ผลตรวจร้านค้าส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือป้องกันโรคโควิด-19

ทำเนียบรัฐบาล 6  พ.ค.-สถานการณ์โควิด-19 ในไทย วันนี้พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 1 ราย กลับจากต่างประเทศ ขณะที่ผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นชายชาวออสเตรเลียวัย 69 ปี ขณะที่ในรอบ 24 ชั่วโมงยังพบการกระทำผิดชุมนุมมั่วสุม ดื่มสุรา-เล่นการพนัน ส่วนการตรวจสถานบริการ/ร้านค้า พบส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค 


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 6 พฤษภาคม 2563 ว่า วันนี้เป็นวันสำคัญของชาวพุทธ คือวันวิสาขบูชา หวังว่าทุกคนจะได้ร่วมทำบุญอย่างปลอดโรค ปลอดภัย ไปที่วัดหรือทำบุญ อย่าลืมสวมหน้ากากอนามัยให้ได้ร้อยเปอร์เซนต์ 

สำหรับสถานการณ์วันนี้ พบตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 ราย รวมสะสม 2,986 ราย หายป่วยแล้ว 2,761 ราย และเสียชีวิต 1 ราย รวมเป็น 55 ราย 


ในรายของผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุ 69 ปี สัญชาติออสเตรเลีย มีโรคประจำตัวหอบหืด เป็นผู้จัดการโรงแรมที่จังหวัดพังงา เริ่มป่วยวันที่ 25 มี.ค.มีอาการไอและอ่อนเพลีย ไปรับการรักษาที่คลินิกแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ด้วยอาการไข้ 37.9 องศาเซลเซียส เหนื่อยหอบและมีความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดลดลงเหลืออยู่ 89 เปอร์เซนต์ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต และส่งตรวจเอกซเรย์ปอด พบว่ามีการติดเชื้ออักเสบของปอดอย่างรุนแรงและผลยืนยันโควิด-19 ต่อมาก็มีอาการเหนื่อยมากขึ้น ใส่เครื่องช่วยหายใจและมีภาวะแทรกซ้อนทางไต และเสียชีวิตในวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา  

ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย เป็นผู้กลับมาจากประเทศรัสเซีย สามารถคงตัวเลขระดับหน่วยได้, ขณะที่ผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ใน รพ.ลดน้อยลงเหลือ 173 ราย กลับบ้านเพิ่มขึ้นอีก 14 ราย เป็น 2,761 ราย โดยในรายของผู้ป่วยใหม่เป็นผู้ป่วยหญิงอายุ 27 ปี ภูมิลำเนาอยู่จังหวัดบุรีรัมย์อาชีพพนักงานนวด และวันที่ 3 พฤษภาคมนั่งเครื่องบินกลับมาในลำนั้นมี 70 คน เมื่อกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิก็เข้าสถานที่รัฐจัดให้ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง รวมถึงคนที่มาในเที่ยวบินลำนั้นด้วยที่จังหวัดสมุทรปราการ และมาตรวจพบว่ามีไข้ 38.3 องศาเซลเซียส จึงส่งตัวรับการรักษาที่โรงพยาบาล  มีอาการไข้ไอหายใจเหนื่อย ก็ด้วยระบบของการคัดกรองทำให้มั่นใจว่าบุคคลที่สัมผัสกับผู้ป่วยก็ถูกแยกกักตั้งแต่ตอนต้น 

ส่วนกรณีของผลแล็บ 40 รายที่จังหวัดยะลานั้น เบื้องต้นได้รับรายงานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่า ตัวเลขนี้ไม่พบผู้ป่วยยืนยันเลย ไม่ได้เป็นผลบวก ซึ่งการยืนยันผลลบทั้งหมดนี้จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขจะมีการแถลงข่าวลงในรายละเอียด


สำหรับกลุ่มจังหวัดที่พบผู้ป่วยยังคง 34 จังหวัด ส่วนจำนวนผู้เข้าเกณฑ์สงสัยต้องตรวจเชื้อ(PUI)ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเข้าข่าย PUI เข้ามา 54,600 ราย อย่างไรก็ตามด้วยรายละเอียดต่างๆในเกณฑ์ PUI มีการผ่อนลงมาเรื่อยๆ เช่น เดิมบอกต้องมีไข้มีประวัติเดินทางกลับจากต่างประเทศ หลังๆผ่อนลงมา ไม่ต้องมีไข้ มีอาการคล้ายหวัด การดมกลิ่นไม่ได้กลิ่น ก็สามารถตรวจได้แล้ว จะนำเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขปรับแล้วตั้งแต่ 1 พฤษภาคมมาชี้แจงเพิ่มเติมในครั้งถัดไป เนื่องจากการปรับเกณฑ์ทุกคนต้องมีส่วนร่วม เพื่อที่จะได้ดึงเคสมาเข้ารับการตรวจให้มากขึ้น ยิ่งตรวจเยอะยิ่งมีโอกาสได้เจอ ตรวจให้มากไว้ก่อน

ขณะที่สถานการณ์ในต่างประเทศ พบว่า สหรัฐฯ มียอดผู้ป่วยสะสมสูงสุดกว่า 1.2 ล้านคน รายใหม่เพิ่มวันเดียวกว่า 24,000 คน ยอดเสียชีวิต 72,271 คน และยอดเสียชีวิตรายวัน 2,350 คน รองลงมาสเปน อิตาลี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมัน รัสเซีย ตุรกี บราซิลและอิหร่าน 

นอกจากนี้ยังพบการรายงานข่าวในกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย มีปัญหาเรื่องการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหมือนกับประเทศไทยหลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยได้จัดการขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 70% และประกาศหากพบการฝ่าฝืน ไม่รับผิดชอบต่อสังคมอีก จะสั่งยกเลิกการผ่อนปรนในทันที ด้านกัมพูชา ประเทศเมืองพุทธเหมือนประเทศไทย ก็ยกเลิกการจัดงานวันวิสาขบูชาบนเขาอุดงในปีนี้ ไม่รวมกลุ่มชั่วคราว เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ

สำหรับการนำคนไทยที่ตกค้างกลับประเทศไทย วันนี้ (6พ.ค.) มีจำนวน 3 เที่ยวบิน จากเมียนมา (59คน) เยอรมนี (110คน) และปากีสถาน (122คน) ส่วนวันพรุ่งนี้ (7พ.ค.) มี 2 เที่ยวบิน เกาหลีใต้ (150คน)  และแอฟริกาใต้ (150คน)  รวมยอดสะสม 4,637 คน จาก 27 ประเทศที่เดินทางกลับมาประเทศไทย

ทั้งนี้ ในรอบ 24 ชั่วโมงยังพบว่ามีการกระทำความผิดด้านการชุมนุมมั่วสุม เพิ่มขึ้น 6 คนเป็น 104 คน ออกนอกเคหสถานเพิ่มขึ้น 32 คน เป็น 699 คน อันดับ 1ของการชุมนุมมั่วสุมยังเป็นการดื่มสุรา 45% และเล่นการพนันเป็นอันดับ 2 ส่วนผลการตรวจสถานบริการ/ร้านค้า 12,996 รายกิจการ/กิจกรรม พบว่า ไม่ปฏิบัติตามเพียง 449 แห่ง ในภาพรวมถือว่ามีจำนวนลดลง ปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรน ซึ่งต้องขอบคุณร้านค้าส่วนใหญ่ที่ให้ความร่วมมือ  เช่น การรักษาระยะห่าง และมีการกั้นที่นั่งด้วยสิ่งของต่างๆ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย