ประธานวิปรัฐบาลยันต้องประเมินการแพร่ระบาดโควิด-19 ก่อนเปิดประชุมสภาฯ

กรุงเทพฯ 20 เม.ย.- “วิรัช” ยันต้องประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 และมาตรการของรัฐ ก่อนตัดสินใจประชุมสภา ชี้เสี่ยงและอันตรายหากเดินหน้าโดยไม่ดู คนมาก คุมยาก แม้ใช้มาตรการ


นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าอาจจะมีการเลื่อนวันประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาพระราชกำหนดและร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ว่า ยังไม่ได้มีการหารือและกำหนดวันที่แน่นอน แม้จะเปิดสมัยประชุมรัฐสภาในวันที่ 22 พฤษภาคม แต่คุยกันเป็นการภายในแล้วว่า จะต้องรอดูสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด19 ก่อน ว่าในช่วงนั้นเป็นอย่างไรและรัฐบาลได้ผ่อนปรนมาตรการ มากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากรัฐบาลยังคงมาตรการอยู่ ก็คงต้องเลื่อนการประชุมออกไป เพราะการที่จะนำคนมารวมกัน ในสถานที่เดียวกันจำนวน 500 คน อีกทั้งยังมีองคาพยพ ของส.ส. ไม่น้อยกว่า 1000 คน มีข้าราชการรัฐสภา สื่อมวลชน รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการอื่น รวมแล้ว 2,500-3,000 คน ซึ่งมาจากทั่วสารทิศ เชื่อว่า ไม่ว่าจะตรวจสอบอย่างไร ก็มีความเสี่ยง และอาจไม่ครบถ้วน จึงควรต้องรอดูสถานการณ์ แม้จะมีมาตรการ( distancing) เว้นระยะห่างในห้องประชุมแบบที่เว้นที่ แต่ก็ยังอยู่รวม ในห้องเดียวกันอยู่ดี อย่างไรก็ตามทันทีที่ประชุมได้ก็จะต้องพิจารณาพระราชกำหนด ต่อด้วย พระราชบัญญัติ โอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 แล้วสัปดาห์ต่อมาก็จะพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 เป็นลำดับต่อไป

“อยู่ที่รัฐบาลจะประกาศ ส่วนที่พิจารณานั้นก็ เข้าพิจารณาโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว มีการเตรียมการอยู่แล้ว พ.ร.ก. ก็เข้าพิจารณาโดยไม่ชักช้า เสร็จจากพ.ร.ก.ก็ต่อพ.ร.บ. แม้จะใช้มาตรการที่เว้นที่ แต่ก็ยังอยู่ในห้องเดียวกันอยู่ดี แล้วเราห้ามเขาไอได้หรือไม่ ก็ไม่ได้ ดังนั้นอยู่ที่รัฐบาลถ้าบอกว่าประเทศปลอดแล้วผ่อนปรนมาตรการแล้ว ก็ประชุมได้ ถ้าเราด่วนตัดสินใจเปิดล็อคดาวน์เอาไว้ เห็นประเทศสิงคโปร์ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของเราหรือไม่ ตอนนี้กลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเยอะที่สุด มากกว่าอินโดด้วยซ้ำ “นายวิรัช กล่าว


ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่ามาตรการของรัฐบาลที่ออกมา ถือว่าได้รับความร่วมมือจากประชาชนด้วยดี ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ทำงาน อย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะในต่างจังหวัด อาสาสมัครหมู่บ้านหรือออกตรวจตราตลอด ซึ่งหากร่วมมือกันแบบนี้ตลอดเชื่อว่าน่าจะสามารถผ่านวิกฤตโควิด19 ไปได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ