กลุ่ม ปตท.ทบทวนแผนฯ ชะลอปิโตรฯ สหรัฐ ลดงบฯ OPEX หลายพันล้านบาท

กรุงเทพฯ 22 เม.ย. – กลุ่มโรงกลั่นฯ ขาดทุนสตอกไตรมาส 1/63 หลายหมื่นล้านบาท แนะรัฐแก้กฎหมายปรับสำรองน้ำมันดิบให้เหมาะสม  ด้านกลุ่ม ปตท.ลดกำลังกลั่นร้อยละ 15-20 ทบทวนแผนลงทุนอนาคต ชะลอโครงการปิโตรฯ สหรัฐของจีซี พร้อมเสนอบอร์ด 30 เม.ย.ลดงบดำเนินการหลายพันล้านบาท   


นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า กลุ่ม ปตท.ได้รับผลกระทบกระทบจากการใช้พลังงานและปิโตรเลียมที่ปรับลดลง โดยเฉพาะราคาน้ำมัน ส่งผลให้ขาดทุนสตอกน้ำมันในไตรมาสที่ 1/2563 ปริมาณสูง และจากการประเมินว่าผลกระทบจากโควิด-19 มีผลที่ยาวนานทั่วโลก ซึ่งไตรมาส 1 และ 2 ปีนี้ ได้รับผลกระทบทั้งหมด ส่วนไตรมาส 3-4 คาดว่าน่าจะดีขึ้น เพราะหลายประเทศเริ่มคลายเรื่องล็อกดาวน์ จึงประเมินว่าราคาน้ำมันเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ 30-40 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และจะเห็นได้ว่าโรงกลั่นฯ ทั่วโลกลดกำลังกลั่นในไทยก็ลดลงเช่นกัน โดยโรงกลั่นในกลุ่ม ปตท.จะลดลงประมาณร้อยละ 15-20    

นอกจากนี้ ทางกลุ่ม ปตท.ได้ทำแผนลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น โดยปรับแผนฯ การลงทุนติดตามทุกเดือน ล่าสุด เตรียมเสนอคณะกรรมการ ปตท.วันที่ 30 เมษายน ซึ่งจะมีการลดงบประมาณค่าใช้จ่ายดำเนินการ (OPEX ) ที่ไม่จำเป็นเป็นหลักพันล้านบาท แต่จะเป็นวงเงิน 7,000 ล้านบาท หรือไม่ ก็ต้องรอที่ประชุมฯ ว่าจะเห็นชอบอย่างไร รวมทั้งชะลอโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของบริษัทในเครือ 


“นโยบายขณะนี้ต้องกอดเงินสดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด งบที่ไม่จำเป็นต้องพยายามลด และโครงการลงทุนในอนาคต ก็ต้องทบทวนตามดีมานด์-ซัพพลายด์ที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น โครงการ MARS หรือโครงการอะโรเมติกส์ของ บมจ.ไออาร์พีซี โครงการลงทุนปิโตรเคมีในสหรัฐของ บมจ.พีทีทีโกลบอลเคมิคอล (จีซี ) เป็นต้น”นายชาญศิลป์ กล่าว

 ส่วนโครงการร่วมทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)  นายชาญศิลป์ กล่าวว่า  กลุ่ม ปตท.ได้ร่วมทุน 2 โครงการเป็นการร่วมมือกับ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ กัลฟ์  โดยในส่วนของโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3  ขณะนี้เดินหน้าตามแผนอยู่ระหว่างลงทุนถมทะเล ส่วนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระบะที่ 3 ยังไม่ได้ลงนามกับภาครัฐ ซึ่งกรณีภาครัฐจะเจรจาเพื่อเพิ่มผลตอบแทนนั้น ทาง ปตท.-กัลฟ์ ก็ต้องหารือกันว่าจะเสนออย่างไร โดยต้องยอมรับว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์โควิด-19 สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับการลงนามสัญญาล่าช้ากว่าแผน ดังนั้น ก็อาจจะเจรจาเลื่อนระยะเวลาการเริ่มและขยายเวลาการลงทุนออกไปตามสถานการณ์ ซึ่งคาดว่าการเจรจาจะได้ข้อสรุปปีนี้

ด้านรายงานข่าวจากกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันในประเทศไทย ระบุว่าไตรมาส 1 ปีนี้โรงกลั่นต่าง ๆ ของไทยจะขาดทุนสตอกหลายหมื่นล้านบาท และจากความต้องการน้ำมันลดลงมากทุกภาคส่วน โรงกลั่นฯ ทั่วโลกลดกำลังกลั่นฯ โดยในแถบเอเชียที่มีการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเป็นหลัก เช่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อินเดีย ได้ปรับลดกำลังการกลั่นลงประมาณร้อยละ 10-30 เช่นเดียวกับโรงกลั่นฯ ในประเทศไทยเอง ก็ทยอยลดกำลังการกลั่นลงตั้งแต่มีนาคม-เมษายนแล้ว โดยเดือนมีนาคมจะปรับลดกำลังการกลั่นไม่ได้มาก เนื่องจากต้องบริหารจัดการน้ำมันดิบที่สั่งซื้อล่วงหน้าเข้ามาแล้ว ส่วนในอนาคตจะทยอยปรับลดกำลังการกลั่นลงอีกหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้น้ำมันว่าจะกลับมาได้เร็วเพียงใด


 “ไตรมาส 1 ปีนี้ คาดว่าโรงกลั่นฯ ในประเทศทั้ง 6 แห่ง จะเผชิญปัญหาขาดทุนสตอกน้ำมันที่เก็บไว้ (stock loss) รวมกันหลายหมื่นล้านบาท เพราะราคาน้ำมันดิบสิ้นไตรมาส 1 ปรับลดลงประมาณ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากช่วงปลายปีที่แล้ว ส่วนไตรมาส 2 คาดว่าความเสี่ยงจากการขาดทุนทางสตอกจะลดน้อยลง เพราะการปรับลดลงของราคาน้ำมัน น่าจะใกล้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว ด้านค่าการกลั่นประเมินว่าในช่วงไตรมาส 2 จะดีขึ้นจากไตรมาส 1 และมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังของปีตามสถานการณ์คลี่คลายของโควิด-19  อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้อาจไม่ได้กลับมารวดเร็วมากนักอาจใช้เวลาจนถึงสิ้นปีนี้ หรือต้นปีหน้า กว่าที่กิจกรรมต่าง ๆ จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ ซึ่งวิกฤติครั้งนี้ถือว่าร้ายแรงสุดกว่าทุกวิกฤติที่เคยเกิดขึ้นในอดีต และโลกไม่ได้เผชิญกับวิกฤติที่รุนแรงแบบนี้มากว่า 30 ปีแล้ว” แหล่งข่าว ระบุ

แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า ส่วนการที่ภาครัฐมีมาตรการผ่อนปรนการจัดเก็บสำรองน้ำมันดิบตามกฎหมายจากร้อยละ 6 เหลือร้อยละ 4 ในช่วง 1 ปีนั้น สามารถแบ่งเบาภาระต้นทุนให้กับโรงกลั่นฯ ในประเทศได้ระดับหนึ่ง โดยเฉพาะเงินทุนหมุนเวียนและภาระดอกเบี้ย ทั้งยังสามารถนำถังเก็บไปใช้ประโยชน์ในการจัดซื้อน้ำมันดิบที่เหมาะสมกับโรงกลั่นมาเก็บได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบขณะนี้ยังผันผวนตามกระแสข่าวต่าง ๆ ซึ่งต้องจับตาเป็นรายวัน และหากมองไปข้างหน้า ราคาน้ำมันที่ต่ำลงสะท้อนจากปริมาณการผลิตที่เกินความต้องการใช้อย่างมากทำให้การจัดหาน้ำมันดิบง่ายขึ้น

ทั้งนี้ เพื่อลดการขาดทุนสตอกน้ำมันของกลุ่มโรงกลั่น ซึ่งเผชิญมาตั้งแต่วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ปี 2551 ราคาน้ำมันตกต่ำจากปริมาณการผลิต Shale Oil ในปี 2557 ถึงเวลาหรือยังที่ประเทศไทยจะพิจารณาอัตราการสำรองน้ำมันดิบตามกฎหมายที่เหมาะสม เพื่อลดการขาดดุลของประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชะตากรรมชาวตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านคลองลึก

สระแก้ว 25 มิ.ย. – เสียงสะท้อนจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโรงเกลือ หลังปิดด่านพรมแดนคลองลึก จากที่ต้องดิ้นรนค้าขายในยุคเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย

EOD ทำลายระเบิดซุก จยย.จอดทิ้งหน้าอาคารสนามบินภูเก็ต

ภูเก็ต 25 มิ.ย. – ตำรวจชุด EOD ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต ล่าสุดยิงทำลายวัตถุระเบิดได้แล้ว อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ ยืนยันมีลูกเดียว ไม่มีผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต .-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือคนไทยออกจากอิสราเอล-อิหร่าน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย.- นายกฯ ย้ำแผนช่วยเหลือ-อำนวยความสะดวกคนไทยต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่าน เผยล่าสุดมี 73 คน ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน และ 18 คนจากอิสราเอลต้องการกลับไทย ขอคนที่อยู่ต่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุรัฐบาลได้เตรียมการดูแลพี่น้องคนไทยทั้งในอิสราเอลและอิหร่าน ในกรณีที่ต้องการเดินทางกลับไทย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้วางแผนช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ต้องการออกจากอิสราเอลและอิหร่านโดยรวดเร็วและปลอดภัยค่ะ ในอิหร่าน มีคนไทยรวมประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานและนักศึกษา ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ช่วยเหลือให้ไปพำนักชั่วคราวที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Amol ในอิหร่านแล้ว 35 คน และอีก 4 คนไปที่ศูนย์พักพิงที่เมือง Van ในตุรกี นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศกำลังเร่งประสานงานให้คนไทย 73 คนที่ประสงค์จะเดินทางออกจากอิหร่าน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับฝ่ายอิหร่าน เพื่อให้เร่งออก exit visa ให้ ในส่วนของอิสราเอล มีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 คน เกือบทั้งหมดเป็นแรงงาน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ติดตามสอบถามความเป็นอยู่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไปเยี่ยมเยียนด้วย ซึ่งในชั้นนี้ […]

นายกฯ เปิดประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ไร้ตัวแทนกัมพูชาร่วม

พัทยา 25 มิ.ย.-ไร้เงาตัวแทนกัมพูชา นายกฯ เปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเซียน ชมสาธิตวิธีการช่วยอากาศยานประสบภัยในทะเล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) และการฝึกค้นหา และช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉินในทะเล ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ระหว่างวันที่ 24-27 มิถุนายน 2568 เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย มั่นคง มั่งคั่ง ในอาเซียน ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวต้อนรับผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศผู้สังเกตการณ์ และพันธมิตรสำคัญที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้สู่เมืองพัทยา และแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมในพิธีเปิดเวทีความร่วมมืออันสำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นเวทีที่หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนมุมมอง และเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อยกระดับความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงความสำคัญของความมั่นคง และความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภูมิภาค เนื่องจากท้องทะเลไม่เพียงเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ […]