ไทยนำวิธีดูแลแรงงานต่างด้าวของสิงคโปร์มาปรับใช้ป้องโควิด

ทำเนียบรัฐบาล 21 เม.ย.-โฆษก ศบค.แถลงวันนี้ผู้ป่วยใหม่ 19 ราย  เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ใช้วิธีการรับมือกรณีแรงงานต่างด้าวของสิงคโปร์มาปรับใช้  มี อสม.ต่างด้าวดูแล


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้ (21 เม.ย.) มีรายงานผู้ป่วยใหม่ 19 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 2,811 ราย รักษาหาย 2,108 ราย รักษาตัวอยู่ 655 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิต รวม 48 ราย โดย ผู้เสียชีวิตรายล่าสุดเป็นชายไทยอายุ 50 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ มีโรคประจำตัว คือเบาหวานชนิดที่สองที่ยังควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดีและสูบบุหรี่ ประวัติเสี่ยงคือรับ-ส่งผู้โดยสาร ไปดูมวยที่สนามมวยลุมพินี เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ด้วยอาการหายใจลำบาก ไข้ต่ำ ๆ ไอ เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร และรับยากลับไปรับประทานที่บ้าน จากนั้นอาการไม่ดีขึ้น จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอีกครั้งในวันที่ 23 มีนาคม ด้วยอาการไข้สูง 39.5 องศาเซลเซียส ปวดเมื่อยตามตัว หายใจลำบาก เสมหะเพิ่มขึ้น ตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด-19 จากนั้นอาการแย่ลงและเสียชีวิตวานนี้(20 เม.ย.)

โฆษกศบค. กล่าวว่า จากจำนวนตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 19 ราย พบว่ามาจากการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 10 รายไปสถานที่ชุมนุมชน 2 ราย อาชีพเสี่ยง 1 ราย พิธีกรรมทางศาสนา 1 ราย จากการค้นหาเชิงรุก 4 ราย โดยแบ่งเป็นที่จังหวัดยะลา 2 รายและตรวจก่อนทำหัตถการ 2 ราย ไม่มีบุคลากรทางการแพทย์ และเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานที่กักกันของรัฐ 1 ราย ส่วนผู้ป่วยสะสม 2,811 ราย พบใน 5 จังหวัดสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 1,447 รายและมีอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 3 ราย ภูเก็ต 192 ราย นนทบุรี 152 ราย สมุทรปราการ 108 ราย ยะลา 95 ราย และอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 8 ราย 


“เมื่อจำแนกอัตราป่วยต่อประชากรหนึ่งแสนคน ที่รวมผู้ป่วยที่อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้แล้ว พบว่า จังหวัดภูเก็ต มีผู้ป่วยมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 46.69 กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 25.57 ยะลา ร้อยละ 19.28 ปัตตานี ร้อยละ 12.61 และนนทบุรี ร้อยละ 12.10  แต่ตัวเลขของจังหวัดสตูลที่น่าสนใจ คือ อัตราป่วยต่อประชากรหนึ่งแสนคนอยู่ที่ ร้อยละ 5.58 คือ มีผู้ป่วยจำนวน 19 ราย โดยทั้งหมดเป็นผู้ป่วยที่อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ ซึ่งจังหวัดสตูลไม่มีตัวเลขของผู้ป่วยในจังหวัดเลยแม้แต่รายเดียว ดังนั้น จะมี 10 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานการรักษาผู้ป่วย ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี อ่างทองและสตูล” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค. กล่าวว่า มี 36 จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยใหม่ ในช่วง 14 วันที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 5-18 เมษายน 2563 ได้แก่ เชียงราย เพชรบุรี เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี จันทบุรี  นครนายก บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด ราชบุรี ลพบุรี ลำพูน ศรีสะเกษ สมุทรสงคราม สระบุรี สุโขทัย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์  อุทัยธานี หนองคาย กาฬสินธุ์ ระยอง ตาก ประจวบคีรีขันธ์ อยุธยา สกลนคร สุรินทร์ สระแก้ว อุบลราชธานี และสุพรรณบุรี


“เมื่อจำแนกจำนวนผู้ป่วยยืนยันตามปัจจัยเสี่ยง ในสองสัปดาห์ล่าสุด พบว่ากลุ่มที่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ มีมากที่สุด 291 ราย ผู้ป่วยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 71 ราย อาชีพเสี่ยง 39 ราย ไปสถานที่ชุมนุมชน 24 ราย และบุคลากรทางการแพทย์ 24 ราย และเมื่อจำแนกผู้ป่วยยืนยันตามอาชีพ 5 อันดับสูงสุด คือ รับจ้างทั่วไปและฟรีแลนด์ ค้าขายและธุรกิจส่วนตัว พนักงานบริษัทและโรงงาน พนักงานในสถานบันเทิงนักเรียนและนักศึกษา” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โลก พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 2,481,287 ราย เสียชีวิต 170,436 ราย สหรัฐอเมริกาพบติดเชื้อมากที่สุด 792,759 ราย เสียชีวิต 42,514 ราย ขณะที่ไทยอยู่ที่อันดับที่ 55 ของโลก โดยสิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 1,426 รายในวันเดียว โดยพบว่ามีความสัมพันธ์กับแรงงานและคนต่างด้าว ซึ่งประเทศสิงคโปร์มีตัวเลขแรงงานต่างด้าวกว่า 3 แสน 2 หมื่นคน อาศัยอยู่ตามหอพักต่าง ๆ 43 แห่ง แต่ละแห่งมีผู้อาศัยถึง1,000 คน แต่ละห้องอาศัยอยู่ประมาณ 12-20 คน พบจำนวนผู้ติดเชื้อจาก 1,000 รายเมื่อวันที่ 1 เมษายน เพิ่มเป็น 5,992 รายในวันที่ 18 เมษายน ซึ่งเป็นการติดเชื้อในวงกว้างที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก

“ทางการสิงคโปร์เร่งดำเนินการมาตรการล็อคดาวน์หอพักของแรงงานทุกแห่ง พร้อมตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลแรงงานเพื่อหยุดการแพร่ระบาด ไม่ให้เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวระหว่างหอพักด้วยกัน และจัดการการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันเพื่อป้องกันการเผยแพร่เชื้อ โดยแรงงานจะได้รับค่าจ้างระหว่างกักตัว มีทีมสถานพยาบาลไปดูแล เมื่อแรงงานที่หายดีและผู้ที่มีผลเลือดเป็นลบจะเคลื่อนย้ายไปอยู่บนเรือ” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค. กล่าวว่า ในส่วนแรงงานต่างด้าวในไทย กระทรวงสาธารณสุขเข้าไปดูแลในพื้นที่ที่มีแรงงานต่างด้าวว่ามีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร พร้อมเน้นย้ำเรื่องการรักษาระยะห่างทางสังคมและการรักษาความสะอาด รวมถึงส่งเสริมให้มีพนักงานสาธารณสุขต่างด้าวและอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าวทำหน้าที่คล้ายกับอสม.เพื่อดูแลซึ่งกันและกัน คาดหวังว่าสิ่งที่ไทยได้เรียนรู้จากสิงคโปร์จะนำมาช่วยป้องกันและเป็นมาตรการควบคุมต่อไป 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนผู้ฝ่าฝืนการประกาศเคอร์ฟิว มีประชาชนออกนอกเคหสถาน 693 ราย รวมกลุ่มชุมนุมและมั่วสุมจำนวน  65 ราย และวันนี้จะมีเที่ยวบินนำคนไทยจากประเทศไต้หวัน 120 คน ประเทศญี่ปุ่นมีสองเที่ยวบิน จำนวน 80 คน และ 20 คนกลับมา ส่วนการจัดส่งหน้ากากอนามัย N95 ทั่วประเทศแล้วจำนวน 138,940 ชิ้น และชุดป้องกัน PPE SET 39,719 ชุด 

“วานนี้(20 เม.ย.) โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าเปิดตัวหอผู้ป่วยพักรวม ในลักษณะห้องไอซียูความดันลบ โดยต้องใช้ระบบอากาศสด ๆ หรือ Fresh air 100% ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ซึ่งเป็นการนำตึกเก่าที่สภาพดีมาปรับปรุงใหม่ เพื่อเป็นหอพักผู้ป่วยที่อาการไม่หนักมาก สามารถอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งต้องชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ดำเนินการ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชน จะช่วยกันดูแลผู้ป่วยให้รักษาหายและไม่ติดต่อผู้อื่นด้วย” โฆษกศบค. กล่าว.-สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย