กรุงเทพฯ 23 เม.ย. – “สมคิด” นั่งหัวโต๊ะประชุมกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ปรับงบกองทุนฯ 3,600 ล้านบาท เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจ จ้างงานหลังผลกระทบโควิด-19 พร้อมตัดงบลงจาก 1 หมื่นล้านบาท เหลือ 5,600 ล้านบาท หลังงบปี 63 ผ่านล่าช้าและการใช้น้ำมันหดตัว
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ได้มีการประชุมทบทวนกรอบยุทธศาสตร์การจัดสรรเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานประจำปีงบประมาณ 2563 ที่เดิมได้เห็นชอบที่ประมาณ 10,000 ล้านบาท แต่เนื่องจากการพิจารณางบประมาณมีความล่าช้า เกรงว่าจะดำเนินโครงการไม่ทันสิ้นปีงบประมาณ 2563 ประกอบกับปีนี้การใช้น้ำมันลดลงมากจากปัญหาผลกระทบโควิด-19 จึงคาดว่าเงินกองทุนฯ อาจจะได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ได้ปีละ 3,500-3,600 ล้านบาท ดังนั้น ที่ประชุมจึงเห็นชอบปรับลดเงินงบประมาณปีนี้เหลือประมาณ 5,600 ล้านบาท
นอกจากนี้ วงเงิน 5,600 ล้านบาทนั้น จะมีการใช้งบฯ ประมาณ 3,600 ล้านบาท เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกิดจากผลกระทบโควิด-19 โดยจะเป็นงบที่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศประสานงานกับพลังงานจังหวัดเสนอโครงการเข้ามา ทั้งโครงการโซลาร์สูบน้ำ โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว การจ้างงาน การปลูกดอกไม้ การจัดทำห้องเย็นของแต่ละจังหวัด เพื่อรองรับการท่องเที่ยวการฟื้นตัวหลังโควิด-19 ที่จะคลี่คลายอย่างเห็นได้ชัดในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งการของบกองทุนฯ จะเปิดให้ทางจังหวัดเสนอโครงการและอนุมัติภายในเดือนพฤษภาคมและเริ่มเบิกจ่ายในเดือนกรกฎาคม
“งบกองทุนอนุรักษ์พลังงาน 3,600 ล้านบาท จะเน้นรองรับส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจฐานราก หลังผลกระทบโควิด-19 ส่งเสริมการจ้างงาน พัฒนาวิสาหกิจชุมชน การอบรมบุคคลากรในพื้นที่ เช่น กรณี อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) จะมีบทบทมากในการป้องกันโควิด-19 ก็เห็นว่าควรจะมีการนำงบส่วนนี้ไปอบรมชาวบ้านด้วย ส่วนงบที่เหลืออีกประมาณ 2,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นงบผูกพันที่มีไว้เดิม” นายกุลิศ กล่าว.-สำนักข่าวไทย