กรุงเทพฯ 12 พ.ค. –“พลภูมิ” จี้ รัฐเร่งเยียวยาผู้ประกอบการ หลังได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 หลายรายต้องปิดกิจการ เลิกจ้างงาน ส่งผลแรงานตกงานเดือดร้อนหนัก
นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม.เขตบึงกุ่ม-คันนายาว พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลประกาศพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยใช้มาตรการ lock down เป็นเวลากว่า 2 เดือน ส่งผลให้ผู้ประกอบการ บริษัท ห้าง ร้าน เจ้าของธุรกิจ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) ภาคอุตสาหกรรม ภาคการท่องเที่ยวและบริการ อยู่ในสภาวะวิกฤติ กิจการหยุดชะงัก ขาดทุน แบกรับต้นทุนไม่ไหว ถึงขั้นต้องปิดกิจการและเลิกจ้างงาน ทำให้ประชาชนตกงานจำนวนมาก และส่งผลให้แรงงานนอกระบบต้องตกงานทันทีเช่นกัน
นายพลภูมิ กล่าวว่า นอกจากการเยียวยาประชาชนและแรงงานแล้ว อยากขอวิงวอนให้ภาครัฐเร่งเยียวยาผู้ประกอบการโดยเร็ว เพราะหากผู้ประกอบการอยู่รอด แรงงานก็อยู่รอด เพราะสามารถรักษาการจ้างงานไว้ได้ ประชาชนจะไม่ตกงาน ภาครัฐจำเป็นต้องเร่งออกมาตรการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะมาตรการเร่งการสร้างงาน กระตุ้นให้เกิดการบริโภคและการลงทุนในประเทศ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ทั้งครัวเรือนและภาคธุรกิจ
“ผมและทีมงานได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน พบว่า มีผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหลายราย ร้องเรียนว่าเดือดร้อนหนัก ไร้การดูแล ขาดการเยียวยาจากภาครัฐ ธุรกิจเจ๊ง ต้องปิดกิจการ และเป็นหนี้สิน ขณะที่ผู้ประกอบการบางรายบอกว่าต้องทนแบกรับภาระค่าใช้จ่าย อยู่ในภาวะขาดทุนที่ใกล้จะต้องปิดกิจการ เลิกจ้างงาน จึงขอให้ภาครัฐเร่งเยียวยาและออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อให้ผู้ประกอบการอยู่รอด และช่วยให้ประชาชนไม่ตกงาน โดยเร็วที่สุด” นายพลภูมิกล่าว
นายพลภูมิ กล่าวว่า จากข้อมูลสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) วิกฤติโควิด-19 ในครั้งนี้พบว่ามีเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบประมาณ 1,333 ล้านราย คิดเป็น 44% ของธุรกิจเอสเอ็มอีทั้งหมด โดยแยกเป็น ธุรกิจค้าปลีก 873,360 ราย ร้านอาหาร เครื่องดื่ม 330,875 ราย ที่พัก โรงแรม บริการการท่องเที่ยว 45,430 ราย บริการขนส่ง 64,885 ราย กีฬา นันทนาการ 18,355 ราย ซึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดนี้ มีการจ้างงานประมาณ 4,088,002 คน คิดเป็น 25% ของแรงงานทั้งหมด
นายพลภูมิ กล่าวว่า ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2563 ว่าผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ฉุดเศรษฐกิจไทยปีนี้แย่กว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง โดยจะหดตัว -3.4% ส่งออก -8.8% จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงประมาณ 30 ล้านคน ส่งผลกระทบต่อมูลค่าเศรษฐกิจไทยหายไปประมาณ 1.13 ล้านล้านบาท จึงขอให้รัฐบาลเร่งเยียวยาภาคธุรกิจในมาตรการอื่นๆเพิ่มเติม โดยเฉพาะการลดภาระรายจ่ายและผ่อนปรนภาระหนี้สินให้ผู้ประกอบการ เพิ่มเติมจากมาตรการที่ได้ดำเนินการไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย