ทำเนียบรัฐบาล 14 เม.ย. ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (ฝ่ายสหรัฐอเมริกา) เข้าพบโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินงานของสถาบันรวมทั้งการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19
บ่ายวันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล พันเอกนายสัตวแพทย์ ดร.เอริค ดี. ลอมบาร์ดินี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (ฝ่ายสหรัฐ) หรือ AFRIMS เข้าพบ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ดร.เอริค ดี. ลอมบาร์ดินี กล่าวระหว่างการสนทนากับโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า AFRIMS เป็นความร่วมมือระหว่างกองทัพบกของไทย กับ กองทัพบกสหรัฐ ที่ยาวนาน มุ่งเน้นการควบคุมและกำจัดโรคระบาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคระบาดเขตร้อน เช่น มาลาเรีย ไข้เลือดออก ชิคุนกุนยา และ ซิกา ในอดีตเคยทำงานด้านโรคท้องร่วงและโรคเอดส์ด้วย เป็นความร่วมมือด้วยมิตรภาพอย่างยาวนาน 60 ปี ระหว่างกองทัพบกของทั้งสองประเทศ
“โรคโควิด-19 ก็เป็นด้านหนึ่งที่เราสามารถปรับการทำงานจากสิ่งเคยทำมา จากที่เคยแต่พัฒนายาและวัคซีน เพื่อปกป้องคนไทยและอเมริกัน รวมไปถึงบุคลากรกองทัพ จากความสำเร็จในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา ทำให้สามารถสร้างเสริมสาธารณสุขและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนทั่วโลก แต่นั่นเป็นเพียงด้านหนึ่งเท่านั้น เรายังได้ปรับเปลี่ยนบทบาทมาทำงานด้านการเฝ้าระวังด้วย เราได้ช่วยสร้างแผนที่การระบาดของโรค ทั้งไข้เลือดออก มาลาเรีย และ จุลชีพดื้อยา ทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ เอเชียใต้” ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (ฝ่ายสหรัฐ) กล่าว
ดร.เอริค ดี. ลอมบาร์ดินี กล่าวต่อไปว่า สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (ฝ่ายสหรัฐ) หรือ AFRIMS ทำงานใน 5 ประเทศในเอเชีย โดยมีสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพ เป็นความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างกองทัพบกไทยและสหรัฐ แล้วยังมีห้องแล็บย่อย ในกรุงกาฐมาณฑุ ของเนปาล ในกัมพูชา และ ฟิลิปปินส์ นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ประจำการร่วมอยู่ในกองทัพของออสเตรเลีย
“ดังนั้นเราจึงสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของโรคต่างๆ ในพื้นที่ แล้วแบ่งปันให้หน่วยงานต่างๆที่เป็นหุ้นส่วนกัน ทั้งกองทัพบกไทย หน่วยงานของสหรัฐเช่น ศูนย์ควบคุมโรคระบาด หรือ CDC และ USAID นั่นทำให้รัฐบาลทั้งสองสามารถล่วงรู้ได้ดีขึ้นว่า จะเกิดปัญหาขึ้นที่ไหน และ วิธีใดดีที่สุดในการต่อสู้” ดร. เอริค ดี. ลอมบาร์ดินี กล่าว
ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (ฝ่ายสหรัฐ) เปิดเผยว่า สิ่งสำคัญอย่างหนี่งเกี่ยวกับ AFRIMS คือ เป็นหน่วยงานที่มีเจ้าหน้าที่ 500 คนที่ทำงานด้านการป้องกันและกำจัดโรค และ ศึกษาโรคต่างๆ ด้วย โดยเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่นั้นเป็นคนไทย ดังนั้นจึงเปรียบเหมือนเพชรเม็ดงามของทั้งไทยและสหรัฐในแง่ของการควบคุมโรคระบาด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เหล่านั้นมีทั้งที่เป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ แพทย์ เจ้าหน้าที่เทคนิค เป็นบุคคลที่สำคัญมากในการทำวิจัย
“ในนามของ สถานทูตสหรัฐ กองทัพบกสหรัฐ และ AFRIMS ผมขอให้ชาวไทยทุกคน มีความสุข ปลอดภัย และ สุขภาพในสงกรานต์นี้ ผมมั่นใจว่าเราจะสามารถกลับมาฉลองกันได้ในบรรยากาศที่สดใสตามปกติได้ แต่ในขณะนี้เราจำเป็นต้อง คิดถึงการปกป้องคนที่เรารัก ดังนั้นขอให้ทุกท่านมีความสุข ปลอดภัย และมีสุขภาพดีในปีใหม่ไทยนี้” ดร.เอริค ดี. ลอมบาร์ดินี กล่าวในตอนท้าย.-สำนักข่าวไทย
