กลุ่ม ปตท.ทบทวนแผนฯ ชะลอปิโตรฯ สหรัฐ ลดงบฯ OPEX หลายพันล้านบาท

กรุงเทพฯ 22 เม.ย. – กลุ่มโรงกลั่นฯ ขาดทุนสตอกไตรมาส 1/63 หลายหมื่นล้านบาท แนะรัฐแก้กฎหมายปรับสำรองน้ำมันดิบให้เหมาะสม  ด้านกลุ่ม ปตท.ลดกำลังกลั่นร้อยละ 15-20 ทบทวนแผนลงทุนอนาคต ชะลอโครงการปิโตรฯ สหรัฐของจีซี พร้อมเสนอบอร์ด 30 เม.ย.ลดงบดำเนินการหลายพันล้านบาท   


นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า กลุ่ม ปตท.ได้รับผลกระทบกระทบจากการใช้พลังงานและปิโตรเลียมที่ปรับลดลง โดยเฉพาะราคาน้ำมัน ส่งผลให้ขาดทุนสตอกน้ำมันในไตรมาสที่ 1/2563 ปริมาณสูง และจากการประเมินว่าผลกระทบจากโควิด-19 มีผลที่ยาวนานทั่วโลก ซึ่งไตรมาส 1 และ 2 ปีนี้ ได้รับผลกระทบทั้งหมด ส่วนไตรมาส 3-4 คาดว่าน่าจะดีขึ้น เพราะหลายประเทศเริ่มคลายเรื่องล็อกดาวน์ จึงประเมินว่าราคาน้ำมันเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ 30-40 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และจะเห็นได้ว่าโรงกลั่นฯ ทั่วโลกลดกำลังกลั่นในไทยก็ลดลงเช่นกัน โดยโรงกลั่นในกลุ่ม ปตท.จะลดลงประมาณร้อยละ 15-20    

นอกจากนี้ ทางกลุ่ม ปตท.ได้ทำแผนลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น โดยปรับแผนฯ การลงทุนติดตามทุกเดือน ล่าสุด เตรียมเสนอคณะกรรมการ ปตท.วันที่ 30 เมษายน ซึ่งจะมีการลดงบประมาณค่าใช้จ่ายดำเนินการ (OPEX ) ที่ไม่จำเป็นเป็นหลักพันล้านบาท แต่จะเป็นวงเงิน 7,000 ล้านบาท หรือไม่ ก็ต้องรอที่ประชุมฯ ว่าจะเห็นชอบอย่างไร รวมทั้งชะลอโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของบริษัทในเครือ 


“นโยบายขณะนี้ต้องกอดเงินสดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด งบที่ไม่จำเป็นต้องพยายามลด และโครงการลงทุนในอนาคต ก็ต้องทบทวนตามดีมานด์-ซัพพลายด์ที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น โครงการ MARS หรือโครงการอะโรเมติกส์ของ บมจ.ไออาร์พีซี โครงการลงทุนปิโตรเคมีในสหรัฐของ บมจ.พีทีทีโกลบอลเคมิคอล (จีซี ) เป็นต้น”นายชาญศิลป์ กล่าว

 ส่วนโครงการร่วมทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)  นายชาญศิลป์ กล่าวว่า  กลุ่ม ปตท.ได้ร่วมทุน 2 โครงการเป็นการร่วมมือกับ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ กัลฟ์  โดยในส่วนของโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3  ขณะนี้เดินหน้าตามแผนอยู่ระหว่างลงทุนถมทะเล ส่วนโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระบะที่ 3 ยังไม่ได้ลงนามกับภาครัฐ ซึ่งกรณีภาครัฐจะเจรจาเพื่อเพิ่มผลตอบแทนนั้น ทาง ปตท.-กัลฟ์ ก็ต้องหารือกันว่าจะเสนออย่างไร โดยต้องยอมรับว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์โควิด-19 สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับการลงนามสัญญาล่าช้ากว่าแผน ดังนั้น ก็อาจจะเจรจาเลื่อนระยะเวลาการเริ่มและขยายเวลาการลงทุนออกไปตามสถานการณ์ ซึ่งคาดว่าการเจรจาจะได้ข้อสรุปปีนี้

ด้านรายงานข่าวจากกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันในประเทศไทย ระบุว่าไตรมาส 1 ปีนี้โรงกลั่นต่าง ๆ ของไทยจะขาดทุนสตอกหลายหมื่นล้านบาท และจากความต้องการน้ำมันลดลงมากทุกภาคส่วน โรงกลั่นฯ ทั่วโลกลดกำลังกลั่นฯ โดยในแถบเอเชียที่มีการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเป็นหลัก เช่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อินเดีย ได้ปรับลดกำลังการกลั่นลงประมาณร้อยละ 10-30 เช่นเดียวกับโรงกลั่นฯ ในประเทศไทยเอง ก็ทยอยลดกำลังการกลั่นลงตั้งแต่มีนาคม-เมษายนแล้ว โดยเดือนมีนาคมจะปรับลดกำลังการกลั่นไม่ได้มาก เนื่องจากต้องบริหารจัดการน้ำมันดิบที่สั่งซื้อล่วงหน้าเข้ามาแล้ว ส่วนในอนาคตจะทยอยปรับลดกำลังการกลั่นลงอีกหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้น้ำมันว่าจะกลับมาได้เร็วเพียงใด


 “ไตรมาส 1 ปีนี้ คาดว่าโรงกลั่นฯ ในประเทศทั้ง 6 แห่ง จะเผชิญปัญหาขาดทุนสตอกน้ำมันที่เก็บไว้ (stock loss) รวมกันหลายหมื่นล้านบาท เพราะราคาน้ำมันดิบสิ้นไตรมาส 1 ปรับลดลงประมาณ 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากช่วงปลายปีที่แล้ว ส่วนไตรมาส 2 คาดว่าความเสี่ยงจากการขาดทุนทางสตอกจะลดน้อยลง เพราะการปรับลดลงของราคาน้ำมัน น่าจะใกล้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว ด้านค่าการกลั่นประเมินว่าในช่วงไตรมาส 2 จะดีขึ้นจากไตรมาส 1 และมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังของปีตามสถานการณ์คลี่คลายของโควิด-19  อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้อาจไม่ได้กลับมารวดเร็วมากนักอาจใช้เวลาจนถึงสิ้นปีนี้ หรือต้นปีหน้า กว่าที่กิจกรรมต่าง ๆ จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ ซึ่งวิกฤติครั้งนี้ถือว่าร้ายแรงสุดกว่าทุกวิกฤติที่เคยเกิดขึ้นในอดีต และโลกไม่ได้เผชิญกับวิกฤติที่รุนแรงแบบนี้มากว่า 30 ปีแล้ว” แหล่งข่าว ระบุ

แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า ส่วนการที่ภาครัฐมีมาตรการผ่อนปรนการจัดเก็บสำรองน้ำมันดิบตามกฎหมายจากร้อยละ 6 เหลือร้อยละ 4 ในช่วง 1 ปีนั้น สามารถแบ่งเบาภาระต้นทุนให้กับโรงกลั่นฯ ในประเทศได้ระดับหนึ่ง โดยเฉพาะเงินทุนหมุนเวียนและภาระดอกเบี้ย ทั้งยังสามารถนำถังเก็บไปใช้ประโยชน์ในการจัดซื้อน้ำมันดิบที่เหมาะสมกับโรงกลั่นมาเก็บได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบขณะนี้ยังผันผวนตามกระแสข่าวต่าง ๆ ซึ่งต้องจับตาเป็นรายวัน และหากมองไปข้างหน้า ราคาน้ำมันที่ต่ำลงสะท้อนจากปริมาณการผลิตที่เกินความต้องการใช้อย่างมากทำให้การจัดหาน้ำมันดิบง่ายขึ้น

ทั้งนี้ เพื่อลดการขาดทุนสตอกน้ำมันของกลุ่มโรงกลั่น ซึ่งเผชิญมาตั้งแต่วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ปี 2551 ราคาน้ำมันตกต่ำจากปริมาณการผลิต Shale Oil ในปี 2557 ถึงเวลาหรือยังที่ประเทศไทยจะพิจารณาอัตราการสำรองน้ำมันดิบตามกฎหมายที่เหมาะสม เพื่อลดการขาดดุลของประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

เขื่อนเจ้าพระยาระบายแตะ 2,000 ลบ.ม./วินาที หน่วงน้ำเขื่อนป่าสักฯ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมชลประทานจะระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,000 ลบ.ม./วินาที ช่วงบ่ายวันนี้ ห่วงผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย จึงปรับลดการระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อให้น้ำเหนือระบายสู่อ่าวไทยได้มีประสิทธิภาพขึ้น ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ระบุว่า เช้าวันนี้ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,101 ลบ.ม./วินาที และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมากรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จาก 1,900 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,950 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งตามศักยภาพของคลอง แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นดังกล่าว จะทำให้มีพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนที่ได้รับผลกระทบได้แก่ กรมชลประทานจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป จากอัตรา 1,950 ลบ.ม./วินาที ให้เป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ (12 ก.ย.) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้ […]

สั่ง 4 ข้อยกระดับมาตรฐานซาฟารีเวิลด์ ห่วงความปลอดภัยและสวัสดิภาพสัตว์

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – อธิบดีกรมอุทยานฯ มีคำสั่งด่วนถึงซาฟารีเวิลด์ ให้ปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้ายโดยเร็ว พร้อมกำหนด 4 มาตรการเข้มที่ต้องปฏิบัติเพื่อยกระดับความปลอดภัยทั้งต่อนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ชี้เป็นห่วงสุขภาพและสวัสดิภาพสิงโต เบื้องต้นพบมีภาวะเครียดและมีอาการโรคผิวหนัง ส่วนกรงยังมีไม่เหมาะสมเพียงพอ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงบริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ให้ดำเนินการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดแสดงสัตว์ดุร้าย หลังเกิดเหตุสิงโตในโซนจัดแสดงแบบเปิดรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์จนเสียชีวิต จากการตรวจสอบเบื้องต้นของคณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ พบข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยหลายประการเช่น ไม่มีระบบกั้นพื้นที่อย่างปลอดภัย ไม่มีประตูนิรภัยสองชั้น และขาดอุปกรณ์ควบคุมสัตว์ที่เหมาะสม ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าใกล้สัตว์โดยตรงขณะปฏิบัติงาน กรมฯ จึงกำหนด 4 มาตรการเร่งด่วน ที่บริษัทต้องดำเนินการให้ครบถ้วน ดังนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ ย้ำว่า ได้ให้บริษัทเร่งปรับปรุงให้ได้ตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยทั้งของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ ก่อนหน้านี้ กรมอุทยานฯ ได้มีคำสั่งปิดการจัดแสดงสิงโตและสัตว์ดุร้ายในสวนสัตว์เปิดซาฟารีเวิลด์เป็นการชั่วคราวหลังเกิดเหตุ โดยคำสั่งล่าสุดนี้ ถือเป็นการกำหนดรายละเอียดแนวทางแก้ไขเชิงระบบ เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม อธิบดีกรมอุทยานฯ ยังแสดงความห่วงใยถึงสุขภาพและสวัสดิภาพของสิงโต 5 ตัวที่รุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตวว์ เป็นเพศผู้ 3 ตัว เพศเมีย 2 […]

ชาวบ้านเฮ! ปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยังได้สำเร็จ

ร้อยเอ็ด 12 ก.ย. – สามารถปิดรอยขาดพนังกั้นน้ำยัง บริเวณบ้านทรายมูล อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด หลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน เร่งช่วยกันซ่อมแซม ปฏิบัติการเร่งซ่อมพนังกั้นลำน้ำยังที่ขาด บริเวณบ้านทรายมูล หมู่ 4 ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทำให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมนาข้าวเสียหายกว่า 5,000 ไร่ ครอบคลุม 3 ตำบล นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นำเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน พร้อมชาวบ้านกว่า 200 คน ใช้ทั้งแรงคนและเครื่องจักรหนัก รถบรรทุกทราย และถุงบิ๊กแบ็กปิดกั้นรอยแตก นอกจากนี้ยังนำเสาไฟฟ้า 16 ต้น มาวางพาดขวางเสริมฐานความแข็งแรง ร่วมกับท่อนไม้ขนาดใหญ่ เพื่อชะลอความแรงของกระแสน้ำ ก่อนใช้รถแบ็กโฮจัดวางถุงทรายทับซ้ำอีกชั้นหนึ่ง เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้แนวป้องกัน เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (11 ก.ย.) สามารถปิดบริเวณที่ขาดได้สำเร็จ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด กล่าวว่า หลังจากปิดกั้นจุดที่ขาดเสร็จสิ้น […]