ทนายอนันต์ชัยจ่อฟ้อง ปปช.เอาผิดตำรวจจับ 2 พม่า ขนเงินสด 16.5 ล้านเข้าไทย

กรุงเทพฯ 9 เม.ย.- “ทนายอนันต์ชัย” เผย ช่วยประกัน “2 หนุ่ม-สาวเมียนมาร์” ขนเงินเข้าไทย ยันมีหลักฐานซื้อขายกับ ปตท. จริง อัดยับ “ตำรวจทางหลวง” แถลงข่าวประจาน-จับกุมมิชอบ จ่อร้อง ป.ป.ช. แน่นอน


นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากนายจ่อเฮง นักธุรกิจน้ำมันชาวเมียนมาร์ พร้อมด้วย นายกริช อึ้งวิฑูรย์สถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมาร์ (TMBC) และผู้ก่อตั้งสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเมียนมาร์-ไทย (MTCC) เดินทางมาศาล เพื่อเข้าเยี่ยมและยื่นขอประกันตัวนายแตะป่ายอู อายุ 30 ปี กับ น.ส.มิโฉ่ อายุ 24 ปี ทั้งสองเป็นชาวเมียนมาร์ ซึ่งถูกจับกุมเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2563 จากกรณีขนเงินสด 16.5 ล้านบาท เข้าประเทศไทย ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก

นายอนันต์ชัย กล่าวว่า จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจับกุมชาวเมียนมาร์ทั้งสองที่หอบเงินมาเพื่อโอนให้กับ ปตท. ทำให้เกิดประเด็นว่าการกระทำชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เราต้องแยกประเด็น การนำเงินเข้ามาโดยไม่ผ่านศุลกากรผิดกฎหมาย มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท ต้องว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย ไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องการทำตามหน้าที่ของตำรวจทางหลวง ทำตามอำนาจหน้าที่หรือไม่ เมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.30 น. ตนได้รับการขอร้องจากนายจ่อเฮง นักธุรกิจพันล้าน ซื้อกับ ปตท. มีหลักฐาน 


เขากล่าวต่อไปว่า ปรากฏว่าหลังจับกุม ตำรวจทางหลวงจัดแถลงข่าว ตนขอคุยกับตำรวจยศนายดาบ ตนบอกอย่าแถลงข่าว เป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นเงินของนักธุรกิจเมียนมาร์ ทรงอิทธิพลด้านค้าขาย พื้นที่ของกะเหรี่ยง ถ้าปิดเมียวดีขึ้นมาจะทำอย่างไร และมีคำสั่ง ตร. ที่ 855/2548 กับ 465/2550 ห้ามอนุญาตหรือจัดให้สื่อมวลชนทุกแขนงถ่ายภาพ สัมภาษณ์ หรือให้ข่าวของบุคคลดังต่อไปนี้ คือผู้ต้องหาในระหว่างการควบคุมของตำรวจ การจัดแถลงข่าวผิดคำสั่ง ตร.หรือไม่ เอาเขามาประจานออกสื่อ เผยหน้า คุณกำลังละเมิดสิทธิมนุษยชน แล้วที่เขียนว่าตำรวจกองบังคับการขอเคลียร์ เขาไม่ได้ขอเคลียร์ เขาขอให้คุณทำตามกฎหมายทำไมไม่ทำ กลับเอาเขามาแถลงข่าว

นายอนันต์ชัย กล่าวถึงเรื่องการจับกุมว่า ตำรวจทางหลวงมีหน้าที่อะไร ตำรวจมีอำนาจจับกุมทั่วประเทศไม่เถียง แต่หน้าที่ของคุณหรือเปล่า นี่ท้องที่ สภ.แม่สอด คุณให้ข่าวว่าคุณตามตั้งแต่สะพานเมียวดีมา 200 เมตร ถึงจับกุม ใช่หน้าที่คุณหรือ เป็นหน้าที่ของ สภ.แม่สอด จับนอกพื้นที่ไม่ใช่หน้าที่ จับแล้วต้องทำตาม ป.วิอาญา มาตรา 83 สั่งให้ผู้ถูกจับไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับพร้อมด้วยผู้จับ มาตรา 84 ต้องเอาตัวผู้ถูกจับไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวนโดยทันที และให้ส่งตัวผู้ถูกจับแก่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจของที่ทำการของพนักงานสอบสวนดังกล่าว 

นายอนันต์ชัย กล่าวต่อไปว่า ใช้อำนาจจับกุมแล้วต้องส่ง สภ.แม่สอด ทันที แต่คุณเอาไปกักไว้ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวง ตั้งแต่ 10.00-24.00 น. แล้วมาส่งกองปราบฯ 7.00 น. ทำเพื่ออะไร กฎหมายเขาทำเพื่อไม่ให้มีการเรียกรับผลประโยชน์ อยากฝากบอกผู้บัญชาการสอบสวนกลางอย่าเชื่อลูกน้องมาก ไปดูกฎหมายเล่มเดียวกัน มีอำนาจไม่เถียง แต่ต้องทำตามกฎหมาย และที่สำคัญประธานสภาทนายความฯ แม่สอด ขอไปพบไม่ให้พบผู้ต้องหา ซึ่งเป็นสิทธิตาม ป.วิอาญา มาตรา 7 ผู้ถูกจับต้องพบทนาย


“ที่ผมมาเรียกร้องเนี่ย ไม่ใช่เรียกร้องอะไร เมื่อคุณบอกว่าเราทำผิดกฎหมาย ไม่เป็นไรดำเนินไป แต่คุณต้องทำตามกฎหมายด้วย กฎหมายเขาบอกเอาไว้ คุณต้องส่งท้องที่ เพื่อกันการเรียกรับผลประโยชน์ แต่คุณไม่ทำ ผมจึงให้คุณจ่อเฮงมาแจ้งความคนหายก่อนในเบื้องต้น และถามต่อว่าผมจะทำอะไรกับพนักงานตำรวจทั้ง 4-5 นาย ผมบอกได้เลยครับ ผมไม่มีวันที่จะไปแจ้งตำรวจหรอกครับ เพราะว่าพวกเดียวกันผมไม่แจ้ง ผมจะไปร้อง ป.ป.ช. เตรียมตัวก็แล้วกัน หลังจากวันนี้นะครับ แล้วผมอยากจะบอกฝากนะครับ เมื่อไหร่เกิดวิกฤตการณ์ปิดด่านขึ้นมา แล้วพวกคุณจะรู้สึก” นายอนันต์ชัย กล่าว

ด้าน นายกริช เปิดเผยว่า ตนรู้จักนายจ่อเฮงดี เป็นคนค้าขายใหญ่โต ไม่ใช่แค่เฉพาะในเมียวดี ในย่างกุ้งก็ใช่ และเป็นคนสนิทของทางกะเหรี่ยง ถ้าไปทำให้บรรยากาศการค้าเสีย ในอนาคตหลังโควิดไปแล้วจะกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งจะทำอย่างไร ในไทยเราเจอโควิดหนักหน่วง เศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้ว ถ้าเขาปิดด่านไม่ค้าขายกับเรา ตนนึกไม่ออกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย เขายินดีรับฟัง การเอาเงินข้ามมาอยู่ในช่วงวิกฤต ฝั่งพม่าธนาคารปิดหมด เขาต้องการชำระหนี้กับ ปตท. เป็นเรื่องปกติที่จะเอาเงินเข้ามา จับกุมเขาทาง ปตท. ก็ติดต่อเข้ามาหาทนาย เขายืนยันว่านายจ่อเฮงจะนำเงินมาชำระหนี้ให้กับเขา ถ้าเราอะลุ่มอล่วยกัน ทำอย่างไรก็ได้ให้เศรษฐกิจเราเดินหน้า เราไม่ได้มีเจตนาปฏิปักษ์กับใคร ให้ทุกอย่างอยู่ในความเป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนที่ตำรวจจับกุม เขาบอกไม่มีหลักฐานชี้แจงที่มาได้ นายอนันต์ชัย ทนายความกล่าวตอบว่า ไม่ใช่ เขาเอาหลักฐานการซื้อขาย ปตท. ไปให้ แต่ไม่ดู ไม่สนใจ ที่แถลงน่ะผิด เขามีหลักฐานซื้อขายจริง แต่ตำรวจไม่ดู ที่สำคัญการชี้เบาะแสได้รางวัลนำจับ 20% ตนไม่รู้มีนัยอะไรหรือเปล่า ตำรวจแถลง นักธุรกิจ-พยานแถลง จะเชื่อใครให้ประชาชนตัดสินใจเอาละกัน มีหลักฐานเป็นร้อยฉบับแต่ไม่ดู แต่เลือกแถลงข่าวเพื่อสร้างผลงาน ยังไงก็ไป ป.ป.ช. ชัวร์

เมื่อถามถึงวิธีการโอนเงินที่ถูกกฎหมาย นายกริช ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมาร์ กล่าวว่า วิธีการถูกกฎหมายนำเงินเข้ามาต้องไปสำแดงที่ศุลกากร ลูกน้องนายจ่อเฮงไม่ทราบ เขาไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อน เป็นประเพณีปฏิบัติที่คนอยู่ชายแดนหิ้วเงินข้ามมาจ่ายเป็นเรื่องปกติ คนไทยก็เอาเงินสดข้ามไปฝั่งพม่าโดยไม่ได้สำแดง เขาก็ยอมรับให้ปรับไปไม่เป็นไร ยอมทำตามกฎหมายทุกอย่างไม่ได้ดื้อ เดือนหนึ่งเขาซื้อ ปตท.ทั้งหมด 280 กว่าชุด วันนี้ธนาคารที่เมียวดีไม่มีสิทธิโอนเงินออกมา เขาต้องโอนเข้าไปในย่างกุ้ง แล้วย่างกุ้งถึงโอนออกมาอีกที ทีนี้ธนาคารที่ย่างกุ้งปิดหมด ทำไม่ได้ ถึงเวลาชำระเงินแล้วเขาก็หิ้วเงินมาชำระหนี้ให้ ระบบออนไลน์ไม่มี เขาเพิ่งจะเปิดประเทศ ต้องอะลุ่มอล่วยกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

ทบ.ยันไม่พบทหารกัมพูชาปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต

กทม. 15 มิ.ย.-กองทัพบก ยืนยันไม่พบทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธครบมือ ปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต ขอฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น จากกรณีเพจแจ้งข่าวศรีสะเกษ เผยแพร่ข่าวทหารกัมพูชา พร้อมอาวุธครบมือ ปิดถนนทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต บริเวณช่องบก ห้ามไม่ให้ทหารไทยขึ้นไปซ่อมแซมถนน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา เป็นครั้งที่ 2 เมื่อเวลา 12.45 น. ล่าสุด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่ พบว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว โดยขอให้ฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการเป็นหลัก หรือสามารถสอบถามกองทัพบกได้เป็นกรณีไป พร้อมระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการทำถนนไว้ส่งกำลังบำรุง แต่อยู่ในเขตเราทั้งหมด ซึ่งทางกัมพูชาเข้าใจ.-313.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย