซึ่งขาดทุนต่อเนื่องมาหลายปีอาการหนักอยู่แล้ว เข้าข่ายอาการหนักขึ้นไปอีก โดยสถานการณ์โควิดรอบนี้ ทำให้การบินไทยต้องหยุดบินทั้งหมดตั้งแต่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้สถานะที่บริษัทจะกลับมาลุ้นสร้างรายได้ในปีนี้จบลงทันที หลีกไม่พ้นการต้องก้าวสู่การฟื้นฟูกิจการทางหนึ่งทางใด


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม ยืนยันแผนฟื้นฟูการบินไทย อยู่ระหว่างให้ฝ่ายบริหารการบินไทย และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ทำแผนตามกรอบมติของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร . ซึ่งจะสรุปในเดือนพฤษภาคมนี้ หากแผนไปต่อไม่ได้ ต้องพิจารณาแนวทางเรื่องการฟื้นฟูกิจการ ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2559

เหตุผลหลายฝ่ายค้านเติมเงินการบินไทยก่อนปรับองค์กร


ที่ผ่านมา มีการวิพากษ์วิจารณ์ผลประกอบการ และที่มาการขาดทุนหนักต่อเนื่องหลายปีของการบินไทย หลายฝ่ายทั้งอดีตบอร์ดฯ ผู้บริหารการบินไทย อดีต รมว.คลัง สหภาพแรงงานการบินไทย จนถึงการวิพากวิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย เปิดข้อมูลและคัดค้าน หากรัฐบาลจะใส่เงินเข้าอุ้มการบินไทย โดยไม่เปลี่ยนโครงสร้างองค์กร โดยมีข้อมูลระบุว่า ภาครัฐต้องใช้เงินกว่า 200,000 ล้านบาท ทั้งการใช้เงินเสริมสภาพคล่อง ค่าใช้จ่ายพนักงาน และภาระเงินกู้รูปแบบต่างๆ ที่ครบกำหนดของการบินไทย

ผลประกอบการของการบินไทยที่น่าจะไปสู่ความพยายามให้การบินไทยปรับตัวเองก่อน เมื่อไปดูรายละเอียดตัวอย่างปี 2562 ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. พบว่า การบินไทยมีผลประกอบการขาดทุนประมาณ 12,000 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 188,954 ล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าโดยสารและค่าน้ำหนักส่วนเกิน 149,000 ล้านบาท ตามด้วยค่าระวางขนส่ง 17,242 ล้านบาท ขณะที่มีรายจ่ายรวม 199,989 ล้านบาท ซึ่งนอกจากค่าใช้จ่ายน้ำมันเครื่องบิน ที่เป็นต้นทุนสำหรับกิจการการบิน 54,675 ล้านบาทแล้ว ต้นทุนที่สูงอีกก้อนหนึ่งของการบินไทย คือ ค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงาน ปี 2562 สูงถึง 31,171 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับนักบินและลูกเรืออีก 6,241 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีค่าซ่อมบำรุงอากาศยานเกือบ 20,000 ล้านบาท และค่าเช่าเครื่องบินและอะไหล่อีก 15,000 ล้านบาท

แนวความคิดของแกนนำรัฐบาลเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการบินไทย มีรายงานระบุว่า ยังไม่ตกผลึก จนยังไม่ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยแบ่งเป็น 2 แนวคิด คือ

แนวคิดกลุ่มแรก มีความกังวลหากการบินไทยต้องสิ้นสภาพความเป็นรัฐวิสาหกิจ และสายการบินแห่งชาติ เพราะไทยเป็นประเทศมีรายได้การท่องเที่ยวเป็นหลัก มีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่าปีละ 39 ล้านคน รายได้ต่อปีกว่า 1 ล้านล้านบาท หากไม่มีสายการบินแห่งชาติสนับสนุนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวนี้ และแม้แต่คนไทยเองต้องใช้สายการบินต่างชาติ หรือต่างชาติถือหุ้น ในงานบริการเที่ยวบินพาณิชย์ทั้งหมด ก็ถือว่าไทยสูญโอกาสมหาศาล

แนวคิดกลุ่มที่ 2 เห็นว่า โดยสถานการณ์การบินไทย ที่ต้องใส่เงินมหาศาลขนาดนี้ ในภาวะที่ไทยมีข้อจำกัด ต้องใช้เงินแก้ปัญหาโควิด การเดินสุดซอยให้การบินไทยแปลงสภาพเป็นเอกชน ลดขนาดองค์กรให้คล่องตัว แก้ปัญหาหนี้ที่มี  ผ่านกระบวนฟื้นฟูกิจการตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย เพื่อให้การบินไทย กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง

ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งเห็นด้วยกับแนวคิดหลังนี้ โดยยังเชื่อว่า การแข่งขันเสรีการบินมีการแข่งขันของสายการบินหลายราย ทั้งด้านราคาและบริการ จะทำให้ผู้ใช้บริการซึ่งก็คือประชาชน ได้ประโยชน์สูงสุด

ทางออกปัญหาการบินไทยอาจถึงกระบวนการล้มละลาย


สำหรับทิศทางการฟื้นกิจการของการบินไทย ที่ถูกขีดเส้นจะต้องสรุปในเดือนพฤษภาคมนี้ รายงานข่าวระบุแล้วว่า แนวทางสุดซอยอาจเป็นทางออก โดยใช้กระบวนการตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงบอร์ด และฝ่ายบริหารการบินไทย เพื่อให้มีมืออาชีพมาทำแผนบริหารหนี้และฟื้นฟูองค์กร ก่อนนำการบินไทย เข้าสู่ทำแผนฟื้นฟูของศาลล้มละลายกลาง เพื่อเคลียร์ปัญหากับเจ้าหนี้ ลดการถือหุ้นของรัฐ เพื่อให้การบินไทยพ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจ การจัดการสินทรัพย์ที่มี จัดการโครงสร้างลดขนาดองค์กรให้เล็กลงคล่องตัว โดยตัดหน่วยธุรกิจที่ไม่สร้างผลกำไรออกไป จัดการโครงสร้างฝ่ายบริหาร ลดจำนวนพนักงานให้เหมาะสมกับปริมาณงาน

โดยภายใต้กรอบดำเนินการภายใน 2 ปี เป้าหมายจะจัดการปัญหาให้แล้วเสร็จ สอดคล้องกับระยะเวลาที่ธุรกิจการบินอยู่ในช่วงซบเซาจากการระบาดของโควิด-19 จนถึงเดือนสิงหาคมปีหน้า ตามการคาดการณ์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งการบินไทยจะกลับมาบินอย่างแข็งแรง ในช่วงที่ธุรกิจการบินและการท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมาในเวลาไล่เลี่ยกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ถก ครม. ยังไม่คุยผู้นำกัมพูชา หลังเริ่มบานปลาย

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- นายกฯ นำประชุม ครม. จ่อถกสถานการณ์ไทย-กัมพูชา บอกยังไม่คุย “ฮุน มาเน็ต” หลังสถานการณ์บานปลาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยก่อนการประชุมระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินมาพร้อมกับรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวพยามสอบถามนายกรัฐมนตรีว่า ได้มีการพูดคุยกับผู้นำกัมพูชาหรือไม่ หลังเคยมีการเจรจาจากกรณีที่มีการปะทะกันที่บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ชายแดนไทย-กัมพูชา จนสถานการณ์บานปลาย กัมพูชาเตรียมยื่นศาลโลกตัดสิน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ถามกลับว่าพูดคุยเพิ่มเติมจากรอบไหน ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่ารอบแรกที่นายกรัฐมนตรี เคยระบุว่าได้พูดคุยแล้ว โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า “ยังค่ะ” .-315 -สำนักข่าวไทย

‘อี แจ-มยอง’ คว้าชัยเลือกตั้ง ปธน.เกาหลีใต้

โซล 4 มิ.ย. – อี แจ-มยอง ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตย ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ พร้อมประกาศชัยชนะต่อผู้สนับสนุน ขณะที่ คิม มุน-ซู คู่แข่งจากพรรคพลังประชาชน ออกมายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว นายอี ได้ชัยชนะการเลือกตั้งหลังจากการนับคะแนนผ่านไปร้อยละ 94.4 และเมื่อช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน นายอี ได้คะแนนเสียงไปแล้วร้อยละ 48.8 และนายคิม คู่แข่งคนสำคัญจากพรรคพลังประชาชน แนวอนุรักษ์นิยม ได้ร้อยละ 42 แม้ว่าคะแนนที่ยังไม่ได้นับ จะตกเป็นของนายคิมแต่ก็ยังตามนายอีไม่ทัน ซึ่งทำให้นายอี ยืนยันชัยชนะของเขาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับตัวเลขผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเบื้องต้นอยู่ที่ร้อยละ 79.4 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 28 ปี นับตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2540 ในจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 44.4 ล้านคน มีผู้มาใช้สิทธิราว 35.24 ล้านคนตามหน่วยเลือกตั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศ จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 77.1 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนในปี 2565 นายอีกล่าวว่า เขาจะไม่มีวันลืมหน้าที่ของประธานาธิบดีในการสร้างความเป็นเอกภาพของผู้คนในประเทศ และว่าเขาจะหาวิธีให้ประเทศอยู่ร่วมกับเกาหลีเหนือได้โดยผ่านการเจรจาและพูดคุยกัน ด้าน นายคิม […]

รัฐบาลออกแถลงการณ์ปมไทย-กัมพูชา ยันปกป้องอธิปไตยเต็มที่

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- รัฐบาล ออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยัน ตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยเต็มที่ ยึดหลักแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรม และสวัสดิภาพของประชาชน ย้ำ ชายแดน มีความสงบเรียบร้อย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมทุกภาคส่วนของ รัฐบาลภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย -กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เช้าวันนี้ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 07.00 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าวดังต่อไปนี้ แถลงการณ์รัฐบาล “กรณีสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา” รัฐบาลขอยืนยันว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยและคุ้มครองบูรณภาพของดินแดนไทยอย่างเต็มที่โดยยึดหลักการในการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม โดยจุดเริ่มต้นของสถานการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ในขณะที่กองกำลังฝ่ายไทยลาดตระเวนตามปกติในพื้นที่ฝ่ายไทยซึ่งเป็นแนวที่ถือปฏิบัติเสมอมา แต่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชา ที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีสถานการณ์จากการปะทะดังกล่าวทำให้กองกำลังไทยจำเป็นต้องป้องกันตัว และปกป้องพื้นที่อธิปไตยของไทย เป็นการดำเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ภายหลังจากเกิดเหตุรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างใกล้ชิดในทุกระดับรวมถึงนายกรัฐมนตรี […]

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย