ผลตรวจร้านค้าส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือป้องกันโรคโควิด-19

ทำเนียบรัฐบาล 6  พ.ค.-สถานการณ์โควิด-19 ในไทย วันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 1 ราย กลับจากต่างประเทศ ขณะที่ผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นชายชาวออสเตรเลียวัย 69 ปี ขณะที่ในรอบ 24 ชั่วโมงยังพบการกระทำผิดชุมนุมมั่วสุม ดื่มสุรา-เล่นการพนัน ส่วนการตรวจสถานบริการ/ร้านค้า พบส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค 


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 6 พฤษภาคม 2563 ว่า วันนี้เป็นวันสำคัญของชาวพุทธ คือวันวิสาขบูชา หวังว่าทุกคนจะได้ร่วมทำบุญอย่างปลอดโรค ปลอดภัย ไปที่วัดหรือทำบุญ อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยให้ได้ร้อยเปอร์เซนต์ 

สำหรับสถานการณ์วันนี้ พบตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย รวมสะสม 2,986 ราย หายป่วยแล้ว 2,761 ราย และเสียชีวิต 1 ราย รวมเป็น 55 ราย 


ในรายของผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุ 69 ปี สัญชาติออสเตรเลีย มีโรคประจำตัวหอบหืด เป็นผู้จัดการโรงแรมที่จังหวัดพังงา เริ่มป่วยวันที่ 25 มี.ค.มีอาการไอและอ่อนเพลีย ไปรับการรักษาที่คลินิกแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ด้วยอาการไข้ 37.9 องศาเซลเซียส เหนื่อยหอบและมีความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดลดลงเหลืออยู่ 89 เปอร์เซนต์ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต และส่งตรวจเอกซเรย์ปอด พบว่ามีการติดเชื้ออักเสบของปอดอย่างรุนแรงและผลยืนยันโควิด-19 ต่อมาก็มีอาการเหนื่อยมากขึ้น ใส่เครื่องช่วยหายใจและมีภาวะแทรกซ้อนทางไต และเสียชีวิตในวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา  

ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย เป็นผู้กลับมาจากประเทศรัสเซีย สามารถคงตัวเลขระดับหน่วยได้, ขณะที่ผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ใน รพ.ลดน้อยลงเหลือ 173 ราย กลับบ้านเพิ่มขึ้นอีก 14 ราย เป็น 2,761 ราย โดยในรายของผู้ป่วยใหม่เป็นผู้ป่วยหญิงอายุ 27 ปี ภูมิลำเนาอยู่จังหวัดบุรีรัมย์อาชีพพนักงานนวด และวันที่ 3 พฤษภาคมนั่งเครื่องบินกลับมาในลำนั้นมี 70 คน เมื่อกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิก็เข้าสถานที่รัฐจัดให้ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง รวมถึงคนที่มาในเที่ยวบินลำนั้นด้วยที่จังหวัดสมุทรปราการ และมาตรวจพบว่ามีไข้ 38.3 องศาเซลเซียส จึงส่งตัวรับการรักษาที่โรงพยาบาล  มีอาการไข้ไอหายใจเหนื่อย ก็ด้วยระบบของการคัดกรองทำให้มั่นใจว่าบุคคลที่สัมผัสกับผู้ป่วยก็ถูกแยกกักตั้งแต่ตอนต้น 

ส่วนกรณีของผลแล็บ 40 รายที่จังหวัดยะลานั้น เบื้องต้นได้รับรายงานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ตัวเลขนี้ไม่พบผู้ป่วยยืนยันเลย ไม่ได้เป็นผลบวก ซึ่งการยืนยันผลลบทั้งหมดนี้จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขจะมีการแถลงข่าวลงในรายละเอียด


สำหรับกลุ่มจังหวัดที่พบผู้ป่วยยังคง 34 จังหวัด ส่วนจำนวนผู้เข้าเกณฑ์สงสัยต้องตรวจเชื้อ(PUI)ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเข้าข่าย PUI เข้ามา 54,600 ราย อย่างไรก็ตามด้วยรายละเอียดต่างๆในเกณฑ์ PUI มีการผ่อนลงมาเรื่อยๆ เช่น เดิมบอกต้องมีไข้มีประวัติเดินทางกลับจากต่างประเทศ หลังๆผ่อนลงมา ไม่ต้องมีไข้ มีอาการคล้ายหวัด การดมกลิ่นไม่ได้กลิ่น ก็สามารถตรวจได้แล้ว จะนำเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขปรับแล้วตั้งแต่ 1 พฤษภาคมมาชี้แจงเพิ่มเติมในครั้งถัดไป เนื่องจากการปรับเกณฑ์ทุกคนต้องมีส่วนร่วม เพื่อที่จะได้ดึงเคสมาเข้ารับการตรวจให้มากขึ้น ยิ่งตรวจเยอะยิ่งมีโอกาสได้เจอ ตรวจให้มากไว้ก่อน

ขณะที่สถานการณ์ในต่างประเทศ พบว่า สหรัฐฯ มียอดผู้ป่วยสะสมสูงสุดกว่า 1.2 ล้านคน รายใหม่เพิ่มวันเดียวกว่า 24,000 คน ยอดเสียชีวิต 72,271 คน และยอดเสียชีวิตรายวัน 2,350 คน รองลงมาสเปน อิตาลี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมัน รัสเซีย ตุรกี บราซิลและอิหร่าน 

นอกจากนี้ยังพบการรายงานข่าวในกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย มีปัญหาเรื่องการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหมือนกับประเทศไทยหลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยได้จัดการขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 70% และประกาศหากพบการฝ่าฝืน ไม่รับผิดชอบต่อสังคมอีก จะสั่งยกเลิกการผ่อนปรนในทันที ด้านกัมพูชา ประเทศเมืองพุทธเหมือนประเทศไทย ก็ยกเลิกการจัดงานวันวิสาขบูชาบนเขาอุดงในปีนี้ ไม่รวมกลุ่มชั่วคราว เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ

สำหรับการนำคนไทยที่ตกค้างกลับประเทศไทย วันนี้ (6พ.ค.) มีจำนวน 3 เที่ยวบิน จากเมียนมา (59คน) เยอรมนี (110คน) และปากีสถาน (122คน) ส่วนวันพรุ่งนี้ (7พ.ค.) มี 2 เที่ยวบิน เกาหลีใต้ (150คน)  และแอฟริกาใต้ (150คน)  รวมยอดสะสม 4,637 คน จาก 27 ประเทศที่เดินทางกลับมาประเทศไทย

ทั้งนี้ ในรอบ 24 ชั่วโมงยังพบว่ามีการกระทำความผิดด้านการชุมนุมมั่วสุม เพิ่มขึ้น 6 คนเป็น 104 คน ออกนอกเคหสถานเพิ่มขึ้น 32 คน เป็น 699 คน อันดับ 1ของการชุมนุมมั่วสุมยังเป็นการดื่มสุรา 45% และเล่นการพนันเป็นอันดับ 2 ส่วนผลการตรวจสถานบริการ/ร้านค้า 12,996 รายกิจการ/กิจกรรม พบว่า ไม่ปฏิบัติตามเพียง 449 แห่ง ในภาพรวมถือว่ามีจำนวนลดลง ปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรน ซึ่งต้องขอบคุณร้านค้าส่วนใหญ่ที่ให้ความร่วมมือ  เช่น การรักษาระยะห่าง และมีการกั้นที่นั่งด้วยสิ่งของต่างๆ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย