สธ.พบตัวเลขผู้ติดเชื้อในบ้านสูงขึ้น ย้ำมาตรการเว้นระยะห่าง

สธ.15เม.ย.-สธ.เผยตัวเลขผู้ติดเชื้อในครอบครัวเดือน เม.ย. (1-12เม.ย.)สูงร้อยละ 23 ของผู้ป่วยรายใหม่ ย้ำอย่าหย่อนมาตรการ รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล เลี่ยงการออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่


นพ.อนุพงค์ สุจริยากุล นายแพทย์ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทยขณะนี้ มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยวันนี้มีจำนวนผู้ป่วยกลับบ้านได้มากกว่าผู้ป่วยรายใหม่ เป็นผู้ป่วยกลับบ้านได้ 92 ราย (สะสม 1,497 ราย) ผู้ป่วยรายใหม่ 30 ราย ทำให้มีผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาล 1,103 ราย 


อย่างไรก็ตาม เมื่อจำแนกผู้ป่วยจากแหล่งที่ติดเชื้อในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ระหว่างเดือนมีนาคม ถึง เมษายน 2563 พบว่าในเดือนมีนาคมพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19  จำนวน 1,054 ราย  สาเหตุส่วนใหญ่ติดเชื้อจากนอกบ้านสูงถึงร้อยละ77 รองลงมาเป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศร้อยละ 15 และเป็นการติดเชื้อในบ้านร้อยละ 8 


ส่วนเดือนเมษายน (ข้อมูลวันที่ 1-12 เมษายน 2563) พบผู้ป่วย 460 ราย เป็นการติดเชื้อจากนอกบ้านร้อยละ 60 ติดเชื้อในบ้านเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 23 ราย ส่วนติดเชื้อจากต่างประเทศพบร้อยละ17 

จากข้อมูลข้างต้น พบว่าการติดเชื้อภายในบ้านมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มาจากการรับเชื้อภายนอกเขามา อาทิ จากผู้ทำงานนอกบ้าน จับจ่ายซื้อของ ทำธุระนอกบ้าน ลูกหลานไปรวมกลุ่มสังสรรค์ แม้กระทั่งจากผู้ที่มาหาที่บ้าน

ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนปฏิบัติตนปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดทั้งขณะที่อยู่ในบ้านและนอกบ้าน โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ โดยผู้ที่ทำงานนอกบ้านหรือผู้ที่ออกนอกบ้านเป็นบุคคลสำคัญที่อาจนำเชื้อเข้ามาให้คนในครอบครัว เมื่อกลับถึงบ้านให้รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทันที 

จัดให้มีพื้นที่สะอาดส่วนกลางภายในบ้าน ไม่นำสัมภาระที่ใช้นอกบ้าน  เข้ามาในบริเวณนี้ อาทิ รองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้าที่สวมใส่แล้ว แยกสำรับอาหารส่วนตัว ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น หากออกนอกบ้านต้องใส่หน้ากากอนามัยหน้ากากผ้า หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลเพื่อลดโอกาสการนำเชื้อจากนอกบ้านมาติดสมาชิกในครอบครัว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง