โควิด-19 ฉุดเงินเฟ้อ เม.ย.ลดลงแรงร้อยละ 2.99

นนทบุรี 5 พ.ค. – พาณิชย์เผยเงินเฟ้อ เม.ย.ลดลงแรงร้อยละ 2.99 จากปัญหาโควิด-19 และน้ำมัน แต่ไม่กังวล เพราะเป็นทั่วโลก


น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรืออัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายน 2563 พบว่า อัตราเงินเฟ้อลดลงแรงถึงร้อยละ 2.99 ถือว่าหดตัวแรงในรอบ 10 ปี 9 เดือน สาเหตุหลักมาจากการระบาดของโควิด-19 และการลดลงของกลุ่มพลังงาน

อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยผลกระทบดังกล่าวส่งผลให้หมวดอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ปรับตัวสูงขึ้นทุกกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะอาหารสด อาหารสำเร็จรูปและเครื่องประกอบอาหาร เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้ง ขณะที่กลุ่มพลังงานมีการปรับตัวลดลงเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกและการลงทุนที่ชะลอตัวลง และมีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน รายได้ของภาคธุรกิจ การท่องเที่ยว การขนส่ง ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก รวมถึงการผลิตปรับตัวลดลง 


ทั้งนี้ สนค.มองว่าจากปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้น คาดว่าเงินเฟ้อปีนี้จะติดลบร้อยละ 0.2-1 และเท่าที่ประเมินภาพรวมเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมนี้ยังมีโอกาสติดลบแต่ไม่มาก ส่งผลให้เงินเฟ้อติดลบติดต่อกัน 3 เดือน ซึ่งตามสูตรคำนวณเงินเฟ้อหากติดลบติดต่อเช่นนี้จะเข้าสู่ภาวะเงินฝืด แต่ข้อเท็จจริงเงินฝืดจะเกิดจากภาวะสินค้าโดยรวมต้องลดลงมาก แต่ขณะนี้สินค้าอุปโภคและบริโภครวมถึงสินค้าภาคการเกษตรไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด อยู่ในภาวะทรงตัว ทำให้มองว่าแม้เงินเฟ้อจะติดลบติดต่อกันก็เป็นเพียงจากปัจจัยผลกระทบจากโควิด-19 และราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลงไปมาก

นอกจากนี้ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อไตรมาส 2 ยังมีโอกาสติดลบไปถึงร้อยละ 2.28 และน่าจะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 หลังจากแนวโน้นการดูแลควบคุมการระบาดโควิด-19 ที่สามารถจัดการดูแลได้เป็นอย่างดีน่าจะทำให้โอกาสการเปิดดำเนินธุรกิจต่าง ๆ ทำได้เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับแนวทางกระตุ้นภาคธุรกิจของรัฐบาลที่จะออกมาน่าจะส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศกลับมาดีขึ้น ส่งผลให้ประชาชนหันมาจับจ่ายใช้สอยในระบบเพิ่มมากขึ้น ทำให้อัตราเงินเฟ้อในช่วงไตรมาส 4 จะกลับมาดีขึ้นเช่นกัน โดยปีนี้จะคาดหวังจากการท่องเที่ยวคงลำบากและสิ่งที่จะช่วยเศรษฐกิจไทยได้ คือ กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศด้วยการกินของไทยใช้ของไทยและใช้มาตรการผ่อนปรนให้กับภาคธุรกิจขนาดกลางและย่อมด้วยมาตรการด้านภาษีเป็นหลัก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นศ.ซิ่งเก๋งชนเสาไฟล้ม 12 ต้น ทับรถ 3 คัน โค้งถนนกาญจนาภิเษก

นักศึกษาซิ่งเก๋งชนเสาไฟฟ้าล้ม 12 ต้น ทับรถที่วิ่งผ่านไปมาเสียหาย 3 คัน บริเวณโค้งถนนกาญจนาภิเษก ตัดเพชรเกษม ประชาชน 150 ครัวเรือนเดือดร้อนไฟดับ การไฟฟ้านครหลวงเร่งซ่อมแซม คาดเย็นนี้กลับมาใช้การได้ตามปกติ

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท

สั่งปิดกิจการโรงงานลอบขนขยะอิเล็กทรอนิกส์

“เอกนัฏ” ลุยจับโรงงานลักลอบขนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกยึดอายัดจากปราจีนบุรี มามหาชัย จ.สมุทรสาคร พบเป็นเครือข่ายเดียวกับ 2 โรงงานที่ถูกสั่งปิดก่อนหน้านี้ ขยายผลตามจับจนเจอขยะอิเล็กทรอนิกส์ลอตใหม่อีกกว่า 1,200 ตัน สั่งปิดกิจการทันที

ข่าวแนะนำ

ดิจิทัลวอลเล็ตเฟส3

“ประเสริฐ” มั่นใจดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เสร็จทัน มี.ค.นี้ ได้บริษัททำแอปแล้ว

“ประเสริฐ” รมว.ดีอี มั่นใจดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เสร็จทัน มี.ค.นี้ หลัง “ทักษิณ” ประกาศซ้ำ เผยล่าสุดได้บริษัทจัดทำแอปพลิเคชันแล้ว ทดลองระบบ 1 เดือน แย้ม มี.ค. รอบสุดท้าย

น้ำค้างแข็งดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์อุณหภูมิลดฮวบ เหลือ 0 องศาฯ

เหนือเย็นยะเยือกต่อเนื่อง ดอยอินทนนท์อุณหภูมิลดฮวบ เหลือ 0 องศาเซลเซียส อุณหภูมิยอดหญ้าติดลบ เกิดน้ำค้างแข็งเป็นครั้งที่ 4 ของปี 2568 และเป็นครั้งที่ 12 ของหน้าหนาว

กต.เผยเมียนมาปล่อยนักโทษไทย 152 คน-ไม่มี 4 ลูกเรือประมง

กระทรวงการต่างประเทศ เผยเมียนมาปล่อยตัวนักโทษชาวไทย 152 คน แต่ยังไม่มี 4 ลูกเรือประมง ยืนยันพยายามอย่างเต็มที่