บุรีรัมย์ 27 เม.ย. – พี่สาวและพี่เขยหนุ่มวัย 32 ปี ไลฟ์ผูกคอตาย เชื่อสาเหตุน้องคิดสั้นเพราะถูกญาติกดดันเรื่องทำงานให้ไม่ถูกใจและแชทข่มขู่ จี้มากราบขอขมาศพน้อง
จากกรณีนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ชาวบ้านบ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทำงานเป็นคนขับรถส่งเบียร์บริษัทแห่งหนึ่งที่ จ.ปทุมธานี ไลฟ์ขณะใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตภายในห้องเช่าแห่งหนึ่งที่ ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุดวานนี้ (26 เม.ย.) ญาตินำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.ประโคนชัย ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว ตอนแรกญาติสันนิษฐานว่าอาจเกิดความเครียด เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย เพราะเพิ่งพาภรรยาและลูกกลับมาส่งไว้ที่บ้าน
แต่จากการสอบถาม น.ส.อนงค์นาถ หรือแขก อายุ 37 ปี พี่สาวของผู้ตาย ซึ่งทำงานอยู่ร้านอาหารที่ จ.ปทุมธานี เหมือนกัน แต่พักอยู่ห่างกันประมาณ 50 กิโลเมตร กลับไม่เชื่อว่าน้องชายจะคิดสั้นเพราะเรื่องเงินไม่พอใช้ เพราะจากที่แชทคุยกันทางไลน์กับน้องชายล่าสุดเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา น้องไม่ได้บอกว่ามีปัญหาเรื่องเงิน แต่กลับระบายเรื่องถูกญาติที่เป็นคนพาน้องชายไปทำงานที่บริษัทเบียร์ดังกล่าวด้วย ต่อว่ากดดันเรื่องที่น้องทำงานให้ไม่ถูกใจ จนถึงแชทมาข่มขู่ ทำให้น้องเกิดความเครียดมากกว่า ซึ่งตนพยายามให้กำลังใจ ปลอบใจ และบอกว่าถ้าทำแล้วไม่สบายใจก็จะพามาทำงานกับสามีของตนเองที่ทำงานอยู่บริษัทส่งของ วันที่น้องไลฟ์ระบายความในใจและบอกว่าจะผูกคอตายนั้น ตนกับสามีก็ช่วยกันพูดปลอบใจตลอด และให้สามีขับรถออกไปรับน้องแต่ไปไม่ทัน
ขณะที่นายมาโนช พี่เขยของผู้ตาย เล่านาทีที่พยายามขับรถไปช่วยน้องภรรยาว่า วันเกิดเหตุเป็นช่วงใกล้จะถึงเวลาเคอร์ฟิว ต้องผ่านด่านคัดกรองโควิดและด่านเคอร์ฟิวหลายจุด แต่อธิบายให้เจ้าหน้าที่ฟังถึงความจำเป็นและเหตุฉุกเฉินว่ากำลังจะไปช่วยน้องที่จะผูกคอตาย เจ้าหน้าที่ก็ให้ผ่านและอำนวยความสะดวกให้ แต่ไม่ทัน พอไปถึงน้องเสียชีวิตแล้ว แม้จะพยายามช่วยกันปั๊มหัวใจ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ รู้สึกเสียใจ เพราะที่ผ่านน้องมีปัญหาอะไรก็จะปรึกษา ตนก็จะช่วยเหลือตลอด แต่ครั้งนี้คงจะถูกกดดันหนักจนรับไม่ไหวและไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร ทางครอบครัวอยากฝากว่าหากเป็นไปได้ก็ให้มากราบขอขมาศพน้อง เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นมางานศพเลย.-สำนักข่าวไทย