“จุรินทร์” ระดมแนวทางลุยตลาดส่งออกข้าวไทย

ปทุมธานี 18 เม.ย.- ร.ม.ว.พาณิชย์ นำทีมลงพื้นที่ปทุมธานีหารือผู้ประกอบการติดตามสถานการณ์ข้าวทั้งในและต่างประเทศ เพื่อกำหนดแนวทางส่งออกข้าวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน 




วันนี้ (18 เม.ย.) ที่ท่าข้าวบริษัท พงษ์ลาภ จำกัด  ม.3 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องประชุมหารือร่วมกับองค์กรภาคเอกชน อาทิ สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย สมาคมชาวนาข้าวไทย และสมาคมส่งเสริมเกษตรกรชาวนาอีสาน สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย และสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เพื่อประเมินสถานการณ์การผลิตและการส่งออกข้าวไทยในภาพรวม พร้อมกำหนดแนวทางมาตรการการส่งออกข้าวให้สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน 



นายจุรินทร์  กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ประเทศผู้ส่งออกข้าวได้ออกมาตรการควบคุมการส่งออกข้าวชั่วคราว อาทิ เวียดนาม อนุญาตให้ส่งออกข้าวปริมาณ 400,000 ตันต่อเดือน ในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม 2563 ขณะที่เมียนมาจำกัดการส่งออกที่ปริมาณ 100,000 ตันต่อเดือน และจะไม่มีการออกใบอนุญาตส่งออกเพิ่มเติม ส่วนกัมพูชาระงับการส่งออกข้าวขาวและข้าวเปลือก ซึ่งจากมาตรการต่าง ๆ ของประเทศผู้ส่งออกข้าวดังกล่าว ทำให้ประเทศผู้นำเข้าข้าว เช่น ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง สิงคโปร์ และสหรัฐ มีแนวโน้มหันมานำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น คาดว่าปี 2563 ไทยจะสามารถส่งออกข้าวได้ 7.5 ล้านตัน ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

ทั้งนี้ ช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 (มกราคม – มีนาคม) ไทยส่งออกข้าวปริมาณรวม 1.53 ล้านตัน (เฉลี่ย 5.1 แสนตันต่อเดือน) ลดลงจากไตรมาสแรกของปี 2562 ร้อยละ 36.48 โดยมีสาเหตุหลักจากราคาข้าวไทยปรับตัวสูงขึ้นกว่า 200 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะด้านการขนส่ง การกระจายสินค้า และการขาดแคลนแรงงาน อีกทั้งประเทศผู้ส่งออกข้าวที่สำคัญอย่างเวียดนามกัมพูชา และเมียนมา ออกประกาศควบคุมการส่งออกข้าวในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว จึงทำให้ข้าวไทยมีคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ประกอบกับสภาวะภัยแล้งที่อาจส่งผลต่อ

ปริมาณผลผลิตข้าวของไทย ทำให้ราคาข้าวไทยปรับตัวสูงขึ้นมาก เมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง อย่างไรก็ดี คาดว่าในไตรมาส 2 (เมษายน – มิถุนายน) ไทยจะสามารถส่งออกข้าวได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีคำสั่งซื้อข้าวคุณภาพดีจากหลายประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากประเทศคู่แข่งสำคัญของไทย ยังติดปัญหาเรื่องการขนส่งสินค้าในระหว่างที่ใช้มาตรการปิดประเทศ (Lockdown) และควบคุมการส่งออกข้าวชั่วคราว ในไตรมาส 2 คาดว่าไทยจะสามารถส่งออกข้าวได้ประมาณ 1.99 ล้านตัน (เฉลี่ย 663,289 ตันต่อเดือน)

นอกจากนี้ จากการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมข้าว ทั้งผู้แทนภาคเกษตรกร โรงสีและผู้ส่งออก ถึงสถานการณ์ตลาดข้าวไทยปีนี้ ทำให้มั่นใจว่าไทยยังมีปริมาณสต็อกข้าวซึ่งเพียงพอต่อการบริโภคในประเทศและการส่งออก โดยคาดว่าในฤดูการผลิตปี 62 / 63 จะมีผลผลิตข้าวรวมประมาณ 18.5 ล้านตันข้าวสาร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง