พลิกโควิดเป็นโอกาสจับมือภาคการผลิต ตลาด ส่งออก ฟื้นเศรษฐกิจ

นนทบุรี 15 เม.ย. – พาณิชย์เตรียมพลิกโควิดเป็นโอกาส เดินสายจับมือภาคการผลิต การตลาด การส่งออก ทั้งข้าว-อาหาร-บริการ ฟื้นเศรษฐกิจ


น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า จากการที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ เตรียมการร่วมมือกับภาคเอกชน เพื่อพลิกโควิดเป็นโอกาสโดยให้ความสำคัญกับกลุ่มสินค้าและบริการที่มีศักยภาพของไทย ทั้งสินค้าเกษตรและอาหาร เช่น ข้าว ผลไม้ต่าง ๆ อาหารสำเร็จรูป ไก่ อาหารทะเล และภาคบริการ เช่น ร้านอาหาร แฟรนไชส์ โลจิสติกส์ และดิจิทัลคอนเทนท์ โดยจะหารือกับเกษตรกร สหกรณ์ ผู้ประกอบการขนาดใหญ่และขนาดกลางขนาดย่อม ตลาดการค้าส่งค้าปลีก โมเดิร์นเทรด แพลตฟอร์มออนไลน์ และผู้ส่งออก โดยเป้าหมายใหญ่คือ เตรียมพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ทั้งภาคการผลิตและการตลาดในช่วงหลังโควิด ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการค้าโดยรวม รวมทั้งเศรษฐกิจฐานรากในที่สุดด้วย


ทั้งนี้ กรมต่าง ๆ กำลังจัดเตรียมเปิดรับฟังปัญหา หาวิธีการแก้ปัญหาในพื้นที่ และวางแผนการทำงานในอนาคต ร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ หลากหลายในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2563 โดยต้องการให้กระทรวงพาณิชย์มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม และใช้กลไกที่กระทรวงมีอยู่แล้ว เช่น พาณิชย์จังหวัด พาณิชย์ต่างประเทศ เสริมกับเครื่องมือสมัยใหม่ เช่น การค้าออนไลน์ แอปพลิเคชั่น และหาแนวทางการเชื่อมโยงกลไกของกระทรวงพาณิชย์กับองค์กรภาคเอกชนทั้งส่วนกลางและท้องถิ่น เช่น สภาหอการค้า  สภาอุตสาหกรรม เป็นต้น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าไทยทั้งในประเทศ และการส่งออก รวมทั้งท่านได้สั่งการให้พิจารณาของบประมาณเพิ่มเติมหากจำเป็น เช่น เตรียมเงิน คชก.ไว้สำหรับเกษตรกร โดยเห็นว่า แม้สถานการณ์โควิดจะยังไม่หมดสิ้นไป แต่กระทรวงพาณิชย์จะอยู่เฉยไม่ได้ต้องเร่งเตรียมการ เมื่อมีโอกาสจะขับเคลื่อนการค้าได้ทันที

อย่างไรก็ตาม เพื่อเตรียมการหากับกลุ่มต่าง ๆ ข้างต้น สนค.ได้ทำการศึกษาวิเคราะห์การนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก และคัดเลือก 37 รายการสินค้าศักยภาพ บางรายการตลาดโลกยังอาจจะนำเข้าจากไทยเพิ่มได้ เช่น กุ้งแช่เย็นแช่แข็ง ซึ่งปัจจุบันไทยมีสัดส่วนในตลาดโลกเพียงร้อยละ 4.4 หรือลิ้นจี่ไทยมีสัดส่วนตลาดโลกร้อยละ 6 ขณะที่สินค้าบางรายการไทยทำได้ดีอยู่แล้วแต่ต้องรักษาไม่ให้สัดส่วนลดลง เช่น ข้าวสาร ทูน่ากระป๋อง และไก่แปรรูป ซึ่งมีสัดส่วนตลาดโลกที่ร้อยละ 24.6, 27.3 และ 31.2 ตามลำดับ 


นอกจากนี้ สนค.ได้ศึกษารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอาหารในอนาคต (Future food trends) โดยคัดเลือก 6 แนวโน้มที่ไทยอาจจะรุกตลาดมากขึ้น ได้แก่ 1. ตลาดอาหารรักษาสุขภาพ  2. อาหารที่มีการผลิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 3 . สินค้าพรีเมี่ยมที่มีจุดขายเฉพาะ เช่น น้ำตาลต่ำ อาหาร plant-based หรือคีโต (ketogenic) 4.อาหารสำหรับกลุ่มผู้สูงวัย  5. การให้ข้อมูลกับผู้บริโภคมากขึ้นและโปร่งใส และ 6. สินค้าที่มีเรื่องราว เช่น สินค้า GI, OTOP เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีสินค้าฮาลาลอีกกลุ่มหนึ่งที่กระทรวงพาณิชย์จะสนับสนุนต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว