คณะที่ปรึกษาฯ เสนอนายกฯ เคาะมาตรการช่วยเหลือธุรกิจ

สภาพัฒน์ 20 เม.ย. – คณะที่ปรึกษาฯ เสนอมาตรการช่วยเหลือด้านธุรกิจ ยกเว้นภาษีเอสเอ็มอี 3 ปี ลดเงินสมทบประกันสังคมนายจ้างจากร้อยละ 4 เหลือร้อยละ 1 ช่วง 6 เดือน เลื่อนเก็บภาษีที่ดินฯ 1 ปี  พร้อมพิจารณารายจังหวัดพื้นที่สีเขียวทดลองเปิดกิจการ 2 เดือน เสนอชดเชยเกษตรกร 8-9 ล้านครัวเรือน 5 พันบาท เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งกองทุนร่วม 5 หมื่นล้านบาท ฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร 



นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นประธานการประชุมคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 2  เพื่อข้อสรุปจากคณะทำงาน 5 กลุ่ม โดยมีหน่วยงานหลายฝ่ายเข้าร่วมประชุม เช่น สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสภาเกษตรกรแห่งชาติ เพื่อเสนอมาตรการทางเศรษฐกิจให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาวันนี้อย่างเร่งด่วน ทั้งการผ่อนปรนเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลนท์) ให้กับภาคเอกชน เอสเอ็มอี การพิจารณากลับมาเปิดธุรกิจของสถานประกอบการในพื้นที่สีเขียวหรือมีความเสี่ยงต่ำ แนวทางช่วยเหลือเกษตรกรเป็นการเร่งด่วน การวางแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งมีทั้งมาตรการระยะสั้น เริ่มนำมาใช้ทันที และระยะยาว ซึ่งต้องหารือกับหลายหน่วยงานเพิ่มเติม 


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. เปิดเผยว่า คณะทำงานได้เสนอมาตรการหลายด้าน โดยเฉพาะกลุ่มช่วยเหลือเอสเอ็มอีเป็นกลุ่มสำคัญและประชาชนทั่วไป ประกอบด้วย 1. มาตรการด้านประกันสังคม เสนอลดเงินสมทบประกันสังคมนายจ้างจากร้อยละ 4 เหลือร้อยละ 1 เป็นเวลา 180 วัน  2.มาตรการทางภาษี เสนอยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลกับเอสเอ็มอี 3 ปี (ปี 2563-2565)  มีเงื่อนไขต้องเข้าสู่ระบบบัญชีเดียว การยื่นแบบภาษีผ่านอิเล็กทรอนิกส์ เพราะคาดว่าช่วง 3 ปี เอสเอ็มอีส่วนใหญ่ยังประสบปัญหาขาดทุน  และการเปิดให้เอกชนนำค่าใช้จ่ายค่าป้องกันปัญหาโควิดนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ 3 เท่า การลดค่าเช่าแผง ร้านเช่า หักภาษีได้ 3 เท่า การเลื่อนจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกไป 1 ปี การลดค่าธรรมเนียมการโอนเหลือร้อยละ 0.01  

3.มาตรการด้านสาธารณูปโภค ขอเลื่อนจ่ายค่าน้ำประปา ไฟฟ้า ออกไป 6 เดือน และขอให้ลดราคาลงอีกร้อยละ 5 เพราะช่วงประชาชนอยู่บ้านค่าบริการสาธารณูปโภคสูงมาก 4.การอนุญาตให้จ้างงานเป็นรายชั่วโมง ในอัตรา 40-41 บาท จ้างขั้นต่ำ 4-8 ชั่วโมง 5.การผ่อนผันต่อใบอนุญาตแรงงานต่างชาติออกไป 6 เดือน  6.การช่วยเหลือแรงงานเงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท  รัฐจ่ายชดเชยให้ร้อยละ 50 บริษัทเอกชนจ่ายร้อยละ 25 ของค่าจ้าง 7.กรณีบริษัทที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 ขอให้รัฐชดเชยการเลิกจ้างพนักงานระยะเวลา 3 เดือน และให้นำเงินบริจาคแก้ปัญหาโควิด-19 เต็มจำนวนร้อยเปอร์เซ็นต์ เพื่อจูงใจให้เอกชนร่วมบริจาคป้องกันปัญหาโควิด-19 กับวงการแพทย์ 


นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า  หลังจาก พ.ร.ก.เงินกู้ มีผลบังคับใช้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงนำเงินออกมาปล่อยซอฟท์โลน วงเงิน 500,000 ล้านบาท เพื่อให้แบงก์ปล่อยกู้คิดดอกเบี้ยร้อยละ 2 เป็นเวลา 2 ปี ส่วนช่วง 6 เดือนแรกไม่ต้องชำระหนี้ทั้งต้นและดอกเบี้ย สำหรับภาคธุรกิจเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้สถาบันการเงินกระจายวงเงินให้ลูกหนี้ทุกระดับของเอสเอ็มอีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ กระจายวงเงินครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และการให้วงเงิน ไม่จำกัดเฉพาะลูกหนี้ชั้นดีของสถาบันการเงินเท่านั้น  ผ่อนปรนเงื่อนไขและแนวทางการพิจารณาวงเงินสินเชื่อซอฟท์โลนให้กับผู้ประกอบการของ ธปท.กระจายไปถึงผู้ประกอบการรายย่อย โดยไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม เพิ่มสัดส่วนการค้ำประกันส่วนสูญเสียจากเดิมแก่บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) 

นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ได้เสนอมาตรการเพื่อการกลับมาเปิดธุรกิจใหม่ ได้แก่ มาตรการในการปรับพฤติกรรมของประชาชน โดยกำหนดแนวทางการปฏิบัติของประชาชนและสถานที่ให้บริการ การเปิดดำเนินธุรกิจต้องดูตามความเสี่ยงของสถานประกอบการ และพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เช่น สถานประกอบการมีความเสี่ยงต่ำอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำอาจพิจารณาเปิดให้บริการได้ตามมาตรการที่กำหนด ขณะที่สถานประกอบการที่มีความเสี่ยงสูงและอยู่ในจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงจะไม่พิจารณาเปิดให้บริการ ด้วยการคัดเลือกมาทดลอง 2-3 จังหวัด ประมาณ 2 สัปดาห์ โดยผ่านความเห็นชอบจากสาธารณสุข จากนั้นค่อยขยายไปยังจังหวัดสีเขียว-เหลือง ช่วงเวลา 1 เดือน หากพื้นที่ใดมีความเสี่ยงสูงสีแดง คงยังไม่ได้รับการพิจารณา เช่น กทม. และจังหวัดใกล้เคียง โดยต้องมีกระบวนการอนุญาตและติดตาม เช่น การลงทะเบียนสำหรับสถานประกอบการ การติดตามตรวจสอบโดยภาครัฐระดับท้องถิ่นและจังหวัด การรายงานของภาคประชาชนผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ภาครัฐและท้องถิ่นต้องจัดทำแผนการสื่อสารไปสู่ประชาชนและสถานประกอบการให้รับทราบถึงข้อปฏิบัติอย่างชัดเจน คณะทำงานร่วมในการดำเนินการ ประกอบด้วย ภาคเอกชน ภาครัฐ และภาคสังคมและวิชาการ เพื่อหารือรายละเอียดกับกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุข

นายวีระ วีระกุล รองประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย (DCT) เปิดเผยว่า  ข้อเสนอมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาด้วยดิจิทัล (Digital Solution) ได้แก่ ควบคุม ป้องกัน และรักษา เช่น การจัดทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ความต่อเนื่องธุรกิจ เช่น แก้กฎหมายเพื่อรองรับการจัด E-Gov Digital ID การจ้างงานและพัฒนาคน มาตรการสนับสนุนผู้จนการศึกษาใหม่ คนว่างงาน และรักษาการจ้างงานในปัจจุบัน เพื่อเปิดให้คนรุ่นใหม่มาฝึกอาชีพในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล หลังเกิดปัญหาไวรัสโควิด  ความมั่นใจตลาดเงินและทุน เช่น การเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ และการช่วยเหลือ Digital Startup, SME เศรษฐกิจใหม่ เช่น Smart farming และ E-commerce โครงสร้างขับเคลื่อนยามวิกฤติ เช่น การปรับปรุงโครงสร้างการขับเคลื่อนพิเศษในสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมถึงการลงนามลายเซ็นทางอิเล็กทรอนิกส์ เพราะช่วงนี้ภาคธุรกิจหันมาใช้งานออนไลน์มากขึ้น เพื่องานของทุกหน่วยงานเดินทางได้ในช่วงโควิด-19 

นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เสนอมาตรการเพื่อภาคเกษตร ประกอบด้วย มาตรการระยะสั้น ได้แก่ การเยียวยาให้กับเกษตรกร ครัวเรือนละ 5,000 บาท ระยะเวลา 3 เดือน การพักหนี้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับทางราชการ ระยะเวลา 1 ปี การปรับโครงสร้างหนี้และขยายเวลาชำระหนี้จากการเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร การจัดให้มีช่องทางการขายสินค้าออนไลน์ การสนับสนุนและจัดระบบการขนส่งผลผลิตการเกษตร การส่งออกผ่านพรหมแดนประเทศเพื่อนบ้าน และการใช้ Big Data ในการติดตามสถานการณ์ภาคเกษตร นอกจากนี้ ยังเสนอให้ดึงไปรษณีไทย์ช่วยขนส่งสินค้าราคาถูก หรือลดราคาร้อยละ 50  เพื่อส่งสินค้าเกษตรแต่มีน้ำหนักกระจายไปทั่วประเทศ

สำหรับมาตรการระยาว ต้องหารือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบอีกครั้ง ได้แก่ การปรับโครงสร้างการผลิตภาคการเกษตรและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ผ่านกองทุนร่วมทุนเกษตรกร 50,000 ล้านบาท ด้วยการดึงธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กลุ่มสหกรณ์ระดมทุน เพื่อเติมทุนให้รายย่อย   การพัฒนานักธุรกิจเกษตรอัจฉริยะ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตผ่านกลไกการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม เพราะต้องใช้โอกาสนี้พัฒนาลูกหลานที่เดินทางกลับไปอยู่บ้านช่วงโควิด-19 มาพัฒนาอาชีพเกษตรกร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

DSI ฝากขัง “สามารถ-แม่” พร้อมคัดค้านประกันตัว

DSI ฝากขัง “สามารถ-แม่” พร้อมคัดค้านประกันตัว ด้านแม่ตะโกนร้องขอความเป็นธรรม ถูกกลั่นแกล้ง แจงเป็นเงินบุญ ปี 64 ขณะที่ “สามารถ” เผย “อยากพูด แต่พูดไม่ได้“

งด ครม.

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” วันศุกร์

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” ศุกร์นี้ นายกฯ ตั้งเป้าปีหน้าน้ำท่วมภาคเหนือต้องไม่เกิดอีก ด้าน ศปช. เตรียมเสนอแผนแก้อย่างเป็นระบบใน ครม.สัญจร ศุกร์นี้