กรุงเทพฯ 1 พ.ค. – ทย. พร้อมให้บริการผู้โดยสารเที่ยวบินในประเทศ ตามหลักเกณฑ์ใหม่ ด้วยมาตรการคุมเข้ม
นายทวี เกศิสำอาง อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (อทย.) กล่าวว่าตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 สายการบินได้ขอกลับมาให้บริการในเส้นทางบินภายในประเทศแก่ผู้โดยสารที่มีความจำเป็นในการเดินทาง จำนวน 4 สายการบิน ได้แก่ สายการบินนกแอร์ สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ และสายการบินไทยเวียตเจ็ท เปิดให้บริการ ณ ท่าอากาศยานของกรมท่าอากาศยาน จำนวน 14 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานลำปาง แม่สอด พิษณุโลก บุรีรัมย์ สกลนคร นครพนม ร้อยเอ็ด ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และกระบี่ ทั้งนี้ ทย. พร้อมให้บริการผู้โดยสาร ตามแนวทางปฏิบัติในการให้บริการผู้โดยสารในเส้นทางการบินในประเทศในระหว่างสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) ในประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ซึ่งมีข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องให้ผู้ดำเนินการสนามบินดำเนินการ ดังนี้
1. ทำการคัดกรองบุคคลที่เข้ามาใช้บริการท่าอากาศยานจะต้องสวมหน้ากากอนามัยและผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หากผู้บุคคลนั้นไม่ปฏิบัติตาม หรือวัดอุณหภูมิได้สูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส ทางท่าอากาศยานและสายการบินจะปฏิเสธการให้บริการและเดินทางโดยเครื่องบินได้
2. ต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เช่น จุดรับรอรับกระเป๋าสัมภาระ จุดตรวจบัตรโดยสาร (Check – in counter) ที่นั่งรอก่อนการเดินทาง โดยให้มีระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร
สำหรับในส่วนของ ทย. ได้เตรียมความพร้อมให้บริการเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นอกเหนือจากที่กพท. ออกประกาศ รวมถึงการให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานที่เกิดประโยชน์กับผู้โดยสารและสอดคล้องกับแนวนโยบายของพรก.ฉุกเฉิน ดังนี้
1. ผู้โดยสารขาเข้าทุกคนจะต้องดำเนินการกรอกแบบสำรวจการเดินทาง (ต.8 คค.) หรือแบบฟอร์มของสาธารณสุขจังหวัด ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเก็บข้อมูลในการเดินทาง
2. ดำเนินการติดแผ่นใสกั้นบริเวณเคาน์เตอร์ระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของท่าอากาศยาน สายการบิน กับผู้โดยสาร เพื่อเว้นระยะห่าง
3. จัดเจ้าหน้าที่พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสารก่อนจุดรับกระเป๋าทุกเที่ยวบิน.
4. เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจะสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ได้แก่ หน้ากากอนามัย ถุงมือ อุปกรณ์ป้องกันใบหน้าและดวงตา (Face shield) เพื่อเลี่ยงการสัมผัสกับผู้โดยสาร
5. ตั้งจุดบริการเจล แอลกอฮอร์ล้างมือตามจุดต่าง ๆ
6. อนุญาตให้ขายอาหารภายในท่าอากาศยานได้ แต่ไม่ให้มีการนั่งรับประทานภายในร้าน และการกำหนดจุดยืนรอรับอาหารโดยให้มีระยะห่างตามที่กำหนด
7. จัดเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดโดยใช้แอลกอฮอร์และน้ำยาฆ่าเชื้อ ในบริเวณพื้นอาคาร ห้องน้ำ รถเข็น เก้าอี้ที่พักผู้โดยสาร ราวบันได ลิฟต์โดยสาร และอุปกรณ์สำหรับให้บริการ และอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ตามจุดต่าง ๆ ทุกชั่วโมงหรือหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจทุกเที่ยวบิน และจะทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในอาคารที่พักผู้โดยสาร ทุกสัปดาห์
8. มีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น จอประชาสัมพันธ์ภายในอาคาร ตั้งป้ายประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID – 19 หรือแนวทางการปฏิบัติต่าง ๆ ให้ผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ทราบ
9. จัดเจ้าหน้าที่เพื่อให้คำแนะนำให้กับผู้โดยสาร ประจำทุกจุด
สำหรับผู้โดยสารที่ประสงค์จะเดินทางในเส้นทางต่าง ๆ ขอให้สอบถามข้อมูลการเดินทางโดยตรงกับสายการบินก่อนการเดินทางทุกครั้ง และขอให้มั่นใจว่า ทย. มีความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสาร และสายการบิน ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลของ ทย. ให้ปลอดภัยจากเชื้อโควิด – 19 ควบคู่มาตรฐานการบิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท) ได้ออกประกาศสำหรับสายการบินที่จะกลับมาเปิดให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศ วันที่ 1 พ.ค.นี้ สำหรับแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้สายการบินภายในประเทศเตรียมพร้อมดำเนินการ อาทิ 1.ให้ขายบัตรโดยสารในลักษณะที่นั่งเว้นที่นั่ง, 2.การดำเนินงานทุกขั้นตอนตั้งแต่การเช็กอิน การขึ้นและลงเครื่องบินต้องบริหารจัดการให้มีการรักษาระยะห่างระหว่างผู้โดยสาร (Social Distancing), 3.ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มระหว่างเที่ยวบิน และไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารนำอาหาร-เครื่องดื่มของตนเองมารับประทานบนเครื่อง, 4.เส้นทางที่มีระยะเวลาการบินเกินกว่า 90 นาทีสายการบินจะต้องกันที่นั่งแถวหลังไว้พิเศษสำหรับแยกผู้โดยสารที่มีอาการน่าสงสัยระหว่างทำการบิน . – สำนักข่าวไทย