ร้านไม้ประดับ-ผักสวนครัว ขายดีช่วงโควิด-19

กทม.14เม.ย.-ร้านขายต้นไม้ย่านรามอินทรา ในวันครอบครัวขายดีมากขึ้น บางครอบครัวมาซื้อต้นไม้ไปปลูกเป็นกิจกรรมครอบครัว ในช่วง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ขณะที่อีกหลายคนอยู่ในช่วงพักงาน-ว่างงาน-ทำงานที่บ้าน (Work From Home) ก็มาซื้อเมล็ดพันธุ์ไปปลูกผักสวนครัวและปลูกผักสร้างรายได้เสริม   


วันที่ 14 เมษายน ของทุกปีเป็นวันครอบครัว ส่งผลให้บรรยากาศร้านขายไม้ดอกไม้ประดับ ย่านเลียบด่วนรามอินทรา ค่อนข้างคึกคัก ประชาชนทยอยออกมาเลือกซื้อต้นไม้ ดอกไม้และพืชผักสวนครัว ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน แม้ว่าปีนี้จะไม่ได้เป็นวันหยุดเช่นทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด-19 รัฐบาลจึงประกาศเลื่อนการจัดงานสงกรานต์และให้เป็นวันทำงานปกติ แต่หลายคนว่างงานและต้องทำงานจากที่บ้าน(Work From Home) ตามมาตรการทางสังคม “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” จึงมองหากิจกรรมยามว่างทำ เพื่อผ่อนคลายความเครียดด้วยการปลูกต้นไม้ ปลูกพืชผักสวนครัว ไว้รับประทานที่บ้าน เพื่อลดการเดินทางออกไปซื้อผักในตลาดและซูเปอร์มาร์เก็ต สำหรับตลาดดอกไม้ อยู่ในพื้นที่อนุโลมที่ กทม.อนุญาตให้เปิดได้ 


นางบุญตา ทรัพย์โสม เจ้าของร้านไม้ดอกไม้ประดับ(น้องแนน) กล่าวว่า  ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ร้านขายต้นไม้ถือว่ายอดขายไม่ตก โดยเฉพาะช่วงที่ กทม.ประกาศปิดห้างสรรพสินค้า สถานที่ต่างๆ และคนทำงานอยู่ที่บ้าน ยิ่งทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 50% และที่ขายดีจะเป็นพวกพืชผักสวนครัว ไม้ฟอกอากาศ ที่สามารถปลูกภายในบ้านได้  ซึ่งตนคิดว่าน่าจะเป็นเพราะคนทำงานที่บ้าน บางคนว่างงาน เลยอยากหากิจกรรมทำและปลูกผักสวนครัว เช่น พริก ตะไคร้ กระเพรา ผักบุ้ง  ผักคะน้า ไว้กินเอง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งไม่แพง  ราคาอยู่ที่ต้นละ 20 บาท หากเป็นเมล็ดพันธุ์ ซองละ15 บาท แต่พฤติกรรมการซื้อจะเปลี่ยนไป ลูกค้าจะไม่เดินเลือกซื้อนาน  รีบซื้อรีบไป ใส่หน้ากากอนามัย  แตกต่างจากเมื่อก่อน คือจะเลือกซื้อนาน เดินชมดอกไม้ไปเรื่อยๆ โดยทางร้านได้เตรียมเจลแอลกอฮอล์ไว้ให้ลูกค้าล้างมือด้วยเพื่อฆ่าเชื้อทุกครั้งที่เข้าร้าน และพนักงานใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกคน 


ด้าน น.ส.นิตติยา มารมย์ พนักงานห้างสรรพสินค้า กล่าวว่า ตนเองเป็นคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศปิดห้างสรรพสินค้า มาตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคมและไม่มีรายได้มาเกือบเดือนแล้ว  จึงมองหาอาชีพเสริม เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเช่าห้องและค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จึงตัดสินใจมาซื้อเมล็ดพันธุ์ผัก เพื่อไปปลูกไว้รับประทานเอง และปลูกขาย เพื่อให้สามารถอยู่รอดในช่วงวิกฤติเช่นนี้ไปได้ แม้ว่าจะมีบ้านอยู่ที่จ.อุบลราชธานี แต่ไม่คิดจะเดินทางกลับ เนื่องจากกลับไปต้องไปกักตัว เว้นระยะห่างจากครอบครัว ซึ่งมีผู้สูงอายุอยู่ไม่อยากเสี่ยง และไม่สามารถทำอะไรได้ จึงอยากพลิกวิกฤติหารายได้เสริม ซึ่งก็นำผักที่ปลูกไปฝากร้านค้าขายให้ และปลูกพวกผักสลัดไว้ทำสลัดขายด้วยอีกทาง ถือว่ายังพออยู่ได้   

ขณะที่นายวรท เล็กมณี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ที่บริษัทมีนโยบายให้พนักงาน Work From Home กล่าวว่า  ช่วงนี้ถือว่ามีเวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้นจึงหากิจกรรมทำ ปกติเป็นคนชอบปลูกต้นไม้อยู่แล้ว และถือเป็นครอบครัวใหญ่อยู่ร่วมกันของคนในบ้านจำนวนมากจึงอาสาที่จะออกมาซื้อต้นไม้เพื่อไปปลูกตกแต่งบ้าน ข้อดีคือมีเวลาอยู่บ้าน จัดและตกแต่งบ้านมากขึ้น  ข้อเสียคือหลายคนว่างงาน แต่สำหรับบริษัทที่ทำอยู่ เป็นธุรกิจเกี่ยวกับการออกบูธขายสินค้าตามห้างสรรพสินค้า พยายามประคับประคองสถานการณ์และมอบหมายให้พนักงานทำกิจกรรมที่จะพัฒนาทักษะ  ด้านการทำงานอยู่ที่บ้าน โดยไม่มีการให้ออกแต่ มีการปรับลดเงินเดือน 20-25% เพื่อความอยู่รอด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

พ่อขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิตจากตึก สตง.ถล่ม

พ่อของหนุ่มขอนแก่น วัย 35 ปี หนึ่งในผู้สูญหายจากอาคาร สตง.ถล่ม ขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิต ส่วนหนุ่มช่างประปา วัย 32 ปี เหยื่อตึก สตง.ถล่ม เผาแล้ว แม่ยังทำใจไม่ได้ สะอื้นไห้หน้าเมรุ

“ชัชชาติ” เผยเตรียมกู้ 5 ร่างที่พบ-ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเตรียมกู้ 5 ร่าง จาก 14 ร่างที่พบ ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน ยันไม่ขีดเส้นตายหยุดช่วยเหลือ ปรับแผนเพิ่มการรื้อถอนด้วยเครื่องจักรหนักควบคู่ไปมากขึ้น