แจ้งจับสาวปลอมเฟซบุ๊กตุ๋นหนุ่มนับแสน

ขอนแก่น 4 พ.ค.-สาวปลอมเฟซบุ๊ก ใช้รูปโปรไฟล์สาวสวย หยอดคำหวานหลอกหนุ่มขอนแก่น โอนเงินนับแสน ขณะที่เจ้าของเฟซบุ๊กตัวจริงเตรียมเอาเรื่องต่อ


นายสุดปิติ เหียงมณี อายุ 39 ปี ชาว ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นำภาพโปรไฟล์เฟซบุ๊กหญิงสาวสวยหุ่นดี พร้อมภาพโปรไฟล์หญิงร่างอวบ ซึ่งเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กตัวจริง ที่แอบนำภาพของหญิงสาวสวย มาใช้เป็นโพรไฟล์เฟซบุ๊ก พูดคุยกับนายสุดปิติ โดยมีการใช้คำหวานๆ ลักษณะเหมือนคนที่คบหากันเป็นแฟน ก่อนหลอกโอนเงินให้นับแสนบาท มาให้ผู้สื่อข่าวดู เพื่อให้ช่วยตามหาเบาะแส หลังหายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อถูกนายสุดปิติจับได้ 


ผู้เสียหาย เล่าเหตุการณ์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ หลังจากปิตินำไปโพสต์ลงบนโลกโซเชียลเพื่อตามหาเบาะแสของสาวอวบรายดังกล่าวว่า “ใครมีเบาะแส น.ส.ลักขณา กริ่มใจ ตามทะเบียนบ้าน 71 ม.1 ต.บางลูกเสือ อ.องครักษ์ จ.นครนายก เบอร์ 06-4774-2050 ซิมแพนกวิน คุยล่าสุดวันศุกร์ที่ 24 เมษายน 63 ตอนนี้ติดต่อไม่ได้ พ่อเขาบอกไปทำงานดูแลผู้สูงอายุแต่ไม่รู้ที่ แต่ตอนนี้พ่อก็ไม่รับโทรศัพท์ ใครมีเบาะแสจนตำรวจตามจับได้ รับไป 5,000 บาท ใครเช็กสัญญานโทรศัพท์ได้เช็กให้หน่อยเบอร์นี้ใช้อยู่ที่ไหนวันศุกร์”

นายสุดปิติ เผยว่าเมื่อเดือนมีนาคม 2561 ตนเล่นเฟซบุ๊กและได้แอดสาวๆ ตามประสาคนโสด กระทั่งพบผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “พราว ปุณยวีร์” มีรูปภาพโปรไฟล์สวย หน้าตาดี จึงแอดเป็นเพื่อนแล้วทักทาย แรกๆก็พูดคุยกันธรรมดา แล้วต่างก็เงียบหายไป กระทั่งช่วงตุลาคม 2562 ได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง และคุยกันมากขึ้นๆๆ ซึ่งก็มีการพูดหยอด พูดจีบกันตามประสาหนุ่มสาว โดยเธอบอกว่า เป็นชาวนครนายก แต่ทำธุรกิจเป็นเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรในพื้นที่ จ.ชลบุรี เมื่อพูดคุยสนิทกันมากขึ้น ก็มีการส่งข้อความโทรศัพท์ และมีการชวนกันไปเที่ยวที่เกาะจิก จ.ชลบุรี โดยฝ่ายหญิงเป็นคนหาที่พัก ตนโอนเงินค่าที่พักให้ฝ่ายหญิงไปจ่าย ตลอดเวลาที่คุยกันฝ่ายหญิงจะไม่ขอเงินตรงๆ จะเป็นการพูดคุยชักชวนซื้อของใช้เป็นคู่ แบบคู่รักหนุ่มสาว ทั้งเสื้อคู่ แหวนคู่ กำไรคู่ และอื่นๆ อีกจำนวนมาก เฉลี่ยครั้งละ 3,000-4,000 บาท มากที่สุดคือซื้อกำไรราคากว่า 14,000 บาท โดยแต่ละครั้งโอนผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตนได้เก็บสลิปไว้ตลอด และที่ผ่านมาตนพยายามชวนฝ่ายหญิงคุย VDO Call แบบเห็นหน้ากันหลายครั้ง แต่ฝ่ายหญิงก็บ่ายเบี่ยงตลอด อ้างว่ายังไม่พร้อมขอเจอหน้าทีเดียวตอนไปเที่ยวด้วยกัน และพอถึงวันนัดที่จะไปเที่ยวเกาะจิก ตนก็ได้ได้เดินทางไปแล้วแต่ปรากฏว่าเกาะจิกปิด ไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้า จึงบอกฝ่ายหญิงว่าขอไปหาที่บ้านแทน แต่ก็ถูกปฏิเสธต้องเดินทางกลับ 


หลังจากนั้นก็เริ่มเอะใจว่าจะถูกหลอกหรือไม่ ตนจึงบอกฝ่ายหญิงไปว่า ไม่มีเงินจะโอนให้แล้ว แต่ก็ยังมีการคุยกันตามเดิม ตนเองก็พยายามจะคุยแบบ VDO Call อีกหลายครั้งก็ถูกบ่ายเบี่ยงตลอด นอกจากนี้มีหลายครั้งที่คุยโทรศัพท์กันแล้วมีเสียงเด็กเรียกชื่อฝ่ายหญิงว่าหมู พอถามก็ได้รับคำตอบว่าเป็นชื่อที่คนในครอบครัวใช้เรียกตั้งแต่เด็ก เมื่อสงสัยหนักเข้าจึงเริ่มสืบข้อมูลว่าภาพที่ใช้ในเฟซบุ๊ก เป็นภาพของฝ่ายหญิงจริงหรือไม่ ก็พบว่ามีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ “พราว ปุณยวีร์” อีก 1 คน เป็นนักธุรกิจที่มีครอบครัวแล้ว จึงได้สอบถาม ทราบว่าคุณพราว เจ้าของเฟซบุ๊ก “พราว ปุณยวีร์” ตัวจริง ถูกหญิงคนอื่นนำรูปไปใช้เป็นโปรไฟล์เฟซบุ๊ก เพื่อหลอกเอาเงินคนอื่นไปใช้ จากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลของหญิงสาวรายดังกล่าวจนทราบว่าเป็นชาว อ.องครักษ์ จ.นครนายก จึงได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 โดยนายสุดปิติถูกหลอกโอนเงินรวม 107,450 บาท 

จากนั้นนายสุดปิติก็ได้พยายามสืบหาตัวฝ่ายหญิง จนทราบว่ามีชื่อเล่นว่าหมิง รูปร่างอวบ และเป็นคนละคนกับในรูปที่ใช้มาคุยกับตนเอง และต่อมาวันที่ 24 ได้เบอร์โทรศัพท์ของฝ่ายหญิงมาจึงให้ญาติโทรศัพท์สอบถามถึงแสนกว่าบาทที่หลอกให้โอนไปให้  ซึ่งเธออมรับว่า หลอกเอาเงินไปจริง เพราะจะเอาไปดูแลพ่อที่แก่ชราเพราะเงินเดือน 15,000บาท ไม่พอใช้ และจะพยายามผ่อนคืนให้ ญาติจึงให้มาพบเพื่อพูดคุยกันต่อหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ยังไม่ทันได้คุยอะไรต่อ นางสาวหมิงก็ตัดสายไป และติดต่อไม่ได้อีกเลย ตนจึงตัดสินใจโพสต์เฟซบุ๊กตามหา เพื่อให้ตำรวจสอบสวน แต่หาก น.ส.หมิง ขอโทษและสำนึกผิดก็พร้อมให้อภัย เพราะเชื่อว่าอาจจะเดือดร้อนจริงๆ 

นายสุดปิติ ยังบอกอีกว่า ที่ยอมให้ถูกหลอกมาปีกว่านั้นไม่ใช่เพราะไม่รู้ แต่เป็นเพราะว่าหลังจากที่ตนเองรู้ตัวก็อยากจะจับผิดให้ได้คาหนังคาเขา ด้วยการเล่นเกมหลอกล่อคำพูดทุกคำพูดให้เป็นหลักฐานมัดตัว จนสุดท้ายหญิงรายดังกล่าวก็ยอมรับออกมาซึ่งตนเองมีการอัดเสียงเอาไว้ในตอนที่หญิงรายนี้ให้การรับสารภาพว่าหลอกลวงตนเอง และเฟซบุ๊กที่ใช้นั้นแอบอ้างหญิงรูปร่างหน้าตาดีมาใช้เพื่อหลอกลวง และขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกคนหากไม่ได้เจอตัวจริงก็ให้เชื่อเลยว่าถูกหลอกอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานนำผู้อพยพกลับบ้าน

สุรินทร์ 9 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานคมนาคม นำผู้อพยพกลับบ้านโดยเร็วที่สุด สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด ดูแลประชาชนเป็นอย่างดี ให้ใช้งบเต็มที่ พร้อมประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการประปาส่วนภูมิภาค ละเว้นค่าไฟ ค่าน้ำ ในช่วงที่เกิดการปะทะ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจุดแรกเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยเมื่อเดินทางถึง นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นายชูชัย มุ่งเจริญพร สส.เขต 2 พรรคเพื่อไทย มาให้การต้อนรับ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรามาด้วยความห่วงใย และทราบดีว่าประชาชนทุกคนมีความยากลำบากในสิ่งที่ไม่ใช่ความผิดของเราเลย เป็นเรื่องที่ส่วนอื่นนอกประเทศ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นคู่ขัดแย้งของเราทำขึ้น สร้างขึ้น และทำให้ประชาชนเดือดร้อน ในขั้นต้น พวกเราทุกคนหน่วยหลัง ได้ทำการดูแลแผนพิทักษ์ส่วนหลังทั้งหมด พยายามดูแลทุกส่วนอย่างเต็มที่ […]

รถไฟด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค.-รถไฟขบวนรถด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วงเช้ามืดวันนี้ จนท.นำผู้โดยสารที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ แต่ล่าช้า เฟซบุ๊กทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย รายงานวันนี้ (9 สิงหาคม 2568) เวลา 05.15 น. เกิดเหตุขบวนรถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 38/46 (สุไหงโก-ลก – กรุงเทพอภิวัฒน์) คันที่ 10-12 ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ – เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาล– ขนถ่ายผู้โดยสาร คันที่ 10-12 ทางรถยนต์– นำตู้โดยสารที่ไม่ได้ตกราง ทำขบวนต่อถึงสถานีปลายทาง ทั้งนี้ ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ (ล่าช้า) การรถไฟฯ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1690 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บ 9 ราย เป็นพระภิกษุ 1 รูป เด็กหญิง […]

“ภูมิธรรม” บอกตั้ง “บุ๋ม ปนัดดา” สมน้ำสมเนื้อกับ “มาลี”

กทม. 9 ส.ค. – “ภูมิธรรม” บอกตั้ง “บุ๋ม ปนัดดา” เป็นโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา สมน้ำสมเนื้อกับ “มาลี” ชี้กองทัพพร้อมประสานข้อมูลเต็มที่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตั้ง น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นโฆษกจิตอาสา ศูนย์บริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีความไม่เหมาะสมเรื่องของข้อมูล และความน่าเชื่อถือ ว่า น.ส.ปนัดดา เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก และมีความสนใจในเรื่องบ้านเมือง ซึ่งข้อมูลด้านการทหารอาจจะรู้ไม่เยอะเท่ากับเจ้าหน้าที่ทหาร แต่มีความตั้งใจ อีกทั้งการเข้ามารับตำแหน่งก็เป็นการเสนอจากผู้บัญชาการเหล่าทัพ ซึ่งต้นคิดว่าเรื่องของการได้ข้อมูล เมื่อทางทหารสนับสนุนก็จะสามารถทำงานได้ดี นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า พลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกลาโหมกัมพูชาเป็นผู้หญิง เราไม่อยากให้รู้สึกเหมือนว่าใช้โฆษกทหารที่เป็นผู้ชายไปโต้แย้ง เราอาจจะเสียเปรียบกว่า ซึ่งเห็นว่า น.ส.ปนัดดา มีความเหมาะสมอยู่แล้ว ส่วนเรื่องข้อมูลก็ให้ประสานกับกองทัพอย่างเต็มที่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตรงนี้ตนคิดว่าสมน้ำสมเนื้อ เมื่อถามย้ำว่า ข้อมูลที่ น.ส.ปนัดดา จะพูดออกมา เป็นการกลั่นกรองมาจากทางกองทัพใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ประมาณนั้น […]

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 9 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงาาน 10-15 ส.ค. ไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 10 – 15 ส.ค. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]