ปชป.แนะ กยศ.ทบทวนมาตรการลดภาระหนี้

กรุงเทพฯ 11 เม.ย.-รองหัวหน้า ปชป.แนะ กยศ.ทบทวนมาตรการลดภาระหนี้ในช่วงแพร่ระบาดโควิด-19


นายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นข้อเสนอให้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เกี่ยวกับมาตรการลดภาระหนี้ของผู้กู้ยืม ซึ่งได้กำหนดออกมาก่อนหน้านี้ ว่า ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ผู้กู้ยืม กยศ.สามารถผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไปได้ การที่จะให้ผู้กู้ยืม กยศ.สามารถผ่านวิกฤติไวรัสนี้ไปได้ กยศ.ต้องกล้าหาญและต้องยึดประโยชน์ของผู้กู้ยืมเป็นหลัก พร้อมกับการสร้างเงื่อนไขเพื่อให้ผู้กู้ยืมสามารถกลับมาใช้คืนเงินที่ทำการกู้ยืมได้อย่างรวดเร็ว เพื่อ กยศ.จะได้มีเงินหมุนคืนกลับมายังกองทุนฯ ในการนำส่งไปยังนักเรียนและนักศึกษาที่มีความจำเป็นต่อไป

นายกนก กล่าวว่า มาตรการที่จะช่วยผู้กู้ยืม กยศ.ต้องยึดหลักความสะดวกและไม่ซับซ้อน เพื่อลดภาระของบุคคลตามสิทธิต่อกระบวนการดังกล่าว มีดังนี้ 1.ลูกหนี้ กยศ.ที่ยืนยันชำระหนี้ให้หมดภายใน 3 ปี (เม.ย.2566) ควรได้รับสิทธิประโยชน์ คือ ไม่มีเบี้ยปรับ, งดดอกเบี้ยค้างชำระ และลดเงินต้น 30% 2.ลูกหนี้ กยศ. ทั่วไป (นอกเหนือจากข้อ 1) จะได้รับสิทธิประโยชน์ คือ งดเบี้ยปรับตั้งแต่ 1 เม.ย. 2563-64, งดการหักเงินเดือนตั้งแต่ 1 เม.ย. 2563-64, ปลอดดอกเบี้ยตั้งแต่ 1 เม.ย. 2563-64 และระงับการขายทอดตลาด และชะลอการบังคับคดีตั้งแต่ 1 เม.ย. 2563-64 3.สำหรับกรณีผู้กู้ยืม กยศ.ที่เข้าร่วมมาตรการชำระหนี้ให้หมดภายใน 3 ปี ทำผิดสัญญา ขอให้ถือว่ายกเลิกสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับ และต้องกลับไปใช้เงื่อนไขตามปกติของ กยศ.บังคับแทน


“หลักการสำคัญที่ต้องไม่ลืม ผู้กู้ยืม กยศ.ต้องมีความรับผิดชอบต่อหนี้ที่ตนเองก่อขึ้น ด้วยการชำระคืนเงินกับทาง กยศ. ตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงเอาไว้ และต้องระลึกอยู่เสมอว่า กองทุน กยศ. ตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยให้โอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียน และนักศึกษาที่มีฐานะยากจน โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ดังนั้นการร่วมด้วยช่วยกันรักษาและพัฒนากองทุน กยศ.ให้มีความเข้มแข็ง เป็นเสมือนการรักษาโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็ก ๆ จากครอบครัวระดับฐานล่างอีกมากมายที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทอันห่างไกล” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง