กทม.จัดระเบียบแจกอาหารช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากโควิด-19

เขตพระนคร 21 เม.ย.-เจ้าหน้าที่ กทม.ดูแลความเรียบร้อยจุดแจกอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในสถานการณ์โควิด-19 พบผู้บริจาคบางรายยังไม่ทราบประกาศระเบียบปฏิบัติ แนะให้แจ้งสำนักงานเขตพื้นที่ก่อนนำมาวางแจกประชาชน 


บรรยากาศที่บริเวณลานหน้าพระแม่ธรณีบีบมวยผม เขตพระนคร เป็น หนึ่งในจุดที่เขตพระนครกำหนดให้ผู้ใจบุญที่ต้องการนำอาหาร น้ำดื่ม อาหารแห้ง มาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่มีคนเร่ร่อนไร้บ้าน คนตกงาน รวมถึงประชาชนที่อยู่พื้นที่อื่นมารอรับความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก


จากการสอบถามเจ้าหน้าที่เทศกิจ ให้ข้อมูลว่า หลังจากที่มีประกาศจากทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) เรื่องการจัดระเบียบสำหรับผู้ที่จะมาแจกอาหารให้กับผู้เดือดร้อน เริ่มมีประสานงานมายังเขตบ้างแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะมุ่งหน้ามาแจกเองเลย แต่โชคดีในพื้นที่เขตพระนครมีจุดใหญ่ที่รวมกลุ่มคนเดือดร้อนที่สามารถเห็นได้ชัดเจน ผู้ใจบุญจึงมาได้ถูกจุด เจ้าหน้าที่ก็จะอะลุ่มอล่วยให้กับผู้ใจบุญที่นำข้าวมา 100-200 ชุดให้มาจุดนี้ได้ เนื่องจากใช้เวลาไม่มาก พร้อมอำนวยความสะดวกให้เต็มที่แต่หากมากกว่านั้น ขอ ให้ประสานไปยังสำนักงานเขตเพื่อจะได้ดูแลได้อย่างทั่วถึง 


อย่างไรก็ดียืนยันว่าหากพบผู้ใจบุญไปตั้งโต๊ะแจกหรือบริจาคในจุดที่นอก เหนือจากที่กำหนดไว้ 71 จุด จะไม่ยึดสิ่งของบริจาค เพียงแต่จะขอความร่วมมือให้ไปยังจุดที่เขตกำหนดไว้หรือหากไม่ไป ก็ขอให้มีการจัดระเบียบทิ้งระยะห่างสำหรับผู้ที่มารับการบริจาค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในจุดนี้เป็นจุดหลักที่รวมกลุ่มคนทั้งในเส้นราชดำเนินใน คลองหลอด ประมาณ 400-500 คน ซึ่งหลังจากมีประกาศทางสำนักงานเขตได้จัดสถานที่และจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจคอยจัดระเบียบ ความปลอดภัย ดูแลแถว รักษาระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร นอกจากนี้ยังมีจิตอาสามาคอยช่วยจัดระเบียบ และคอยน้ำแอลกอฮอลล์ฆ่าเชื้อมาฉีดพ่นตามร่างกายประชาชนที่มารอรับสิ่งของ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสังเกตในช่วงที่มีคนนำสิ่งของมาแจก มีความชุลมุนวุ่นวายเล็กน้อย เพราะต่างคนต่างก็เร่งรีบจะไปรับน้ำดื่มและข้าว รวมถึงไม่ยอมเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตรตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง จึงต้องมีการตำหนิหรือดุบ้าง เพื่อขอความร่วมมือให้อยู่ระเบียบ 

สอบถามประชาชนที่มารอรับอาหารคนหนึ่ง บอกว่า มาจากแสมดำ เขตบางขุนเทียน นั่งรถเมลล์มา 2วันแล้ว หลังทราบข่าวว่าที่นี่มีข้าวแจก จึงชวนหลานชายวัย 10 ขวบมาด้วย พกถุงขนาดใหญ่ติดตัวมาเพื่อจะได้เอาข้าวที่แจกกลับไปฝากคนที่บ้านอีก 3 คน จะมาถึงที่สนามหลวงตั้งแต่เวลา 08.00 น.และกลับบ้านเวลา 17.00 น.ตั้งใจจะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพราะแม้คนที่บ้านจะมีงานทำ แต่ต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อให้สามารถใช้เงินได้อย่างประหยัด

สำหรับประชาชนที่ต้องการนำสิ่งของมาบริจาคแก่ผู้เดือดร้อนใช่วงโควิด-19 เบื้องต้น กทม.ได้กำหนดไว้จำนวน 71 จุด ใน 50 เขต โดยกำหนดการแจกใน 3 ช่วงเวลา คือเช้า เวลา 07.00–09.00 น.กลางวัน11.00–13.00 น. และเย็น เวลา 16.00–18.00 น.   ดังนี้ 

กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง 

1. เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย บริเวณลานวัดสุนทรธรรมทาน และแยกผ่านฟ้าฯ 2. เขตวังทองหลาง บริเวณลานกีฬาฝั่งใต้ ใต้ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา 3. เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติไทย-จีน และลานสถานีรถไฟฟ้ามังกร 4. เขตพญาไท บริเวณสวนพญาไทภิรมย์ 5. เขตดินแดง บริเวณลานกีฬาห้วยขวางเฉลิมพระเกียรติ และสวนป่าวิภาวดีรังสิต เขตดุสิต บริเวณโรงเรียนวัดจันทรสโมสร 7. เขตพระนคร บริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม และสวนหย่อมถนน 13 ห้าง 8. เขตห้วยขวาง บริเวณลานกีฬาชุมชนบึงพระราม 9 9. เขตราชเทวี บริเวณลานกีฬาพัฒน์ 2 สวนสันติภาพ สวนราชเทวีภิรมย์ สวนรมย์ราชเทวี และสวนมูลนิธิรัฐบุรุษพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ (สวนเงิน) 

กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ 

1. เขตสายไหม บริเวณวัดพรพระร่วงประสิทธิ์ วัดหนองใหญ่ วัดเจริญธรรมาราม (วัดศูนย์) วัดราษฎร์นิยมธรรม และวัดอยู่ดีบำรุงธรรม (วัดออเงิน) 2. เขตจตุจักร บริเวณหน้าวัดเสมียนนารี 3. เขตหลักสี่ บริเวณโรงเรียนเคหะทุ่งสองห้องวิทยา 4. เขตดอนเมือง บริเวณลานกิจกรรมโรงเรียนวัดดอนเมือง 5. เขตบางซื่อ บริเวณใต้รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีเตาปูน 6. เขตลาดพร้าว บริเวณโรงเรียนเพชรถนอม โรงเรียนวัดลาดปลาเค้า 7. เขตบางเขน ลานหน้าพระมหาเจดีย์ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร

กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก 

1. เขตสะพานสูง บริเวณวัดลาดบัวขาว และทางเข้าหน้าโรงเรียนศรีพฤฒา ม.นักกีฬา 2. เขตหนองจอก บริเวณโรงเรียนวัดหนองจอก (ภักดีนรเศรษฐ์) และสนามกีฬาบางกอกอารีน่า  3. เขตบางกะปิ บริเณสวนพฤกษชาติ 4. เขตประเวศ บริเวณสวนสาธารณะสวนสุขภาพ 5. เขตลาดกระบัง บริเวณห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ถนนลาดกระบัง 6. เขตบึงกุ่ม บริเวณวัดนวลจันทร์ 7. เขตคันนายาว บริเวณลานอเนกประสงค์ วันเดอร์ เวิลด์ 8. เขตมีนบุรี บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 และ 9. เขตคลองสามวา บริเวณวัดพระยาสุเรนทร์

กลุ่มเขตกรุงเทพใต้ 

1. เขตวัฒนา บริเวณลานวัดธาตุทอง 2. เขตสวนหลวง บริเวณหน้าห้างโลตัส ถ.พัฒนาการ 3. เขตพระโขนง บริเวณลานจอดรถวัดวชิรธรรมสาธิต วรวิหาร 4. เขตสาทร บริเวณใต้ทางด่วนสวนอยู่ดี ถ.เจริญราษฎร์ 5. เขตคลองเตย บริเวณลาน ตรงอาจณรงค์ ไนท์บาซาร์ ถ.กล้วยน้ำไท ตัดกับเส้นทางรถไฟสายเก่า ปากน้ำ 6. เขตบางคอแหลม บริเวณลานจอดรถ เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ 7. เขตปทุมวัน บริเวณลานกีฬาจารุเมือง ใต้ทางด่วน ถ.พระราม 1 8. เขตบางรัก บริเวณลานกีฬามหานครปลอดยาเสพติด ใต้ทางด่วนพิเศษศรี รัช ซ.เฟรเซอร์แอนด์นีฟ 9. เขตยานนาวา บริเวณสมาคมเตชะสัมพันธ์ ถ.พระราม 3 ระหว่าง ซ.50 และ ซ.48 บริเวณลานกีฬาชุมชนคลองด่าน สวนศิลาฤกษ์ ใต้สะพานภูมิพล ลานกีฬาชุมชนโสณมัย อร่ามดวง โรงเรียนวัดช่องลม และลานกีฬาชุมชนวัดช่องลม 10. เขตบางนา บริเวณลานจอดรถวัดศรีเอี่ยม 

กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ 

1. เขตบางพลัด บริเวณใต้สะพานพระราม 8 2. เขตบางกอกน้อย บริเวณวัดระฆังโฆษิตาราม 3. เขตบางกอกใหญ่ บริเวณใต้สะพานข้ามแยกท่าพระ 4. เขตตลิ่งชัน บริเวณตลาดน้ำตลิ่งชัน 5. เขตทวีวัฒนา บริเวณสนามหลวง 2 6. เขตจอมทอง บริเวณลานกีฬาใต้ทางด่วนดาวคะนอง 7. เขตธนบุรี บริเวณลานอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช 8. เขตคลองสาน บริเวณสวนป่าเฉลิมพระเกียรติใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

กลุ่มเขตกรุงธนใต้ 

1. เขตบางขุนเทียน บริเวณลานจอดรถโรงเบียร์ฮอลแลนด์ 2. เขตบางแค บริเวณลานจอดรถหน้าบิ๊กซี สาขาเพชรเกษม 3. เขตหนองแขม บริเวณวัดอุดมรังสี 4. เขตภาษีเจริญ บริเวณโรงเรียนวัดจันทร์ประดิษฐาราม 5. เขตบางบอน บริเวณโรงเรียนวัดบางบอน 6. เขตทุ่งครุ บริเวณวัดทุ่งครุ 7. เขตราษฎร์บูรณะ บริเวณใต้ทางด่วน ถ.สุขสวัสดิ์ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]