สงขลา 28 เม.ย. – ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา เตรียมกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 30 เม.ย.นี้ หลังหยุดให้บริการชั่วคราว เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อ เนื่องจากพบตำรวจตรวจคนเข้าเมืองติดโควิด-19
หลังจากต้องหยุดให้บริการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา ในส่วนของด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ หลังพบตำรวจตรวจคนเข้าเมืองติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ต้องเปลี่ยนไปใช้ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ อ.สะเดา ในการเปิดรับแรงงานไทยเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย ล่าสุดด่านพรมแดนสะเดาได้ผ่านการทำความสะอาดฆ่าเชื้อทั้งหมดแล้ว โดยยังคงเปิดให้บริการในส่วนของรถบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ด่านพรมแดนสะเดา จะเริ่มเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 30 เมษายนนี้ หากไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกส่วนมีความพร้อม โดยเฉพาะในส่วนของการรับแรงงานไทยจากมาเลเซียเดินทางกลับเข้ามา
ในช่วงที่ด่านพรมแดนสะเดาปิดทำความสะอาดฆ่าเชื้อนั้น ได้ใช้ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ อ.สะเดา แทน ซึ่งการคัดกรองได้ดำเนินการตามมาตรฐานเช่นเดียวกัน โดยตลอด 10 วันของการเปิดรับแรงงานไทยจากมาเลเซียกลับเข้ามา มีผู้ที่มีไข้และมาจากพื้นที่เสี่ยงมากกว่า 70 คน ซึ่งทั้งหมดได้ผ่านการตรวจสารคัดหลั่งแล้ว พบว่าให้ผลเป็นลบทั้งหมด และผู้ที่เดินทางกลับเข้ามากลุ่มแรกจะเริ่มกักตัวครบ 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้
ส่วนความคืบหน้ากรณีกลุ่มคนต่างด้าวที่ถูกกักตัวอยู่ภายในศูนย์กักตัวผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 42 คน จากทั้งหมด 115 คน และเมื่อวานนี้ (27 เม.ย.) ได้ย้ายออกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล 6 คน แยกเป็นหญิงตั้งครรภ์ 7 เดือน 1 คน ซึ่งถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ส่วนอีก 5 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ เนื่องจากมีภาวะแทรกซ้อนจากปอดอักเสบ
ล่าสุดบรรยากาศที่ศูนย์กักตัวผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา ยังเหลือผู้ติดเชื้ออีก 36 คน ที่ยังคงพักรักษาตัวอยู่ภายในศูนย์กักฯ โดยมีทีมแพทย์พยาบาลเข้าไปตรวจอาการและรักษาภายในห้องกักตัว ซึ่งอาการของทั้ง 36 คน ยังทรงตัว ส่วนที่เหลืออีก 73 คน อาการยังปกติ ไม่มีใครติดเชื้อเพิ่ม. – สำนักข่าวไทย