ภูมิภาค 26 เม.ย. – พายุฤดูร้อน ลมกระโชกแรง พัดถล่ม อ.แม่สอด จ.ตาก ทำให้หลังคาบ้านเรือนประชาชน วัด และคอกเลี้ยงสัตว์ ลอยปลิวออกจากตัวบ้าน เกิดฟ้าผ่า ต้นไม้ใหญ่และเสาไฟฟ้าหักโค่น ประชาชนต้องวิ่งหาที่หลบ ส่งผลเกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง
นี่เป็นภาพขณะที่เกิดพายุฤดูร้อน ลมกระโชกแรง บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา นาน 30 นาที ส่งผลให้บริเวณอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เกิดพายุลูกเห็บขนาดใหญ่ และลมพายุหมุนพัดถล่มตำบลบ้านแม่กาษา แม่ปะ และอีกหลายจุด ตามแนวชายแดน ทำให้หลังคาบ้านเรือนประชาชน วัด และคอกเลี้ยงสัตว์ ลอยปลิวออกจากตัวบ้าน เกิดฟ้าผ่า ต้นไม้ใหญ่และเสาไฟฟ้าหักโค่น ประชาชนต้องวิ่งหาที่หลบ ส่งผลเกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง
ภายหลังเหตุการณ์สงบลง เจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอด พร้อมด้วยทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 ได้สนธิกำลังนำเครื่องจักรกลเบาและเลื่อยยนต์เร่งเข้าไปช่วยกันตัดซากต้นไม้ที่ล้มปิดทับบ้านเรือนออก ขณะที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สอดเร่งกู้เสาไฟฟ้าที่หักโค่นล้มขวางถนน พร้อมเร่งติดตั้งเสาไฟฟ้าต้นใหม่ทันที จากการสำรวจไม่พบประชาชนได้รับบาดเจ็บ ส่วนใหญ่ระบุตรงกันตอนนี้เห็นฝนตกลงมาต่างดีใจ เนื่องจากเป็นฝนแรกในอำเภอ หลังจากต้องเผชิญกับภาวะอากาศร้อนจัดและภัยแล้ง แต่ไม่คิดว่าจะเป็นพายุฤดูร้อน ซึ่งพัดพาทำให้ทรัพย์สินเสียหาย เบื้องต้นจากการสำรวจพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนใน 2 ตำบลของอำเภอแม่สอด ได้รับความเสียหายรวมทั้งหมด 353 ครัวเรือน ชาวบ้านกว่า 1,000 คน ได้รับผลกระทบ
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 17 เตือนเรื่องพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน โดยจะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ และอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนนี้ เลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ขณะเดียวกันลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้เกิดฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ มีลมกระโชกแรง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะนี้
จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
วันที่ 26 เมษายน 2563
ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ และนครราชสีมา
ภาคกลาง : จังหวัดชัยนาท อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี
ภาคตะวันออก : จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ : จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 11.00 น.
ประกาศฉบับนี้เป็นฉบับสุดท้ายของเหตุการณ์นี้ .-สำนักข่าวไทย