ตร.ภาค 1 จับหน้ากากอนามัย-เจลแอลกอฮอล์ปลอม

กทม.15 เม.ย.- ตำรวจภูธรภาค 1 จับผู้ต้องหา พร้อมยึดหน้ากากอนามัยเกือบ 1.5 แสนชิ้น เจลแอลกอฮอล์ปลอม 617 ลิตร  


ของกลางที่ตรวจยึดได้แบ่งเป็น 2 คดี คดีแรกเป็นการสืบสวนขยายผลจากการจับกุมเพจเฟซบุ๊ครายหนึ่ง สามารถจับกุมนางสาวฐิติพร ศิริฉาย พร้อมหน้ากากอนามัย 11,745 อัน ที่หมูบ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่บางหว้า เขตภาษีเจริญ 


สอบสวน นางสาวฐิติพร สารภาพว่า รับหน้ากากอนามัยมาจากแหล่งผลิต คือ บริษัท ซาแวนท์ เอ็นจิเนียร์ริ่ง จำกัด ตั้งอยู่ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ฝ่ายสืบสวนจึงนำกำลังพร้อมสนธิกำลังผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจค้น  พร้อมยึดหน้ากากอนามัยยี่ห้อ เอส เอ็ม พี บรรจุในลังสีน้ำตาลและในกล่องพลาสติก จำนวน 138,000 ชิ้น หากขายในเฟซบุ๊คทั่วไปจะขายชิ้นละ 12 บาท รวมมูลค่ากว่า 1.6 ล้าน มีนายบรรพต แก้ววารี แสดงตนเป็นเจ้าของบริษัท สอบสวนยอมรับว่า ของกลางบางส่วนเป็นของตนแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ขณะเดียวกันยังพบของกลางบางส่วนอยู่ในรถตู้บรรทุกสินค้า มีนายอนัฐ ขุนไชย แสดงตนเป็นเจ้าของ และให้การว่ามีผู้ว่าจ้างชื่อเฟย ว่าจ้างมารับสินค้าที่บริษัทดังกล่าว หลังแจ้งข้อหา นายบรรพต ยินยอมยกหน้ากากอนามัยของกลางให้ตำรวจนำไปใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ รวมหน้ากากอนามัยที่ยึดได้ทั้งหมด 149,745 อัน

อีกคดี เป็นการสืบสวนจับกุมของตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ตรวจยึดแอลกอฮอล์และเจลล้างมือไม่ได้มาตรฐาน หลังสืบทราบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อโอ๊ะโอ๋ ประกันซิ่ง มีพฤติการณ์โฆษณาจำหน่ายสินค้าประเภทแอลกอฮอล์หรือเจลล้างมือโดยเชื่อว่าเป็นสินค้าที่ผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงขอหมายค้นเข้าค้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ มีนายชาญชัย วทิชานนท์ แสดงตัวเป็นเจ้าบ้าน พร้อมตรวจยึดของกลางแอลกอฮอล์เจล บรรจุแกลลอนตั้งแต่ขนาด 1ลิตร ถึง 5ลิตร จำนวน 505 แกลลอน ทั้งหมด 617 ลิตร พร้อมทั้งแผ่นสติ๊กเกอร์ติดภาชนะ มีตัวอักษรภาษาอังกฤษคำว่า Alcohol 70% จำนวนมาก 


นายชาญชัย ยอมรับว่า โฆษณาและจำหน่ายสินค้าแอลกอฮอล์เจล ล้างมือในเฟซบุ๊คให้กับประชาชนโดยไม่มีเอกสารจดแจ้งจริง ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา” ขายเครื่องสำอางเครื่องใช้ฉลากไม่เป็นไปตามที่จดแจ้ง และขายเครื่องสำอางไม่ได้จดแจ้ง ก่อนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ รับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะเดียวกันนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำรายชื่อกว่า 100 บริษัท มามอบให้กับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ให้ทำการสืบสวนจับกุมบริษัทที่กระทำความผิดในลักษณะนี้ด้วย 

พลตำรวจโทอำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า สำหรับรายชื่อที่นายอัจฉริยะ นำมาให้จะตรวจสอบข้อมูล เพื่อสืบสวนขยายผล จับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ยอมรับว่า ตำรวจชุดสืบสวนมีข้อมูลของบริษัทที่กระทำความผิดลักษณะนี้ โดยได้ส่งชุดลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนเข้าตรวจยึดจับกุม เพราะบุคคลเหล่านี้ ฉวยโอกาสช่วงวิกฤต เอารัดเอาเปรียบประชาชนต้องปราบปรามให้สิ้นซาก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย