ศบค.แถลง พบติดเชื้อเพิ่ม 6 ราย

ทำเนียบ 11พ.ค.-ศบค.แถลงพบติดเชื้อเพิ่ม 6 คน เปิดข้อมูลกิจการที่จะได้รับการผ่อนระยะที่ 2 แต่ย้ำว่ายังไม่เป็นข้อสรุป รอเคาะอย่างเป็นทางการ 15 พ.ค.นี้


นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์รายวัน (11พ.ค.) ว่ายอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,015 คน รักษาหายเพิ่มขึ้น 2 คน รักษาหายสะสม 2,796 คน อยู่ระหว่างการรักษา 163 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม รวมเสียชีวิต 56 ศพ ส่วนผู้ป่วยติดเชื้อใหม่เพิ่ม 6 คน เป็นบุคคลที่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 1 คน เป็นเด็กชายไทยอายุ 6 ปี ที่นราธิวาส , ติดจากสถานที่ชุมชน ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 1 คน เป็นชายไทยอายุ 19 ปี ที่ภูเก็ต เริ่มป่วยวันที่ 5 พฤษภาคม , อาชีพเสี่ยง 3 คน ที่ภูเก็ตทั้งหมด ประกอบด้วยชายไทยอายุ 29 ปี อาชีพตำรวจ เริ่มป่วยวันที่ 2 พฤษภาคม หญิงไทยอายุ 23 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เริ่มป่วยวันที่ 2 พฤษภาคม หญิงไทยอายุ 29 ปี อาชีพพนักงานขายของในร้านค้า เริ่มป่วยวันที่ 7 พฤษภาคม , ผู้ติดเชื้อจากการตรวจเชิงรุกที่ยะลา 1 คน เป็นชายไทยอายุ 22 ปี มีประวัติกลับจากมาเลเซีย เริ่มป่วยวันที่ 1 พฤษภาคม ส่วนการกระจายตัวระดับจังหวัด 22 จังหวัดยังมีรายงานผู้ป่วย และอีก 47 จังหวัดไม่มีรายงานผู้ป่วยแล้วในรอบ 28 วัน และจังหวัดที่ไม่เคยมีรายงานผู้ป่วย 9 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท ตราด สิงห์บุรี อ่างทอง กำแพงเพชร น่าน พิจิตร บึงกาฬ ระนอง และสตูล ที่มีเฉพาะผู้ถูกกักตัวโดยรัฐใน State Quarantine

โฆษก ศบค. รายงานสถานการณ์โลกมียอดผู้ป่วยสะสม 4,180,305 คน หายแล้ว 1,490,182 คน เสียชีวิต 283,860 ศพ ร้อยละ 6.8 ของผู้ติดเชื้อสะสม ประเทศที่มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดคือสหรัฐอเมริกา 1,367,638 คน , สเปน 264,663 คน , อังกฤษ 219,183 คน ประเทศที่ติดเชื้อใหม่สูงสุดคือ สหรัฐอเมริกา ติดเชื้อใหม่วันเดียว 20,329 คน , รัสเซีย 11,012 คน , บราซิล 6,638 คน ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตใหม่สูงสุดยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา เสียชีวิตเพิ่มวันเดียว 750 ศพ , บราซิล 467 ศพ , อังกฤษ 268 ศพ ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 66 ของโลก


นายแพทย์ทวีศิลป์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์โลกที่น่าสนใจ โดยหน่วยงานสาธารณสุขจีนรายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นอีก 14 คน นับเป็นยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มีจำนวนเลขสองหลักเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 10 วัน ทำให้ต้องยกระดับการระบาดในเมืองซูหลาน มณฑลจี๋หลิน ซึ่งเป็นพื้นที่ความเสี่ยงสูง ส่วนเกาหลีใต้ก็มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกเป็น 35 คน และต้องติดตามคนอื่นกว่า 1,500 คน

สำหรับการนำคนไทยกลับจากต่างประเทศ โฆษก ศบค. กล่าวว่า วันนี้(11 พ.ค.)มี คนไทยกลับจากอินเดีย 219 คน เวลา 07.10 น. , ญี่ปุ่น 71 คนเวลา 15.30 น. ส่วนพรุ่งนี้(12พ.ค.) มีกลับจากรัสเซีย 99 คน เวลา 10.30 น. , ภูฏาน 1 คน เวลา 12.10 น. , สหรัฐอเมริกา 200 คน เวลา 21.45 น. ย้ำว่าคนไทยในต่างประเทศไทย หากมีความจำเป็นเร่งด่วน ก็สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากสถานทูตได้ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งใคร ส่วนสถิติการกักตัวโดยรัฐหรือ State Quarantine มียอดสะสม 16,331 คน เพิ่มขึ้น 632 คน กลับบ้านได้แล้วสะสม 6,821 คน เพิ่มขึ้น 592 คน พบติดเชื้อระหว่างกักตัวสะสม 90 คน ไม่มีเพิ่มขึ้น ซึ่งภาพรวมแนวโน้มคนเข้าสู่การกักตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยพบว่าด่านทางมาเลเซียมีคนเข้าสู่การกักตัวสูงสุด

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า รายงานของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง มีผู้กระทำผิดออกนอกเคหสถาน 597 คน ลดลง 70 คน ชุมนุมมั่วสุม 89 คน ลดลง 58 คน ส่วนใหญ่กระทำผิดจับกลุ่มดื่มสุราเป็นอันดับหนึ่งกว่าร้อยละ 55 โดยโฆษก ศบค. ยกตัวอย่างข่าวแก๊งวัยรุ่น รุมทำร้ายเจ้าของร้านขายของชำ เหตุเพราะไม่ขายสุราในเวลาเคอร์ฟิว จึงเป็นภาระของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องจัดการดูแล เช่นเดียวกับกรณีชุมนุมมั่วสุมเล่นการพนันและยาเสพติดก็ยังปรากฏอยู่ ส่วนการตรวจกิจการที่ได้รับการผ่อนคลายเมื่อวานนี้ 18,512 ราย ปฏิบัติตามไม่สมบูรณ์ 5,644 ราย ร้อยละ 30.49 และไม่ปฏิบัติตามมาตรการ 449 ราย ร้อยละ 2.37 โดยกิจการส่วนใหญ่มีแนวโน้มดีขึ้น 


ส่วนการผ่อนปรนสถานประกอบการเพิ่มเติมที่เริ่มมีการเผยแพร่ส่งต่อกัน โฆษก ศบค. บอกว่า ยังไม่มีข้อสรุปสุดท้ายชัดเจน ก็รอผลการประชุม ศบค. วันที่ 15 พฤษภาคมนี้ แต่เบื้องต้นมีกิจการที่ได้รับการผ่อนปรนระยะที่ 2 คือ กลุ่ม ก. การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงอาหาร ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ขนมหวาน ไอศครีม ในอาคารสำนักงาน, กลุ่ม ข. ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า Community Mall ยกเว้นโรงภาพยนตร์ ฟิตเนส โบว์ลิ่ง สวนสนุก สวนน้ำ ศูนย์ประชุม ศูนย์พระเครื่อง สนามพระเครื่อง , กลุ่ม ค. ร้านค้าปลีก ค้าส่งอื่นๆ , กลุ่ม ง. ร้านเสริมสวย ย้อมผม ดัดผม ทำเล็บ หรือกิจกรรมอื่นๆ ในระยะเวลาการบริการไม่เกิน 2 ชั่วโมง ส่วนกลุ่มกิจกรรมด้านการออกกำลังกายและดูแลสุขภาพ กลุ่ม ก. คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงามควบคุมน้ำหนัก , กลุ่ม ข. สนามกีฬา เฉพาะกีฬาประเภทกลางแจ้ง และตามกติกาสากลเล่นเป็นทีม ไม่มีผู้ชม , กลุ่ม ค. สวนดอกไม้ สวนพฤกษศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ แกลอรี่ ห้องสมุดสาธารณะ โดยเข้าเป็นรายคน , กลุ่ม ง. สถานประกอบการนวดแผนไทยเฉพาะนวดเท้า , กลุ่มอื่น ๆ คือการประชุมสถานที่ภายในและภายนอกองค์กร ลักษณะการบรรยายร่วมกับ Video Conference จำกัดจำนวนคนตามพื้นที่ ทีมถ่ายทำรายการโทรทัศน์ โฆษณา ถ่ายแบบ ทำคลิป จำนวนไม่เกิน 5 คน โดยโฆษก ศบค. ย้ำว่า รายละเอียดเหล่านี้ยังเป็นร่างอยู่ ซึ่งจะต้องประชุมกันหลายครั้ง และอาจมีการเปลี่ยนแปลง

ส่วนการใช้แอพพลิเคชั่นติดตามตัว โฆษก ศบค. บอกว่า แอพลิเคชั่นทำหน้าที่เหมือนเช็คอินสถานที่ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการติดตาม โดยยกตัวอย่างเกาหลีใต้ที่สามารถระบุการติดตามตัวกลุ่มเสี่ยงได้ และยังสามารถรีวิวกิจการที่ไปใช้บริการได้ พร้อมฝากถึงการทำตู้ปันสุขทั่วประเทศว่า เป็นปรากฎการณ์ที่คนไทยแบ่งปันน้ำใจต่อกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย