กรมรางลงพื้นที่จัดระบบการให้บริการรถไฟฟ้าเช้านี้

กรุงเทพฯ 7 พ.ค.-อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ลงพื้นที่ติดตามการใช้บริการรถไฟฟ้าทุกระบบเช้านี้ เพื่อให้การใช้บริการผู้โดยสารที่รอขึ้นรถกับบนขบวนรถมีความสมดุลกัน ด้านรถไฟฟ้าบีทีเอสยังร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศกิจ กรุงเทพฯ เข้าจัดระเบียบผู้ใช้บริการในช่วงเวลาเร่งด่วน


นายสรพงษ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เดินทางลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยการใช้บริการของประชาชนในระบบรถไฟฟ้าช่วงเช้าวันนี้ (7 พ.ค.) ทั้งรถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้า MRT โดยระบุว่าเช้านี้กรมรางพยายามดูแลการควบคุม การบริหารจัดการระบบเดินรถ ของผู้ประกอบการรถไฟฟ้าให้มีความสัมพันธ์กันระหว่างคิวรอขึ้นรถและจำนวนผู้โดยสารบนขบวนรถ เพราะเมื่อในรถบางขบวนเริ่มแน่นอาจต้องกันผู้โดยสารชุดใหม่ที่จะแทรกเข้ามา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องยากที่สุด แต่ก็ต้องดำเนินการเพื่อรักษามาตรการระยะห่าง หรือ social distancing ไว้


นอกจากนี้ อธิบดีกรมการขนส่งทางรางยังตรวจการให้บริการในการเว้นระยะห่าง ทั้งในสถานีตั้งแต่ช่วงการรอคิวซื้อตั๋วจนถึงมาตรการการสวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาในการใช้งานระบบไฟฟ้าของผู้โดยสาร รวมทั้งการตั้งจุดให้บริการเจลล้างมือแก่ผู้โดยสารในพื้นที่ด้วย

นอกจากนี้ ในช่วงเช้าวันนี้รถไฟฟ้าบีทีเอสยังได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศกิจ กรุงเทพมหานคร อำนวยความสะดวก และจัดระเบียบ ผู้ใช้บริการในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า – เย็น เพื่อปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างการเดินทาง พร้อมขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ เผื่อเวลาในการเดินทางมากขึ้น และสนับสนุนแนวคิดให้ภาครัฐ และเอกชนขยับหรือเหลื่อมเวลาการทำงาน เพื่อกระจายการเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะ ลดความเสี่ยง และความแออัดในการเดินทางของประชาชน ขณะที่บีทีเอสยังคงเข้มงวดและเพิ่มความถี่ฉีดพ่นฆ่าเชื้อ เพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19


นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รถไฟฟ้าบีทีเอสยังคงเข้มงวดและเพิ่มความถี่ในการฉีดพ่นและเช็ดทำความสะอาดภายในขบวนรถไฟฟ้าและจุดสัมผัสร่วมภายในสถานี และบริเวณรอบสถานีด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ เพื่อให้การปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมบีทีเอสได้นำรถไฟฟ้าทุกขบวนที่มีอยู่ทั้งหมด 98 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ รวมทั้งหมด 392 ตู้ ออกให้บริการเพื่อรองรับผู้โดยสารอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ทำให้การรักษาระยะห่างระหว่างกันไม่สามารถปฏิบัติได้อย่างเคร่งครัด แต่สำหรับการเดินทางที่ไม่ใช่ในช่วงเวลาเร่งด่วน ผู้โดยสารยังคงสามารถรักษาระยะห่างในการเดินทางได้ในระดับปกติ ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม เป็นต้นไป

ทั้งนี้ รถไฟฟ้าบีทีเอสร่วมกับกรุงเทพมหานคร โดยพลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร จัดส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้ามาทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่บีทีเอส เพื่อช่วยจัดระเบียบและอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการในสถานีหลัก 17 สถานี ที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ในช่วงเวลาเร่งด่วนช่วงเช้าและเย็นให้สามารถรักษาระยะห่าง และไม่เข้ามากระจุกตัวภายในขบวนรถ บริเวณชั้นชานชาลา และพื้นที่บริเวณชั้นจำหน่ายตั๋วมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้มีผู้โดยสารตกค้างอยู่บริเวณพื้นที่รอบนอกสถานีมากขึ้น  

“จำเป็นต้องขอความร่วมมือผู้ใช้บริการเผื่อเวลาการเดินทางมากขึ้น เพราะจำเป็นต้องใช้เวลามากขึ้นในการจัดระเบียบการเข้าใช้บริการ แม้บีทีเอสจะนำขบวนรถที่มีอยู่ออกวิ่งให้บริการทั้งหมด แต่การจัดที่นั่งให้มีระยะห่างภายในขบวน หากปฏิบัติอย่างเคร่งครัดจะทำให้ความจุผู้โดยสารแต่ละขบวนลดลงเหลือเพียง 1 ใน 4 ของจำนวนผู้โดยสารที่รองรับได้ในภาวะปกติเท่านั้น” นายสุรพงษ์ กล่าว

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า บีทีเอสสนับสนุนแนวคิดที่ให้มีการบริหารจัดการเวลาการทำงานใหม่ โดยขยับหรือเหลื่อมเวลาการทำงานของราชการและบริษัทเอกชน โดยให้เข้าทำงานหรือเลิกงานเร็วขึ้นหรือช้าลงกว่าในภาวะปกติ รวมทั้งแนะนำให้ขยับวันหยุดงานเป็นวันศุกร์ หรือวันอื่น ๆ ด้วย เพื่อกระจายการเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อลดความเสี่ยงและความแออัดในการเดินทางของประชาชนในช่วงของการแพร่ระบาดของโควิด-19  

นอกจากนี้ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคบีทีเอสยังมีข้อแนะนำสำหรับผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้า โดยก่อนเข้าระบบรถไฟฟ้าให้ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อที่บีทีเอสเตรียมไว้ให้บริเวณโต๊ะตรวจการหน้าทางเข้า-ออกทุกสถานี และต้องสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าทุกครั้ง รวมทั้งระหว่างเดินทางหรืออยู่ในขบวนรถพยายามหลีกเลี่ยงการนำมือขึ้นมาจับใบหน้า โดยเฉพาะ จมูก ปากและตา โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วนที่มีจำนวนผู้โดยสารหนาแน่นแนะนำให้หลีกเลี่ยงการพูดคุยกันภายในขบวนรถ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค และก่อนออกจากระบบรถไฟฟ้าอย่าลืมกดล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อที่มีจัดไว้ให้ทุกสถานีทุกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพร “ปีใหม่-วันเด็ก” ให้นายกฯ

“เด็ก-เยาวชน” ส่ง ส.ค.ส.อวยพรปีใหม่ 2568 – วันเด็ก ให้ “นายกฯ พี่อิ๊งค์” มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง อยู่คู่ตึกไทยคู่ฟ้า บริหารประเทศไปนานๆ พร้อมฝากความคิดถึง “อดีตนายกฯ ทักษิณ”

16 บอสดิไอคอน แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.

16 บอส ดิไอคอนกรุ๊ป แถลงปฏิเสธทุกข้อหา ศาลนัดสอบคำให้การและตรวจพยานหลักฐาน 10 ก.พ.นี้ ขณะที่ “ทนายวิฑูรย์” เผย “บอสพอล-บอสกันต์” ดีใจ หลัง “แซม-มิน” ได้ปล่อยตัว ส่วนท่าทีทั้งคู่ดูสบายๆ ปกติ ล่าสุดมีรายงาน “บอสวิน” ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว อยู่ระหว่างรอผล

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน

ภรรยา “ลิม กิมยา” ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารและการติดต่อรับศพนายลิม ที่แผนกนิติเวช รพ.วชิรพยาบาล