เปิดเผยเคล็ดลับ 4 อย่างในการรักษาของจีน ผู้ป่วย COVID-19 ในอู่ฮั่นเป็นศูนย์

สำนักข่าวไทย 26 เม.ย.- หม่า เสี่ยวเว่ย ผอ.สนง.คณะกรรมการสุขภาพและสวัสดิการแห่งชาติ กล่าวว่าจีนได้เรียนรู้ประสบการณ์อันมีค่าในการรักษาโควิด-19 ในผู้ป่วยรุนแรงและนำมาแบ่งปันกับนานาชาติ



เมื่อวันที่ 24 เมษายน ผู้ป่วยโรคโควิด-19 รุนแรงคนสุดท้ายในอู่ฮั่นได้หายดี เป็นครั้งแรกที่ผู้ป่วยรุนแรงในอู่ฮั่นเป็น “ศูนย์” ผู้สื่อข่าว CMG สัมภาษณ์ หม่า เสี่ยวเว่ย ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพและสวัสดิการแห่งชาติเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เขากล่าวว่าจีนได้เรียนรู้ประสบการณ์อันมีค่าในการรักษาโควิด-19 ในผู้ป่วยรุนแรงและนำมาแบ่งปันกับนานาชาติได้


ผู้ป่วยรุนแรงในอู่ฮั่น หูเป่ย์ตอนนี้ได้กลายเป็นศูนย์แล้ว อัตราการรักษาสำเร็จอยู่ที่ 92.2% และสัดส่วนของผู้ป่วยรุนแรงทุเลาลงเป็น 88.9% แสดงถึงชัยชนะที่จีนได้รับ ในขณะเดียวกันก็เป็นความก้าวหน้าที่สำคัญในการรักษาโรคระบบทางเดินหายใจและโรคติดเชื้อของจีนด้วย


หม่า เสี่ยวเว่ย กล่าวว่า จีนได้จัดบุคลากรทางการแพทย์และการพยาบาลมากกว่า 42,000 คนจากทั่วประเทศ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการเข้ารักษาพื้นที่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเน้นการดูแลทางการรักษาและการพยาบาลควบคู่กัน การรักษาจัดการ การรักษาอย่างเป็นระบบและมีมาตรฐาน

หม่า เสี่ยวเว่ย กล่าวว่าได้สรุปจุดสำคัญของจีนในด้านการรักษาไว้สี่จุด:

1.นำความรู้ด้านพื้นฐานการรักษาผสมกับด้านคลินิก ดำเนินการกายวิภาคพยาธิวิทยา เพื่อเข้าใจว่าไวรัสโจมตีร่างกายส่วนไหนและกำหนดทิศทางการรักษาต่อไป

2. การทำงานร่วมกันของแนวหน้าและแนวหลัง แนวหน้าดูแลผู้ป่วยวิกฤติ แผนกระบบทางเดินหายใจ แผนกระบบไหลเวียนโลหิตและแผนกอื่น ๆ เช่น ภูมิคุ้มกันเลือด ซึ่งจะได้รับการปรึกษาจากระยะไกล รวบรวมพลังด้านวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือ

3. การรวมกันของด้านการแพทย์และการพยาบาล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการดูแลผู้ป่วยอาการหนัก การพยาบาลแบบองค์รวม การพยาบาลมืออาชีพ รวมถึงด้านการใช้ชีวิตและจิตใจ ทั้งสี่ด้านควรจะรวมกัน

4. ด้วยการรวมกันของการรักษาและการจัดการทางการแพทย์ เราจะสามารถสร้างกระบวนการมาตรฐานและระบบการประเมินที่สมบูรณ์และครบวงจรในด้านการรักษา

ผมคิดว่าประสบการณ์เหล่านี้ ไม่เพียงแต่มีค่าสำหรับประเทศจีนในการรักษาโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสในอนาคต แต่ยังสามารถแบ่งปันให้กับนานาประเทศได้อีกด้วย

โดยผู้สื่อข่าวจาก CMG Mrs.Liao Li

Source: http://api.cportal.cctv.com/api/newsInsert/ywnr.html?id=ArtigfB2KsDWQxg5TGpPyooQ200425&preview=1&version=724&from=groupmessage&isappinstalled=0

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]