BIG STORY : เตรียมรับคนไทยกลับจากมาเลเซีย ป้องกันโควิด-19 ระลอกใหม่

สงขลา 16 เม.ย. – วันเสาร์นี้ (18 เม.ย.) ด่านชายแดน 23 แห่ง ใน 21 จังหวัดทั่วประเทศ จะเปิดให้คนไทยเดินทางกลับเข้าประเทศตามจำนวนที่ทางการกำหนด เช่นเดียวกับ 5 ด่านชายแดนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลายฝ่ายกำลังเตรียมความพร้อมรับมือเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ในพื้นที่


คนไทยที่จะเดินทางกลับเข้าประเทศที่ด่านพรมแดนสะเดา ทุกคนจะต้องผ่านกระบวนการคัดกรองเข้มข้น เริ่มตั้งแต่การตรวจสอบรายชื่อ เอกสารใบรับรองแพทย์ และหนังสือรับรองจากสถานทูต ก่อนเข้าสู่กระบวนการตรวจคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ที่จะต้องไม่เกิน 37.3 องศา หากอุณหภูมิสูงกว่าที่กำหนดจะถูกแยกตัวออกจากผู้เดินทางทั้งหมด เพื่อทำการตรวจซ้ำ โดยมีทีมแพทย์และพยายาลซักประวัติย้อนหลัง ป้องกันการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หากพบเข้าเกณฑ์เสี่ยงติดเชื้อจะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลทันที แต่หากไม่มีไข้และผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ จะมีรถมารับเพื่อส่งตัวไปยังสถานที่กักกันตามที่แต่ละจังหวัดกำหนด ส่วน จ.สงขลา จะแยกไปกักตัวตามอำเภอที่มีภูมิลำเนาเป็นเวลา 14 วัน   


กลุ่มเสี่ยง หรือผู้มีอาการไข้ ไอ หอบเหนื่อย มีประวัติเข้าร่วมกิจกรรมศาสนา และอยู่ในที่แออัด จะถูกส่งตัวมาที่ รพ.สะเดา และ รพ.ปาดังเบซาร์ เพื่อตรวจเพาะเชื้ออย่างละเอียด สังเกตอาการเป็นเวลาอย่างน้อย 1 คืน หากพบติดเชื้อจะถูกส่งต่อไป รพ.หาดใหญ่ นาหม่อม แต่หากไม่พบเชื้อ จะถูกส่งตัวต่อไปยังสถานที่กักกัน ซึ่งประกอบด้วย โรงแรมเอ็มโซโฮ โรงแรมสาธิตแกรนวิลล์ และสนามกีฬาพรุค้างคาว รองรับได้มากกว่า 400 คน


วันนี้ รพ.สะเดา ได้ซ้อมส่งตัวกลุ่มเสี่ยงที่ตรวจแล้วไม่พบเชื้อร่วมกับโรงแรม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับบุคลากรการแพทย์ โรงแรม และชุมชน ทุกขั้นตอนจะลดการสัมผัสกลุ่มเสี่ยง ตั้งแต่รรับและส่งตัวจากโรงพยาบาลไปจนถึงโรงแรม มีระบบคิวอาร์โค้ด แจ้งวิธีปฏิบัติตน ให้คำปรึกษา รวมทั้งการรายงานผลการวัดอุณหภูมิของผู้ที่ถูกกักตัว ซึ่งไม่อนุญาตให้ออกจากห้องพักแต่อย่างใด

มีการคาดการณ์ว่าจะมีผู้เดินทางกลับประเทศผ่านด่านชายแดนในจังหวัดชายแดนใต้ประมาณ 3,000-8,000 คน ในจำนวนนี้เป็นคนในพื้นที่ร้อยละ 50-60 ที่เหลือกระจายไปในแต่ละภูมิภาค โดยด่านสะเดา จ.สงขลา สามารถเดินทางกลับเข้าประเทศได้ไม่เกิน 100 คนต่อวัน เช่นเดียวกับด่านสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ส่วนที่ด่านเบตง จ.ยะลา ด่านวังประจัน และด่านตำมะลัง จ.สตูล อนุญาตให้เดินทางกลับได้ไม่เกิน 50 คนต่อวัน 

การมีมาตรการรองรับที่รัดกุม และความร่วมมือจากผู้ที่เดินทางกลับเข้าสู่ประเทศ จะเป็นส่วนสำคัญในการยับยั้ง ป้องกัน และลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ