เปิด 2 แนวทางแก้ปัญหาการบินไทย

กรุงเทพฯ 13 พ.ค.- การฟื้นฟูกิจการของการบินไทย ในฐานะที่ปัจจุบันเป็นทั้งรัฐวิสาหกิจ และสายการบินแห่งชาติ ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาหลายวันแล้ว สุดท้ายก้าวต่อไปของการฟื้นฟูกิจการของการบินไทยจะเป็นอย่างไร โดยมี 2 แนวทางออก ขณะที่นายกรัฐมนตรี ระบุอยู่ระหว่างตัดสินใจแนวทางฟื้นฟู และยังไม่ถึงขั้นเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย

นายกฯ ระบุกำลังตัดสินใจแผนฟื้นฟูการบินไทย



พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าแผนการฟื้นฟู บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งต้องดูในเรื่องของแผนฟื้นฟูบริษัทด้วย ส่วนกรณีที่มีการเสนอยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง เพื่อขอฟื้นฟูกิจการ อยู่ในเรื่องของขั้นตอนทางกฎหมายว่าจะทำอย่างไร วิธีการที่จะเข้าไปแก้ไข ก็ต้องหาวิธี ถ้าหาวิธีอื่นได้ก็ดี แต่ถ้าไม่มี ก็ต้องกลับเข้าไปสู่ขั้นตอนของกฎหมาย

เมื่อถามว่า แสดงว่ายังไม่ถึงขั้นเด็ดขาดที่จะใช้วิธีการดังกล่าวใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น อยู่ระหว่างกำลังตัดสินใจกันอยู่


2 แนวทางแก้ปัญหาการบินไทยยังไม่ตกผลึก


จากการระบาดของโควิด-19 และการจำกัดการเดินทางป้องกันการระบาด ทำให้อุตสาหกรรมการบินได้รับผลกระทบหนักทั่วโลก และเป็นตัวเร่งให้สถานะของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สายการบินแห่งชาติของไทย ซึ่งขาดทุนต่อเนื่องมาหลายปีอาการหนักอยู่แล้ว เข้าข่ายอาการหนักขึ้นไปอีก โดยสถานการณ์โควิดรอบนี้ ทำให้การบินไทยต้องหยุดบินทั้งหมดตั้งแต่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้สถานะที่บริษัทจะกลับมาลุ้นสร้างรายได้ในปีนี้จบลงทันที หลีกไม่พ้นการต้องก้าวสู่การฟื้นฟูกิจการทางหนึ่งทางใด


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม ยืนยันแผนฟื้นฟูการบินไทย อยู่ระหว่างให้ฝ่ายบริหารการบินไทย และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข. ทำแผนตามกรอบมติของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร . ซึ่งจะสรุปในเดือนพฤษภาคมนี้ หากแผนไปต่อไม่ได้ ต้องพิจารณาแนวทางเรื่องการฟื้นฟูกิจการ ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2559

เหตุผลหลายฝ่ายค้านเติมเงินการบินไทยก่อนปรับองค์กร


ที่ผ่านมา มีการวิพากษ์วิจารณ์ผลประกอบการ และที่มาการขาดทุนหนักต่อเนื่องหลายปีของการบินไทย หลายฝ่ายทั้งอดีตบอร์ดฯ ผู้บริหารการบินไทย อดีต รมว.คลัง สหภาพแรงงานการบินไทย จนถึงการวิพากวิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย เปิดข้อมูลและคัดค้าน หากรัฐบาลจะใส่เงินเข้าอุ้มการบินไทย โดยไม่เปลี่ยนโครงสร้างองค์กร โดยมีข้อมูลระบุว่า ภาครัฐต้องใช้เงินกว่า 200,000 ล้านบาท ทั้งการใช้เงินเสริมสภาพคล่อง ค่าใช้จ่ายพนักงาน และภาระเงินกู้รูปแบบต่างๆ ที่ครบกำหนดของการบินไทย

ผลประกอบการของการบินไทยที่น่าจะไปสู่ความพยายามให้การบินไทยปรับตัวเองก่อน เมื่อไปดูรายละเอียดตัวอย่างปี 2562 ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. พบว่า การบินไทยมีผลประกอบการขาดทุนประมาณ 12,000 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 188,954 ล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าโดยสารและค่าน้ำหนักส่วนเกิน 149,000 ล้านบาท ตามด้วยค่าระวางขนส่ง 17,242 ล้านบาท ขณะที่มีรายจ่ายรวม 199,989 ล้านบาท ซึ่งนอกจากค่าใช้จ่ายน้ำมันเครื่องบิน ที่เป็นต้นทุนสำหรับกิจการการบิน 54,675 ล้านบาทแล้ว ต้นทุนที่สูงอีกก้อนหนึ่งของการบินไทย คือ ค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงาน ปี 2562 สูงถึง 31,171 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับนักบินและลูกเรืออีก 6,241 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีค่าซ่อมบำรุงอากาศยานเกือบ 20,000 ล้านบาท และค่าเช่าเครื่องบินและอะไหล่อีก 15,000 ล้านบาท

แนวความคิดของแกนนำรัฐบาลเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการบินไทย มีรายงานระบุว่า ยังไม่ตกผลึก จนยังไม่ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยแบ่งเป็น 2 แนวคิด คือ

แนวคิดกลุ่มแรก มีความกังวลหากการบินไทยต้องสิ้นสภาพความเป็นรัฐวิสาหกิจ และสายการบินแห่งชาติ เพราะไทยเป็นประเทศมีรายได้การท่องเที่ยวเป็นหลัก มีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่าปีละ 39 ล้านคน รายได้ต่อปีกว่า 1 ล้านล้านบาท หากไม่มีสายการบินแห่งชาติสนับสนุนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวนี้ และแม้แต่คนไทยเองต้องใช้สายการบินต่างชาติ หรือต่างชาติถือหุ้น ในงานบริการเที่ยวบินพาณิชย์ทั้งหมด ก็ถือว่าไทยสูญโอกาสมหาศาล

แนวคิดกลุ่มที่ 2 เห็นว่า โดยสถานการณ์การบินไทย ที่ต้องใส่เงินมหาศาลขนาดนี้ ในภาวะที่ไทยมีข้อจำกัด ต้องใช้เงินแก้ปัญหาโควิด การเดินสุดซอยให้การบินไทยแปลงสภาพเป็นเอกชน ลดขนาดองค์กรให้คล่องตัว แก้ปัญหาหนี้ที่มี  ผ่านกระบวนฟื้นฟูกิจการตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย เพื่อให้การบินไทย กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง

ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งเห็นด้วยกับแนวคิดหลังนี้ โดยยังเชื่อว่า การแข่งขันเสรีการบินมีการแข่งขันของสายการบินหลายราย ทั้งด้านราคาและบริการ จะทำให้ผู้ใช้บริการซึ่งก็คือประชาชน ได้ประโยชน์สูงสุด

ทางออกปัญหาการบินไทยอาจถึงกระบวนการล้มละลาย


สำหรับทิศทางการฟื้นกิจการของการบินไทย ที่ถูกขีดเส้นจะต้องสรุปในเดือนพฤษภาคมนี้ รายงานข่าวระบุแล้วว่า แนวทางสุดซอยอาจเป็นทางออก โดยใช้กระบวนการตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงบอร์ด และฝ่ายบริหารการบินไทย เพื่อให้มีมืออาชีพมาทำแผนบริหารหนี้และฟื้นฟูองค์กร ก่อนนำการบินไทย เข้าสู่ทำแผนฟื้นฟูของศาลล้มละลายกลาง เพื่อเคลียร์ปัญหากับเจ้าหนี้ ลดการถือหุ้นของรัฐ เพื่อให้การบินไทยพ้นจากความเป็นรัฐวิสาหกิจ การจัดการสินทรัพย์ที่มี จัดการโครงสร้างลดขนาดองค์กรให้เล็กลงคล่องตัว โดยตัดหน่วยธุรกิจที่ไม่สร้างผลกำไรออกไป จัดการโครงสร้างฝ่ายบริหาร ลดจำนวนพนักงานให้เหมาะสมกับปริมาณงาน

โดยภายใต้กรอบดำเนินการภายใน 2 ปี เป้าหมายจะจัดการปัญหาให้แล้วเสร็จ สอดคล้องกับระยะเวลาที่ธุรกิจการบินอยู่ในช่วงซบเซาจากการระบาดของโควิด-19 จนถึงเดือนสิงหาคมปีหน้า ตามการคาดการณ์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งการบินไทยจะกลับมาบินอย่างแข็งแรง ในช่วงที่ธุรกิจการบินและการท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมาในเวลาไล่เลี่ยกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับบ้านพร้อมหน้า

อุบลราชธานี 8 ส.ค. – ฝนชะล้างความเศร้า ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับเข้าบ้านเรือนเกือบหมดแล้ว ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้งในรอบกว่า 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่เกิดเหตุไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา .-สำนักข่าวไทย

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]