เงินเยียวยาเกษตรกรจากโควิด-19 งวดแรกจ่ายกลางเดือนนี้

กรุงเทพฯ 4 พ.ค.-รมว.กระทรวงเกษตรฯ แจงเงินช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
งวดแรก ก.คลัง คาดจะส่งผ่านบัญชี ธ.ก.ส. กลางเดือนพฤษภาคมนี้
ด้านอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเชิญชวนผู้ไม่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกรให้ดำเนินการภายใน
15 พฤษภาคม 2563   


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 28 เมษายน
เห็นชอบโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้ผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19
ซึ่งรับผิดชอบโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยมีวัตถุประสงค์บรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรและครอบครัวไม่เกิน 10 ล้านราย
โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือโดยตรง 5,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน
ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
กรกฎาคม ทั้งนี้เกษตรกรที่จะได้รับการช่วยเหลือ
มีทั้งผู้ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร กรมปศุสัตว์ กรมประมง
กรมหม่อนไหม การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลของกระทรวงอุตสาหกรรม
และการยาสูบแห่งประเทศไทยของกระทรวงการคลัง
 

“ขณะนี้ทั้งกระทรวงเกษตรฯ
และกระทรวงการคลังกำลังเร่งดำเนินการ โดยคาดว่า
กลุ่มที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรและมีบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
(ธ.ก.ส.) จะได้รับเงินช่วยเหลืองวดแรกในกลางเดือนพฤษภาคม
ส่วนเกษตรกรที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนหรือรายชื่อตกหล่นนั้น
ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์และชี้แจงขั้นตอนการขึ้นทะเบียนให้เกษตรกรเข้าใจ
รวมทั้งดำเนินการภายในวันที่ 15 พฤษภาคม ซึ่งหากตรวจสอบความถูกต้องและไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อนแล้ว
คาดว่า กระทรวงการคลังจะจ่ายเงินช่วยเหลือให้ได้โดยเร็วเช่นกัน”นายเฉลิมชัยกล่าว


นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรฯ ห่วงใยทั้งเกษตรกรและประชาชนทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19
จึงสั่งให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯ
ดูแลห่วงโซ่การผลิตอาหารทั้งระบบจนถึงมือผู้บริโภค จัดระบบการรวบรวมผลผลิต
กระจายผลผลิต ระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้เกษตรกรขายผลผลิตการเกษตรได้
ส่วนประชาชนสามารถหาชื้ออาหารและสินค้าเกษตรได้โดยไม่ขาดตลาด

นอกจากนี้ในนามกลุ่มเพื่อนเฉลิมชัยและสมาคมชาวปักษ์ใต้จะจัดทำถุงยังชีพ
อาหารพร้อมรับประทาน และสิ่งของจำเป็นแจกจ่ายแก่ประชาชนที่เดือดร้อนทุกวันเสาร์อาทิตย์เวลา
16.00 น. ที่สมาคมชาวปักษ์ใต้ ถนนกาญจนาภิเษก
เขนทวีวัฒนาไปตลอดจนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลาย

นายเข้มแข็ง
ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวว่า
ได้จัดทำแนวทางปฏิบัติในการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพืชเป็น 3
กลุ่ม ดังนี้  กลุ่มที่ 1
เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2562
และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2563 แล้ว 6.3 ล้านครัวเรือน (ข้อมูล ณ วันที่ 30
เมษายน 2563) ขอให้ไปตรวจสอบรายชื่อที่ติดประกาศภายในชุมชน (ตามที่ตั้งแปลงปลูก)
ภายในวันที่ 10 พฤษภาคม 2563 หากมีรายชื่ออยู่ในกลุ่มนี้
ไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ อีก
โดยจะเป็นรายชื่อเกษตรกรชุดแรกที่จะส่งไปให้กระทรวงการคลังคัดกรองเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือเกษตรกร
จากนั้นขอให้รอผลคัดกรองตรวจสอบสิทธิในการเข้าร่วมโครงการ


ทั้งนี้
ธ.ก.ส.จะโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารเท่านั้น กลุ่มที่ 2
เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ก่อนปี 2562 และยังทำการเกษตรอยู่
1.7 ล้านครัวเรือน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เมษายน 2563)
ขอให้ไปตรวจสอบรายชื่อที่ติดประกาศภายในชุมชน (ตามที่ตั้งแปลงปลูก)
หากพบว่ามีชื่ออยู่ในกลุ่มนี้ ขอให้ไปปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับผู้นำชุมชน หรือ
อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก
ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม และกลุ่มที่ 3
เกษตรกรรายใหม่ซึ่งยังไม่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกร หลังจากที่ปลูกพืชแล้ว 15 วัน
ให้มาติดต่อขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับผู้นำชุมชน หรือ อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.)
หรือที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก ภายในวันที่ 15 พฤษภาคมเช่นกัน
โดยรายชื่อเกษตรกรกลุ่มที่ 2 และ 3 จะเป็นชุดที่ 2
ซึ่งจะส่งให้กระทรวงการคลังคัดกรองเพื่อไม่ให้ซ้ำกับโครงการเราไม่ทิ้งกันเพื่อรับเงินช่วยเหลือผ่านบัญชีธนาคารธ.ก.ส.
ต่อไปโดยเร็ว

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า
สำหรับการขึ้นทะเบียนเกษตรกรรายใหม่ ภายหลังจากเกษตรกรทำการปลูกพืชแล้ว 15 วัน
และมาขอขึ้นทะเบียนเกษตรกร ตามหลักเกณฑ์ของการขึ้นทะเบียนเกษตรกร โดยกรอกแบบฟอร์ม
ทบก.01 พร้อมแนบหลักฐานที่กำหนด ส่งให้ผู้นำชุมชน หรือ อกม.
รวบรวมส่งสำนักงานเกษตรอำเภอแล้ว
เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรจะดำเนินการบันทึกข้อมูล ตรวจสอบข้อมูล
ติดประกาศในชุมชน 3 วัน หรือตรวจสอบพื้นที่จริง
หรือจัดทำผังแปลงเกษตรกรรมดิจิทัลต่อไป ทั้งนี้หากมีข้อสงสัย
สามารถโทรสอบถามได้ก่อน
ที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูกเพื่อเลี่ยงการเดินทาง
เป็นการลดความเสี่ยงในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19
.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 3 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนมรสุมพัดปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ยังมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]