แจ้งจับสาวปลอมเฟซบุ๊กตุ๋นหนุ่มนับแสน

ขอนแก่น 4 พ.ค.-สาวปลอมเฟซบุ๊ก ใช้รูปโปรไฟล์สาวสวย หยอดคำหวานหลอกหนุ่มขอนแก่น โอนเงินนับแสน ขณะที่เจ้าของเฟซบุ๊กตัวจริงเตรียมเอาเรื่องต่อ


นายสุดปิติ เหียงมณี อายุ 39 ปี ชาว ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นำภาพโปรไฟล์เฟซบุ๊กหญิงสาวสวยหุ่นดี พร้อมภาพโปรไฟล์หญิงร่างอวบ ซึ่งเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊กตัวจริง ที่แอบนำภาพของหญิงสาวสวย มาใช้เป็นโพรไฟล์เฟซบุ๊ก พูดคุยกับนายสุดปิติ โดยมีการใช้คำหวานๆ ลักษณะเหมือนคนที่คบหากันเป็นแฟน ก่อนหลอกโอนเงินให้นับแสนบาท มาให้ผู้สื่อข่าวดู เพื่อให้ช่วยตามหาเบาะแส หลังหายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อถูกนายสุดปิติจับได้ 


ผู้เสียหาย เล่าเหตุการณ์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ หลังจากปิตินำไปโพสต์ลงบนโลกโซเชียลเพื่อตามหาเบาะแสของสาวอวบรายดังกล่าวว่า “ใครมีเบาะแส น.ส.ลักขณา กริ่มใจ ตามทะเบียนบ้าน 71 ม.1 ต.บางลูกเสือ อ.องครักษ์ จ.นครนายก เบอร์ 06-4774-2050 ซิมแพนกวิน คุยล่าสุดวันศุกร์ที่ 24 เมษายน 63 ตอนนี้ติดต่อไม่ได้ พ่อเขาบอกไปทำงานดูแลผู้สูงอายุแต่ไม่รู้ที่ แต่ตอนนี้พ่อก็ไม่รับโทรศัพท์ ใครมีเบาะแสจนตำรวจตามจับได้ รับไป 5,000 บาท ใครเช็กสัญญานโทรศัพท์ได้เช็กให้หน่อยเบอร์นี้ใช้อยู่ที่ไหนวันศุกร์”

นายสุดปิติ เผยว่าเมื่อเดือนมีนาคม 2561 ตนเล่นเฟซบุ๊กและได้แอดสาวๆ ตามประสาคนโสด กระทั่งพบผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “พราว ปุณยวีร์” มีรูปภาพโปรไฟล์สวย หน้าตาดี จึงแอดเป็นเพื่อนแล้วทักทาย แรกๆก็พูดคุยกันธรรมดา แล้วต่างก็เงียบหายไป กระทั่งช่วงตุลาคม 2562 ได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง และคุยกันมากขึ้นๆๆ ซึ่งก็มีการพูดหยอด พูดจีบกันตามประสาหนุ่มสาว โดยเธอบอกว่า เป็นชาวนครนายก แต่ทำธุรกิจเป็นเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรในพื้นที่ จ.ชลบุรี เมื่อพูดคุยสนิทกันมากขึ้น ก็มีการส่งข้อความโทรศัพท์ และมีการชวนกันไปเที่ยวที่เกาะจิก จ.ชลบุรี โดยฝ่ายหญิงเป็นคนหาที่พัก ตนโอนเงินค่าที่พักให้ฝ่ายหญิงไปจ่าย ตลอดเวลาที่คุยกันฝ่ายหญิงจะไม่ขอเงินตรงๆ จะเป็นการพูดคุยชักชวนซื้อของใช้เป็นคู่ แบบคู่รักหนุ่มสาว ทั้งเสื้อคู่ แหวนคู่ กำไรคู่ และอื่นๆ อีกจำนวนมาก เฉลี่ยครั้งละ 3,000-4,000 บาท มากที่สุดคือซื้อกำไรราคากว่า 14,000 บาท โดยแต่ละครั้งโอนผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งตนได้เก็บสลิปไว้ตลอด และที่ผ่านมาตนพยายามชวนฝ่ายหญิงคุย VDO Call แบบเห็นหน้ากันหลายครั้ง แต่ฝ่ายหญิงก็บ่ายเบี่ยงตลอด อ้างว่ายังไม่พร้อมขอเจอหน้าทีเดียวตอนไปเที่ยวด้วยกัน และพอถึงวันนัดที่จะไปเที่ยวเกาะจิก ตนก็ได้ได้เดินทางไปแล้วแต่ปรากฏว่าเกาะจิกปิด ไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้า จึงบอกฝ่ายหญิงว่าขอไปหาที่บ้านแทน แต่ก็ถูกปฏิเสธต้องเดินทางกลับ 


หลังจากนั้นก็เริ่มเอะใจว่าจะถูกหลอกหรือไม่ ตนจึงบอกฝ่ายหญิงไปว่า ไม่มีเงินจะโอนให้แล้ว แต่ก็ยังมีการคุยกันตามเดิม ตนเองก็พยายามจะคุยแบบ VDO Call อีกหลายครั้งก็ถูกบ่ายเบี่ยงตลอด นอกจากนี้มีหลายครั้งที่คุยโทรศัพท์กันแล้วมีเสียงเด็กเรียกชื่อฝ่ายหญิงว่าหมู พอถามก็ได้รับคำตอบว่าเป็นชื่อที่คนในครอบครัวใช้เรียกตั้งแต่เด็ก เมื่อสงสัยหนักเข้าจึงเริ่มสืบข้อมูลว่าภาพที่ใช้ในเฟซบุ๊ก เป็นภาพของฝ่ายหญิงจริงหรือไม่ ก็พบว่ามีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ “พราว ปุณยวีร์” อีก 1 คน เป็นนักธุรกิจที่มีครอบครัวแล้ว จึงได้สอบถาม ทราบว่าคุณพราว เจ้าของเฟซบุ๊ก “พราว ปุณยวีร์” ตัวจริง ถูกหญิงคนอื่นนำรูปไปใช้เป็นโปรไฟล์เฟซบุ๊ก เพื่อหลอกเอาเงินคนอื่นไปใช้ จากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลของหญิงสาวรายดังกล่าวจนทราบว่าเป็นชาว อ.องครักษ์ จ.นครนายก จึงได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 โดยนายสุดปิติถูกหลอกโอนเงินรวม 107,450 บาท 

จากนั้นนายสุดปิติก็ได้พยายามสืบหาตัวฝ่ายหญิง จนทราบว่ามีชื่อเล่นว่าหมิง รูปร่างอวบ และเป็นคนละคนกับในรูปที่ใช้มาคุยกับตนเอง และต่อมาวันที่ 24 ได้เบอร์โทรศัพท์ของฝ่ายหญิงมาจึงให้ญาติโทรศัพท์สอบถามถึงแสนกว่าบาทที่หลอกให้โอนไปให้  ซึ่งเธออมรับว่า หลอกเอาเงินไปจริง เพราะจะเอาไปดูแลพ่อที่แก่ชราเพราะเงินเดือน 15,000บาท ไม่พอใช้ และจะพยายามผ่อนคืนให้ ญาติจึงให้มาพบเพื่อพูดคุยกันต่อหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ยังไม่ทันได้คุยอะไรต่อ นางสาวหมิงก็ตัดสายไป และติดต่อไม่ได้อีกเลย ตนจึงตัดสินใจโพสต์เฟซบุ๊กตามหา เพื่อให้ตำรวจสอบสวน แต่หาก น.ส.หมิง ขอโทษและสำนึกผิดก็พร้อมให้อภัย เพราะเชื่อว่าอาจจะเดือดร้อนจริงๆ 

นายสุดปิติ ยังบอกอีกว่า ที่ยอมให้ถูกหลอกมาปีกว่านั้นไม่ใช่เพราะไม่รู้ แต่เป็นเพราะว่าหลังจากที่ตนเองรู้ตัวก็อยากจะจับผิดให้ได้คาหนังคาเขา ด้วยการเล่นเกมหลอกล่อคำพูดทุกคำพูดให้เป็นหลักฐานมัดตัว จนสุดท้ายหญิงรายดังกล่าวก็ยอมรับออกมาซึ่งตนเองมีการอัดเสียงเอาไว้ในตอนที่หญิงรายนี้ให้การรับสารภาพว่าหลอกลวงตนเอง และเฟซบุ๊กที่ใช้นั้นแอบอ้างหญิงรูปร่างหน้าตาดีมาใช้เพื่อหลอกลวง และขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกคนหากไม่ได้เจอตัวจริงก็ให้เชื่อเลยว่าถูกหลอกอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]

นักท่องเที่ยวหลั่งไหลชมปราสาทตาเมือนธมคึกคัก

สุรินทร์ 18 ก.ค. – นักท่องเที่ยวสองประเทศยังหลั่งไหลไปเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ รวมทั้งให้กำลังใจทหารแนวหน้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลเศรษฐกิจท้องถิ่นคึกคัก ขณะที่ตำรวจพร้อมดำเนินคดีหญิงกัมพูชาด่าทหารไทย ด้านนายอำเภอพนมดงรัก ตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้างหลุมหลบภัย ยันพยายามจะทำให้เสร็จเร็วที่สุด ทันทีที่เจ้าหน้าที่เปิดให้เข้าไปเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศทยอยเข้ามามอบสิ่งของบำรุงขวัญทหารแนวหน้า และเข้าไปเที่ยวชมภายในตัวปราสาทอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศดูคึกคักตั้งแต่เช้าเหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา เป็นที่น่าสังเกตว่านักท่องเที่ยวฝ่ายกัมพูชามีกลุ่มวัยรุ่นหัวเกรียน คนหน้าเดิม เข้ามาเป็นประจำ ทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย คล้ายๆ กับการจัดตั้ง ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยล้วนเข้ามาด้วยความสมัครใจ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า นโรดม แพน โมนิก้า หญิงกัมพูชาที่ชี้หน้าด่าและไล่ทหารไทย จะกลับเข้าพื้นที่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.) ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมรับสถานการณ์แล้ว ภายใต้ข้อตกลงที่มีร่วมกันจากเหตุดังกล่าวว่าให้เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองนักท่องเที่ยวมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุความวุ่นวายซ้ำรอยเดิม ทีมข่าวสำนักข่าวไทยได้รับการเปิดเผยจากพันตำรวจเอก นพดล พินิจอักษร ผู้กำกับการ สภ.พนมดงรัก ว่ามีคนแจ้งความดำเนินคดีนโรดม แพน โมนิก้า แล้ว ซึ่งตำรวจพร้อมเดินหน้าสะสางคดี เพื่อเป็นการยืนยันเขตอธิปไตยไทยด้วย การเข้าพื้นที่ของนักท่องเที่ยวจำนวนมากทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นของ อ.พนมดงรัก พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่มาตั้งเต็นท์ขายสินค้าต่างๆ ที่ได้รับความนิยม เช่น เสื้อยืดสกรีน ภาพทหารพร้อมข้อความ […]