กองบัญชาการกองทัพอากาศ 30 เม.ย.-ผบ.ทอ.ส่งทหารเกณฑ์ปลดประจำการกลับภูมิลำเนา ขอนำประสบการณ์กลับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน มั่นใจถ้าประชาชนมีวินัย โควิดจะไม่ระบาดรอบ 2
พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธานพิธีส่งทหารกองประจำการ สังกัดกองทัพอากาศ ณ ที่ตั้งดอนเมือง ซึ่งได้รับราชการมาครบตามระยะเวลาที่กำหนดและต้องปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 ชั้นที่ 1 กลับภูมิลำเนา โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพอากาศ ร่วมพิธี ณ กองบัญชาการกองทัพอากาศ ทั้งนี้ วันพรุ่งนี้(1พ.ค.) มีทหารกองประจำการ สังกัดกองทัพอากาศ ณ ที่ตั้งดอนเมือง ซึ่งรับราชการมาครบระยะเวลาที่กำหนด และต้องปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1ชั้นที่ 1จำนวนทั้งสิ้น 1,241 คน ในจำนวนนี้มีทหารที่มีภูมิลำเนาอยู่นอกพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน 165 คน กองทัพอากาศจึงจัดรถโดยสารจากกรมขนส่งทหารอากาศ รับ-ส่งทหารกองประจำการเหล่านี้กลับภูมิลำเนา แบ่งเป็น 5 เส้นทาง ได้แก่ 1.สระบุรี นครราชสีมา 2.ชัยภูมิ มหาสารคาม 3.สุรินทร์ ศรีสะเกษ 4.บุรีรัมย์ และ 5.สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี พร้อมจัดถุงบรรเทาทุกข์ ซึ่งประกอบด้วยสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็น มอบให้แก่ทหารกองประจำการทุกคน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ด้วย
ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวให้โอวาทแก่ทหารกองประจำการที่เข้าร่วมพิธีตอนหนึ่งว่า ตลอดระยะเวลาที่ทุกคนได้เข้ามารับราชการเป็นทหารกองประจำการในกองทัพอากาศ จนครบวาระปลดประจำการ พ้นจากการรับราชการทหารกองประจำการไปเป็นทหารกองหนุน นับว่าเป็นเกียรติประวัติแก่ตนเองที่ได้เสียสละความสุขส่วนตัว เพื่อรับใช้ประเทศชาติ ซึ่งเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดี ที่ทุกคนได้รับการฝึกฝนความมีระเบียบวินัย ความอดทน ความเข้มแข็ง และความสำนึกรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง ตลอดจนได้รับการฝึกวิชาชีพในสาขาต่าง ๆ เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปประกอบอาชีพ รวมทั้งดำรงตนเป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพของสังคม ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในเกียรติและศักดิ์ศรี พร้อมจะปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติ
“แม้ว่าทุกคนจะปลดประจำการไปแล้ว แต่ภาระหน้าที่ของทุกคนจะต้องเป็นทหารกองหนุน โดยพร้อมจะกลับมารับใช้ประเทศชาติในยามที่ชาติบ้านเมืองอยู่ในภาวะคับขัน และขอให้ทุกคนจงนำเอาสิ่งที่ดีที่ได้รับจากการเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและครอบครัว ขอให้ดำเนินชีวิตตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นพลเมืองที่มีคุณธรรมของประเทศชาติสืบไป ในฐานะผู้บัญชาการทหารอากาศ ขอให้พวกเราจงรักสีเทาเพราะเลือดของเราคือสีเทา เราต้องรักกัน รักผู้บังคับบัญชาและเพื่อนฝูง เพื่อนร่วมรุ่น ต้องตระหนักสิ่งนี้แม้ปลดประจำการไปแล้ว นี่คือสิ่งสำคัญในความเป็นทหาร ที่เป็นแล้วเป็นไปตลอดชีวิต หน้าที่ของลูกผู้ชายคือการรักษาสัตย์ และทุกคนจะเป็นชายไทยที่สมบูรณ์” ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าว
จากนั้นผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมกำลังพลที่เป็นแพทย์จำนวน 3 นายร่วมประชุมระหว่างแพทย์ทหารไทยและแพทย์ทหารจีนที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และรับมือกับโรคอุบัติใหม่ เช่น ไวรัสโควิด-19 ซึ่งไม่ว่าจะเป็นชาติใดก็ตาม เราต้องการสร้างความร่วมมือด้านการแพทย์ในยามที่เกิดสงครามเชื้อโรค ซึ่งในส่วนของแพทย์ทหารที่อยู่ทั้งในประจำการและลาออกไปแล้วพร้อมจะปฏิบัติหน้าที่
“สำหรับการสนับสนุนรัฐบาล ภายหลังขยายการบังคับใช้พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน กองทัพอากาศต้องดำเนินการตามคำร้องขอของรัฐบาลและควบคุมกติกาสังคมให้เป็นไปตามกฎหมายบ้านเมือง ขณะนี้ทุกคนดีใจที่ได้เห็นตัวเลขการติดเชื้อภายในประเทศลดลง และขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่ให้ความร่วมมือ รักษากฎระเบียบวินัยเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ถือเป็นสิ่งที่น่ายินดี เพราะความแข็งแกร่งของชาติบ้านเมืองอยู่ที่ความมีวินัย และการปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง” พล.อ.อ.มานัต กล่าว
เมื่อถามว่ามีความกังวลว่าโควิด-19 จะระบาดรอบ 2 และรุนแรงกว่าเดิมหรือไม่ ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า เป็นธรรมชาติ แต่ถ้ามีกติกาชัดเจนและประชาชนให้ความร่วมมือ มีวินัย เชื่อว่าเราสู้ได้แน่นอน สำหรับการผ่อนปรนให้ทำกิจกรรมบางอย่างเป็นเรื่องของผู้เกี่ยวข้องจะพิจารณาและเป็นหน้าที่ของรัฐบาลจะตัดสินใจ กองทัพมีหน้าที่รักษากฎระเบียบกติกาตามที่รัฐบาลมอบหมาย.-สำนักข่าวไทย