นนทบุรี 15 เม.ย. – พาณิชย์จับมือเซ็นทรัลช่วยเหลือผู้ประกอบการโอทอปและเอสเอ็มอี นำสินค้าจำหน่ายบนเว็บไซต์สุดฮิต JD Central ย้ำไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ธุรกิจเกือบทุกระดับได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อมไม่สามารถจำหน่ายสินค้าผ่านหน้าร้านได้ตามปกติ ผู้ประกอบการที่ใช้ช่องทางออนไลน์ในการจำหน่ายสินค้าก็ยังพอประคับประคองธุรกิจให้เดินต่อไปได้ แต่มีผู้ประกอบการอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถใช้ช่องทางออนไลน์ในการกระจายสินค้าด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้จับมือกลุ่มเซ็นทรัล (กลุ่มธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ของประเทศ) ช่วยเหลือผู้ประกอบการโอทอปและเอสเอ็มอีของไทยในการขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เนื่องจากเป็นกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดธุรกิจหนึ่ง โดยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการทั้ง 2 กลุ่ม นำสินค้าขึ้นจำหน่ายบนเว็บไซต์ JD Central (www.jd.co.th) ซึ่งเป็นตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี-มาร์เก็ตเพลส) ขนาดใหญ่ระดับประเทศ ที่รวบรวมสินค้าอุปโภค-บริโภคและสินค้าอื่น ๆ กว่า 50,000 รายการ มีผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้าเยี่ยมชม/ซื้อสินค้าประมาณ 1.5 ล้านคนต่อปี โดย JD Central จะจัดหมวดหมู่แยกประเภทสินค้าโอทอป และสินค้าเอสเอ็มอี ออกมาโดยเฉพาะ เพื่อให้ผู้บริโภคเยี่ยมชม/ซื้อสินค้าได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้คัดเลือกผู้ประกอบการโอทอปและเอสเอ็มอีที่อยู่ในการส่งเสริมของกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงร้านจำหน่ายสินค้าโอทอปบนท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต เข้าจำหน่ายสินค้าบนเว็บไซต์ JD Central จำนวน 2,275 ราย แบ่งเป็น 1.ผู้ประกอบการโอทอป ซีเล็กซ์ จำนวน 1,818 ราย (กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม 465 ราย กลุ่มผ้าและเครื่องแต่งกาย 749 ราย กลุ่มของใช้ ของตกแต่งบ้าน ของที่ระลึก 456 ราย และกลุ่มสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร 148 ราย) 2.ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จำนวน 457 ราย (กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม 185 ราย กลุ่มของตกแต่งบ้าน เครื่องแต่งกาย เครื่องสำอาง 225 ราย และ กลุ่มบริการต่างๆ47 ราย) โดยนอกจาก JD Central จะให้ผู้ประกอบการนำสินค้าขึ้นจำหน่ายบนเว็บไซต์ฯ โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมแล้ว ยังช่วยเหลือด้านการสร้างร้านค้า การทำกราฟฟิกตกแต่งร้านค้า และสร้างสินค้าในร้าน 30 รายการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย รวมถึง บริการโลจิสติกส์รับสินค้าจากร้านผู้ประกอบการนำส่งถึงมือผู้บริโภคอีกด้วย
นอกจากนี้ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย “ช้อปของดี…การันตีของแท้” ของ JD Central ได้กำชับผู้ประกอบการที่จะนำสินค้าขึ้นจำหน่ายบนเว็บไซต์ฯ ว่าต้องคัดเลือกสินค้าที่ดีมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ราคาสมเหตุผล สินค้าถูกต้องตามกฎหมาย และสินค้าที่ต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานเฉพาะ ก็ต้องได้รับการรับรองและมีเครื่องหมายแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน เช่น เครื่องสำอาง ก็ต้องได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) เป็นต้น จึงจะสามารถนำขึ้นจำหน่ายบนเว็บไซต์ฯ ได้
ทั้งนี้ กรมฯ และ JD Central จะร่วมกันพิจารณาสินค้าก่อนนำขึ้นเว็บไซต์ฯ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อสินค้าที่ดีมีคุณภาพ ราคาสมเหตุผล สามารถนำไปอุปโภคบริโภคด้วยความมั่นใจ และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงเวลาที่ต้อง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการคัดเลือกสินค้า โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้ผู้บริโภคเข้าเลือกซื้อสินค้าโอทอปและเอสเอ็มอีบนเว็บไซต์ JD Central ได้ประมาณต้นเดือนพฤษภาคมนี้ เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือกัน เพื่อให้อุปสรรคครั้งนี้ผ่านพ้นไปด้วยดีธุรกิจขนาดใหญ่ที่ให้ความช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กโดยไม่ทิ้งกันในช่วงวิกฤตนี้ จะทำให้เกิดพันธมิตรทางธุรกิจในระยะยาวเพราะการช่วยเหลือกันในยามยากจะเป็นพันธมิตรที่ยั่งยืนในอนาคต โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร. 0 2547 5959, 0 2547 5961 e-Mail : e-commerce@dbd.go.th สายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th ได้.-สำนักข่าวไทย